1 |
|
5. ผิดทุกข้อ |
|
ยาที่ดีต้องโครงสร้างหรือองค์ประกอบที่ชัดเจนและละเอียด
|
พันธะไฮโดรเจน (อังกฤษ: Hydrogen bond) เป็นอันตรากิริยานอนโคเวเลนต์ชนิดหนึ่ง ที่เกิดขึ้นระหว่างอะตอมที่มีสภาพลบหรือมีอิเล็กโทรเนกาทิวิตีสูงกับอะตอมของไฮโดรเจนที่สร้างพันธะโควาเลนต์กับอะตอมที่มีอิเล็กโทรเนกาทิวิตีสูงอีกอะตอมหนึ่ง พันธะไฮโดรเจนจัดเป็นแรงทางไฟฟ้าสถิตระหว่างสภาพขั้วบวกและสภาพขั้วลบ หรือเป็นอันตรกิริยาแบบขั้วคู่-ขั้วคู่ ทั้งนี้ พันธะไฮโดรเจนอาจเกิดขึ้นภายในโมเลกุลหรือระหว่างโมเลกุลก็ได้ พลังงานพันธะไฮโดรเจนอยู่ระหว่าง 5-30 kJ/mol ซึ่งมีความแข็งแรงมากกว่าแรงแวนเดอร์วาล์ว แต่อ่อนกว่าพันธะโคเวเลนต์และพันธะไอออนิก อนึ่ง ในโมเลกุลขนาดใหญ่ เช่น โปรตีน หรือ กรดนิวคลีอิก ก็อาจมีพันธะไฮโดรเจนภายในโมเลกุลได้
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
2 |
|
1. Ampicillin |
|
เพราะยาAmpicillin มีลักษณะโครงสร้างโมเลกุลแบบExtension
|
Ampicillin มีลักษณะเป็นยาเป็นโมเลกุลแบบExtension
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
3 |
|
5. ถูกมากกว่า 1 ข้อ |
|
ยาส่วนใหญ่มีโมเลกุลที่คล้ายกัน
|
ยาที่ใช้รักษาโรคส่วนใหญ่เป็นกลุ่มยาปฏิชีวนะ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
4 |
|
2. Warfarin |
|
Wafarin ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับ การต้านการแข็งตัวของเลือด
|
ยาในกลุ่ม Fluoroquinolones ทั้ง 3 ตัวได้แก่ Norfloxacin, Ofloxacin, Ciprofloxacin ถูกน ามาใช้ มากในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะโดยยาเหล่านี้มีความแตกต่างในด้านสูตรโครงสร้างรวมถึง คุณสมบัติทางด้านเภสัชจลนศาสตร์และเภสัชพลศาสตร์ซึ่งความแตกต่างนี้จะส่งผลต่อการออกฤทธิ์และ ความครอบคลุมเชื้อที่แตกต่างกัน
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
5 |
การจับยากับตำแหน่งจับของโปรตีน disulfide bond ไม่เกี่ยวข้องกับโรคใด
|
5. ผิดมากกว่า 1 ข้อ |
|
การจับยากับตำแหน่งจับของโปรตีน disulfide bond ไม่เกี่ยวข้องกับโรคใดที่กล่าวมา
|
พันธะไดซัลไฟด์ (disulfide bond) คือ พันธะโควาเลนท์ที่แข็งแรงระหว่าง กรดแอมิโนซิสเตอีน (cysteine) ที่อยู่ในโครงสร้างระดับปฐมภูมิ ทำให้เกิดม้วนพับของโปรตีน โดยการสร้างเป็นพันธะที่อยู่ห่างกันในโครงสร้าง
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
6 |
ความเข้มข้นของยาในกระแสเลือดของผู้ป่วยหลังจาก t ชั่วโมง จำลองตามสูตร C (t) = 5(8)^t โดยที่ C วัดเป็นมิลลิกรัมต่อลิตร ความเข้มข้นของยาจะเป็น 80 มิลลิกรัมต่อลิตร ที่กี่ชั่วโมง
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
7 |
ข้อใดเกี่ยวข้องกับ plasma measures of GFAP
|
4. CSQ levels |
|
เกี่ยวข้องทุกข้อยกเว้นข้อ4
|
น้ำเลือด หรือ พลาสมา คือ ส่วนประกอบของเลือดที่เป็นของเหลว โดยปกติจะมีลักษณะเป็นสีเหลืองใส แต่ถ้าพบไขมันก็จะเห็นเป็นสีขาว มีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 55 ในเลือด พลาสมาได้จากการนำเลือด (blood)ไปปั่นเหวี่ยงและเติมสารป้องกันการแข็งตัวของเลือดลงไป ทำให้พลาสมาสามารถแยกชั้นจากเซลล์เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด และ เซลล์เม็ดเลือดแดง ไปอยู่ชั้นบนสุดได้ ส่วนซีรั่มก็คือพลาสมาที่ปราศจากไฟบริโนเจน (fibrinogen) หรือเป็นของเหลวที่เกิดจากการแข็งตัวของเลือด
