ตรวจข้อสอบ > ทศพล ปรุโปร่ง > เคมีเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ | Chemistry > Part 1 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 51 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


2. มีประสิทธิภาพ

จากการวิเคราะห

ภาพ2จะมีประสิทธิภาพมากกว่าภาพ1

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


5. ผิดมากกว่า 1 ข้อ

ทุกข้อไม่ใช่ลักษณะโมเลกุลแบบ Extension

โมเลกุลแบบ Extension เป็นโมเลกุลที่ถูกสร้างขึ้นโดยเพิ่มต่อท้ายของโมเลกุลหลัก โดยอาจเป็นส่วนขยายหรือส่วนเพิ่มเติมที่มีโครงสร้างที่แตกต่างไปจากโมเลกุลหลัก

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


5. ถูกมากกว่า 1 ข้อ

Ampicillin กับ Propranolol มีลักษณะโมเลกุลคล้ายกัน แต่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

Ampicillin: เป็นยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์ต่อเชื้อแบคทีเรีย โมเลกุลของ Ampicillin เป็นแบบเป็นสารประกอบแอมิโนเพนซิลลินที่มีก้าวทางที่คล้ายกับเบนซิลเพนซิลลิน โมเลกุลของ Ampicillin มีส่วนประกอบหลักคืออะมิโนเพนซิลลินที่เชื่อมต่อกับกรดปากลุกอะมิโนที่มีตำแหน่งคล้ายกับเบนซีลลิน Propranolol: เป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ โมเลกุลของ Propranolol เป็นสารประกอบแบบเป็นนิวเทนองที่มีส่วนประกอบหลักคือโพรพานอลอาซิเดต โมเลกุลนี้มีลักษณะที่แตกต่างจากโมเลกุล

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


5. มีข้อผิดมากกว่า 1 ข้อ

ในรายการยาที่ได้กล่าวมา ยาที่ไม่เกี่ยวข้องกับระบบปัสสาวะคือ Warfarin และ Neostigmine ซึ่งใช้ในการรักษาโรคอื่นๆ นอกเหนือจากระบบปัสสาวะ

Warfarin เป็นยาแอนติคโคโลนใช้ในการป้องกันการเกิดลิ่มเลือด โมเลกุลของ Warfarin มีลักษณะแตกต่างจากยาในระบบปัสสาวะ เนื่องจากเป็นสารประกอบที่เป็นคอยน์มาร์ทิน (coumarin derivative) Neostigmine เป็นยาแก้กล้ามเนื้อที่ใช้ในการรักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โมเลกุลของ Neostigmine เป็นสารประกอบที่แตกต่างจากยาในระบบปัสสาวะ และไม่มีความเกี่ยวข้องกับการรักษาโรคทางปัสสาวะ ในขณะที่ Cephalexin และ Benzothiazide อยู่ในกลุ่มยาที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบปัสสาวะ โดย Cephalexin เป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการรักษาการติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย และ Benzothiazide เป็นยาลดความดันโลหิตแบบไดยูเรติก (thiazide diuretic) ที่ใช้ในการควบคุมความดันโลหิตสูงและในการบรรเทาอาการแน่นท้อง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


การจับยากับตำแหน่งจับของโปรตีน disulfide bond ไม่เกี่ยวข้องกับโรคใด

5. ผิดมากกว่า 1 ข้อ

ทุกข้อไม่เกี่ยวข้อง

โปรตีน disulfide bond เป็นตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างของโปรตีน โดยการจับยากับตำแหน่งจับนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของโปรตีนให้เกิดผลกระทบต่อการทำงานของโปรตีนนั้นๆ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


ความเข้มข้นของยาในกระแสเลือดของผู้ป่วยหลังจาก t ชั่วโมง จำลองตามสูตร C (t) = 5(8)^t โดยที่ C วัดเป็นมิลลิกรัมต่อลิตร ความเข้มข้นของยาจะเป็น 80 มิลลิกรัมต่อลิตร ที่กี่ชั่วโมง

1. 1.33

ทุกอย่างอยู่ในการคำนวณ

ทำการแทนค่า C(t) ด้วย 80 และแก้สมการดังนี้: 80 = 5(8)^t 8^t = 80/5 8^t = 16 2^3t=2^4 3t=4 t=4/3 t=1.3333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


ข้อใดเกี่ยวข้องกับ plasma measures of GFAP

5 CSI levels

จากการคาดเดาสุดโหดตึงๆ

จ่ำจี้มะเขือเปาะแปะ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


ข้อความใดต่อไปนี้ถูกต้องเกี่ยวกับอันตรกิริยาการจับที่เป็นไปได้ของเอไมด์ทุติยภูมิ

3. สามารถมีส่วนร่วมในพันธะไฮโดรเจนได้ทั้งในฐานะผู้ให้พันธะไฮโดรเจนและตัวรับพันธะไฮโดรเจน

จากการหาข้อมูล

ในอันตรกิริยาการจับที่เป็นไปได้ของอะมิดทุติยภูมิ โมเลกุลสามารถมีส่วนร่วมในการจับกับโมเลกุลอื่นในฐานะผู้ให้พันธะไฮโดรเจน (donor) หรือตัวรับพันธะไฮโดรเจน (acceptor) ได้ตามเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการจับพันธะไฮโดรเจน ดังนั้น, คำว่า "สามารถมีส่วนร่วมในพันธะไฮโดรเจนได้ทั้งในฐานะผู้ให้พันธะไฮโดรเจนและตัวรับพันธะไฮโดรเจน" เป็นคำตอบที่ถูกต้องและสอดคล้องกับอันตรกิริยาการจับที่เป็นไปได้ของอะมิดทุติยภูมิ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