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
8 |
ข้อความใดต่อไปนี้ถูกต้องเกี่ยวกับอันตรกิริยาการจับที่เป็นไปได้ของเอไมด์ทุติยภูมิ
|
5. ผิดมากกว่า 1 ข้อ |
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
9 |
ความเข้มข้นของยาในกระแสเลือดของผู้ป่วยหลังจาก t ชั่วโมง จำลองตามสูตร C (t) = 5(0.5)^t โดยที่ C วัดเป็นมิลลิกรัมต่อลิตร ต้องใช้เวลานานเท่าใดที่ความเข้มข้นจะลดลงถึง 70% ของระดับเริ่มต้น
|
|
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
10 |
ข้อใดมีผลต่อ Aβ-dependent tau phosphorylation
|
5. ผิดทุกข้อ |
|
ไม่มีข้อถูกต้อง
|
เป็นโรคเกี่ยวกับการเสื่อมของสมอง
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
11 |
Drug Concentrations
Exponential functions can be used to model the concentration of a drug in a patient’s body. Suppose the concentration of Drug X in a patient’s bloodstream is modeled by,
C (t) = C0 e^(-rt),
ถ้า r = 0.041 /hr
Co = 9 mg/L
t = 7
จากสมการจงหาความเข้มข้นของยา ณ เวลาที่ฉีด
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
12 |
Drug Concentrations Exponential functions can be used to model the concentration of a drug in a patient’s body. Suppose the concentration of Drug X in a patient’s bloodstream is modeled by, C (t) = C0 e^(-rt),
จงหาค่า r ถ้า Initial concentration = 10 mg/L
3 mg/L is shown after 9 hours.
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
13 |
Drug Concentrations
Exponential functions can be used to model the concentration of a drug in a patient’s body. Suppose the concentration of Drug X in a patient’s bloodstream is modeled by,
C (t) = Co e^(-rt),
จงหาสมการที่เป็นไปได้ หากยา x, มี r =0. 09 แล้วมีความเข้มข้นลดลง 80% จาก the model, C(t) = Co e^(-rt)
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
14 |
การกลายพันธุ์ของยีนใดที่อาจส่งผลต่อระดับ Warfarin
|
5. ไม่มีข้อถูก |
|
การกลายพันธุ์ของยีนใดที่อาจส่งผลต่อระดับ Warfarin คือ CYP2C9 และ VKORC1 จึงไม่มีข้อถูกต้อง
|
การกลายพันธุ์ของยีนใดที่อาจส่งผลต่อระดับ Warfarin คือ VKORC1 จะทำให้ร่างกายไวต่อ warfarin มากขึ้น โอกาสที่ยาจะเกินระดับรักษาและเลือดออกมากขึ้น (กลไกการทำงานของ vitamin K epoxide reductase และ target enzyme ของ warfarin ที่จะส่งผลเวลามีการกลายพันธุ์ของ VKORC1
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
15 |
เป็นเรื่องปกติที่จะให้ยา Warfarin ในขนาดเริ่มต้นที่แตกต่างกันกับผู้คนตามเชื้อชาติของพวกเขา หากให้น้อยเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น
|
3. ทำให้หัวใจวาย |
|
ยาWafarinเป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือด หากไม่ได้รับยาที่มากพอหรือเหมาะสมอาจทำให้เลือดไปลี้ยงหรือสูบฉีดไม่พอ อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้
|
วอร์ฟารินเป็นยาที่มีbioavailability สูงแต่ therapeutic index แคบ ระยะ
เวลาในการออกฤทธิ์ของยาจนเห็นผลในการรักษา (onset) สามารถทำนาย
ได้ ขนาดของยาที่ออกฤทธิ์ให้ผลการรักษาผู้ป่วยในแต่ละคนจะแตกต่างกัน
ในผู้ป่วยคนเดียวกันการได้ขนาดยาเท่ากันก็ยังให้ผลการรักษาที่ไม่สม่ำเสมอ
เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อการตอบสนองต่อยาวอร์ฟารินแตกต่างกัน
เช ่น อาหารที่มีวิตามินเคปริมาณมาก การออกกำลังกาย การดื่มแอลกอฮอลล์ การไม่ใช้ยาตามแพทย์สั่ง (noncompliance) การใช้ยาอื่นร่วมที่มี
ผลต่อยาวอร์ฟาริน หรือสภาวะที่ผู้ป่วยมีโรคอื่นร่วมด้วย เช่น โรคตับ ภาวะ
การขาดสารอาหาร และภาวะไข้ เป็นต้น
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
16 |
ข้อใดไม่ใช่กลไกการออกฤทธิ์ของ Gleevac
|
2. ผ่านฟอสโฟรีเลชัน |
|
|
เป็นยารักษาแบบเจาะจงสำหรับรับประทานเพื่อรักษาโรคมะเร็ง อิมาทินิบเป็นตัวยับยั้งโมเลกุลขนาดเล็กที่กำหนดเป้าหมายตัวรับไทโรซีนไคเนสหลายตัว เช่น CSF1R, ABL, c-KIT, FLT3 และ PDGFR-β
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
17 |
ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับการขาดกลูโคส -6- ฟอสเฟต G6PD?
|
5. ผิดทุกข้อ |
|
เกี่ยวกับCPK
|
CPK (Creatinine Phosphokinase) หรือ เอนไซม์กล้ามเนื้อ เป็นเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่จะตรวจพบได้เมื่อร่างกายมีการสลายกล้ามเนื้อปนออกมาในกระแสเลือด ซึ่งปกติจะมีค่าอยู่ระหว่าง 15 – 220 U/L แต่ถ้าเราตรวจแล้วพบว่ามีค่าสูงกว่าปกติจะแสดงถึงการที่ร่างกายเริ่มมีการสลายกล้ามเนื้อปนออกมาใช้ นอกเหนือจากการดึงสารประกอบ Phosphate
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
18 |
ข้อใดไม่ได้อธิบายสมมติฐาน Life on the Edge ที่เกี่ยวข้องกับโรคอะไมลอยด์
|
5. ผิดทุกข้อ |
|
ผิดทุกข้อ
|
ะไมลอยด์โดสิส (Amyloidosis) เป็นโรคหายาก พบได้ประมาณ 1 ในแสนคนเท่านั้น เกิดจากการที่ร่างกายสร้างโปรตีนอะมีลอยด์มากเกินไปจนเข้าไปสะสมตามเนื้อเยื่อของอวัยวะต่างๆ เช่น ตับ ไต หัวใจ ระบบทางเดินอาหารและระบบประสาท จนทำให้ระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆเกิดความผิดปกติ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
19 |
ข้อใดเกี่ยวข้องกับ Environmental toxicology
|
5. ถูกมากกว่า 1 ข้อ |
|
มีข้อถูกมากกว่า1ข้อ
|
พิษวิทยาสิ่งแวดล้อมเป็นสาขาวิชาสหสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาผลกระทบที่เป็นอันตรายของสารเคมี ชีวภาพ และกายภาพต่อสิ่งมีชีวิต พิษวิทยาเชิงนิเวศเป็นสาขาย่อยของพิษวิทยาสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาผลกระทบที่เป็นอันตรายของสารพิษในระดับประชากรและระบบนิเวศ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
20 |
จาก Engineered brain-targeted drug delivery systems ที่ใช้คืออะไร
|
4. ถูกมากกว่า 1 ข้อ |
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|