ความเข้มข้นของยาในกระแสเลือดของผู้ป่วยหลังจาก t ชั่วโมง จำลองตามสูตร C (t) = 5(0.5)^t โดยที่ C วัดเป็นมิลลิกรัมต่อลิตร ต้องใช้เวลานานเท่าใดที่ความเข้มข้นจะลดลงถึง 70% ของระดับเริ่มต้น

5. 2.8 hr

ทุกอย่างอยู่ในการคำนวณ

อมองกุส

5

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


ข้อใดมีผลต่อ Aβ-dependent tau phosphorylation

4. สารตะกั่ว

อยากสูงต้องเขย่งอยากเก่งต้องอ่านกูเกิ้ล

สารตะกั่ว มีผลต่อ Aβ-dependent tau phosphorylation โดยองค์ประกอบนี้สามารถกระตุ้นกระบวนการที่ทำให้เกิดการฟอสโฟริเลชันของ tau protein ซึ่งเป็นผลการสะสมของเม็ดเล็กที่รู้สึกได้ภายในเซลล์ประสาทในสมอง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


Drug Concentrations Exponential functions can be used to model the concentration of a drug in a patient’s body. Suppose the concentration of Drug X in a patient’s bloodstream is modeled by, C (t) = C0 e^(-rt), ถ้า r = 0.041 /hr Co = 9 mg/L t = 7 จากสมการจงหาความเข้มข้นของยา ณ เวลาที่ฉีด

2. 0.12 mg/L

I'm so มึนตึบนะ

ทุกอย่างอยู่ในการคำนวณ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


Drug Concentrations Exponential functions can be used to model the concentration of a drug in a patient’s body. Suppose the concentration of Drug X in a patient’s bloodstream is modeled by, C (t) = C0 e^(-rt), จงหาค่า r ถ้า Initial concentration = 10 mg/L 3 mg/L is shown after 9 hours.

1. 0.13

มึนตึบagian

ทุกอย่างอยู่ในการคำนวณ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


Drug Concentrations Exponential functions can be used to model the concentration of a drug in a patient’s body. Suppose the concentration of Drug X in a patient’s bloodstream is modeled by, C (t) = Co e^(-rt), จงหาสมการที่เป็นไปได้ หากยา x, มี r =0. 09 แล้วมีความเข้มข้นลดลง 80% จาก the model, C(t) = Co e^(-rt)

4. In 0.8 = -0.0009t

T-T

ทุกอย่างอยู่ในการคำนวณ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


การกลายพันธุ์ของยีนใดที่อาจส่งผลต่อระดับ Warfarin

5. ไม่มีข้อถูก

การกลายพันธุ์ของยีน CYP2C9 ต่างหาก

ยีน CYP2C9: ยีนนี้เข้ามาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของร่างกายในการขยายยา Warfarin และการขจัดของยาจากร่างกาย หากผู้ป่วยมีการกลายพันธุ์ที่ยีน CYP2C9 ที่น้อยกว่าปกติ จะทำให้ยา Warfarin สะสมในร่างกายมากขึ้น และอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเลือดออกได้ง่ายขึ้น

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


เป็นเรื่องปกติที่จะให้ยา Warfarin ในขนาดเริ่มต้นที่แตกต่างกันกับผู้คนตามเชื้อชาติของพวกเขา หากให้น้อยเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น

1. ทำให้เลือดแข็งตัวน้อยเกินไปได้

จากความรู้ที่มี

หากให้ยา Warfarin ในขนาดที่น้อยเกินไป อาจเกิดผลกระทบด้านการทำให้เลือดแข็งตัว ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเลือดออกอย่างรุนแรงหรือยากจะหยุดเลือด

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


ข้อใดไม่ใช่กลไกการออกฤทธิ์ของ Gleevac

1. ยับยั้งโปรตีนฟิวชัน

จากการหาข้อมูล

Gleevac มีหน้าที่ส่งสัญญาณภายในเซลล์เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตและแบ่งเซลล์ ในกรณีของ Gleevac การยับยั้งติ๊กไทโรซินาสีทำให้เกิดผลกระทบต่อเซลล์มะเร็งที่มีการเจริญเติบโตผิดปกติ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับการขาดกลูโคส -6- ฟอสเฟต G6PD?

4. ความเครียด

เพราะตอนนี้ผมเครียดอยู่

การขาดกลูโคส-6-ฟอสเฟต G6PD เป็นโรคยีนชนิดหนึ่งที่เกิดจากข้อบกพร่องในเอนไซม์กลูโคส-6-ฟอสเฟตดีฟิชัน (G6PD enzyme function) ซึ่งมีผลต่อสาร NADPH และกลูตาไธโอน

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


ข้อใดไม่ได้อธิบายสมมติฐาน Life on the Edge ที่เกี่ยวข้องกับโรคอะไมลอยด์

4. วิวัฒนาการ

จากการหาข้อมูล

เรื่อง Life on the Edge เน้นการสอดคล้องกับหลักการของฟิสิกส์และเคมีในการสร้างและรักษาชีวิต โดยไม่ได้นำเสนอหรือเกี่ยวข้องกับหลักการวิวัฒนาการ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


ข้อใดเกี่ยวข้องกับ Environmental toxicology

1. pesticide dichlorodiphenyltrichloroethane (DDT)

ชื่อยาวดี

จ่ำจี้มะเขือเปาะแปะ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


จาก Engineered brain-targeted drug delivery systems ที่ใช้คืออะไร

4. ถูกมากกว่า 1 ข้อ

ทุกข้อถูกหมด

Engineered brain-targeted drug delivery systems ที่ใช้มีการใช้ Liposomes เพื่อใส่สารยาเข้าสู่ระบบประสาทสมองได้อย่างเป็นเป้าหมาย

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 52.25 เต็ม 138

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา