ตรวจข้อสอบ > อภัสรา ด้ามทอง > เคมีเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ | Chemistry > Part 1 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 45 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


4.พันธะไฮโดรเจนคล้ายกัน

โครงสร้างI แตกต่างจากโครงสร้างII ตรงที่โครงสร้างII มีการจับกับพันธะตัวอื่นอยู่ด้วย

บทความการแพทย์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


3. Neostigmine

Neostigmine ไม่มีลักษณะโมเลกุลแบบ Extension อยู่เลย

วิจัย มทร.พระนคร

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


2. Warfarin

Warfarin มีลักษณะโมเลกุลที่เหมือนข้ออื่นๆที่สุด อย่างชัดเจน

วิจัย มทร.พระนคร

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


3. Neostigmine

ยาที่ให้รักษาโรคที่ไม่เกี่ยวกับปัสสาวะมีทั้ง Warfarin และ Neostigmine

อ้างอิงข้อมูลจากโรงพยาบาลศิริราช

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


การจับยากับตำแหน่งจับของโปรตีน disulfide bond ไม่เกี่ยวข้องกับโรคใด

2. heart disease

การจับยากับตำแหน่งจับของโปรตีน disulfide bond ไม่เกี่ยวข้องกับ Heart Disease

รายงาน Protein and amino ดร.อนุสรณ์ เชิดทอง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


ความเข้มข้นของยาในกระแสเลือดของผู้ป่วยหลังจาก t ชั่วโมง จำลองตามสูตร C (t) = 5(8)^t โดยที่ C วัดเป็นมิลลิกรัมต่อลิตร ความเข้มข้นของยาจะเป็น 80 มิลลิกรัมต่อลิตร ที่กี่ชั่วโมง

4. 1.67

สูตร C (t) = 5(8)^t 8/5

สูตร C (t) = 5(8)^t 8/5

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


ข้อใดเกี่ยวข้องกับ plasma measures of GFAP

4. CSQ levels

(GFAP) อาจเกี่ยวข้องกับภาระของ amyloid, การเสื่อมของระบบประสาท และโรคหลอดเลือดสมอง แต่ความจำเพาะของมันสำหรับโรคอัลไซเมอร์

PMC

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


ข้อความใดต่อไปนี้ถูกต้องเกี่ยวกับอันตรกิริยาการจับที่เป็นไปได้ของเอไมด์ทุติยภูมิ

3. สามารถมีส่วนร่วมในพันธะไฮโดรเจนได้ทั้งในฐานะผู้ให้พันธะไฮโดรเจนและตัวรับพันธะไฮโดรเจน

เอไมด์ทุติยภูมิสามารถมีส่วนร่วมในพันธะไฮโดรเจนได้ทั้งในฐานะผู้ให้พันธะไฮโดรเจนและตัวรับพันธะไฮโดรเจน

Network Solution

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


ความเข้มข้นของยาในกระแสเลือดของผู้ป่วยหลังจาก t ชั่วโมง จำลองตามสูตร C (t) = 5(0.5)^t โดยที่ C วัดเป็นมิลลิกรัมต่อลิตร ต้องใช้เวลานานเท่าใดที่ความเข้มข้นจะลดลงถึง 70% ของระดับเริ่มต้น

1. 3.8 hr

C (t) = 5(0.5)^t [(5*0.5)*100]/70

C (t) = 5(0.5)^t [(5*0.5)*100]/70

5

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


ข้อใดมีผลต่อ Aβ-dependent tau phosphorylation

3. การเปลี่ยนองค์ประกอบ N ที่แตกต่างกัน

การเปลี่ยนองค์ประกอบ N ที่แตกต่างกันมีผลต่อ Aβ-dependent tau phosphorylation

NIH

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


Drug Concentrations Exponential functions can be used to model the concentration of a drug in a patient’s body. Suppose the concentration of Drug X in a patient’s bloodstream is modeled by, C (t) = C0 e^(-rt), ถ้า r = 0.041 /hr Co = 9 mg/L t = 7 จากสมการจงหาความเข้มข้นของยา ณ เวลาที่ฉีด

3. 0.99 mg/L

C (t) = C0 e^(-rt), ถ้า r = 0.041 /hr Co = 9 mg/L t = 7 -0.041*7*9/2

C (t) = C0 e^(-rt), ถ้า r = 0.041 /hr Co = 9 mg/L t = 7 -0.041*7*9/2

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


Drug Concentrations Exponential functions can be used to model the concentration of a drug in a patient’s body. Suppose the concentration of Drug X in a patient’s bloodstream is modeled by, C (t) = C0 e^(-rt), จงหาค่า r ถ้า Initial concentration = 10 mg/L 3 mg/L is shown after 9 hours.

4. 0.20

C (t) = C0 e^(-rt), Initial concentration = 10 mg/L 3 mg/L is shown after 9 hours. 3/(10*9)

C (t) = C0 e^(-rt), 3/(10*9)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


Drug Concentrations Exponential functions can be used to model the concentration of a drug in a patient’s body. Suppose the concentration of Drug X in a patient’s bloodstream is modeled by, C (t) = Co e^(-rt), จงหาสมการที่เป็นไปได้ หากยา x, มี r =0. 09 แล้วมีความเข้มข้นลดลง 80% จาก the model, C(t) = Co e^(-rt)

2. In 0.8 = -0.009t

C (t) = Co e^(-rt), x, มี r =0. 09 แล้วมีความเข้มข้นลดลง 80% 0.09/80

C (t) = Co e^(-rt), 0.09/80

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


การกลายพันธุ์ของยีนใดที่อาจส่งผลต่อระดับ Warfarin

3. CYP2C1 gene.

ความหลากหลายของลักษณะทางพันธุกรรมส่งผลให้ขนาดยาวาร์ฟารินที่เหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละรายแตกต่างกันอย่างมาก การศึกษาต่าง ๆ พบว่าความหลากหลายของยีนที่สําคัญที่เกี่ยวกับยาวารืฟารินมี 2 ชนิด คือ CYP2C9 และ VKORC1

วารสารThai Pharmaceutical and Health Science Journal

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


เป็นเรื่องปกติที่จะให้ยา Warfarin ในขนาดเริ่มต้นที่แตกต่างกันกับผู้คนตามเชื้อชาติของพวกเขา หากให้น้อยเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น

3. ทำให้หัวใจวาย

ยาวาร์ฟาริน (warfarin) เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด ใช้ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดซึ่งอาจไปอุดตันตามเส้นเลือดของร่างกาย

บทความโรงพยาบาลแมคคอร์มิค

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


ข้อใดไม่ใช่กลไกการออกฤทธิ์ของ Gleevac

3. ช่วยให้เซลล์เนื้องอกแพร่กระจาย

ยา imatinib เป็นยายับยั้งไทโรซีนไคเนส (tyrosine kinase inhibitor) โดยใช้เป็นยาหลักในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิดมัยอีลอยด์ (chronic myeloid leukemia; CML)

SMJ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับการขาดกลูโคส -6- ฟอสเฟต G6PD?

5. ผิดทุกข้อ

พันธุกรรมข้างต้นความต้องการ PCA มีความเกี่ยวข้องกับการมีภาระทางพันธุกรรมของประชากร ซึ่งแสดงให้เห็นผลกระทบจากภาระทางพันธุกรรมของประชากร เป็นการลดลงในความมีชีวิตและความผิดปกติด้านสุขภาพของบุคคล

แพทย์ ภาระทางพันธุกรรมในฐานะปรากฏการณ์ทางชีวการแพทย์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


ข้อใดไม่ได้อธิบายสมมติฐาน Life on the Edge ที่เกี่ยวข้องกับโรคอะไมลอยด์

2. การคัดเลือกโดยธรรมชาติ

การวินิจฉัยโรคนั้นอาจเป็นไปค่อนข้างยาก เนื่องจากอาการแสดงที่ไม่จำเพาะและเกี่ยวข้องกับระบบต่างๆ ในร่างกายหลายระบบ ในเบื้องต้นแพทย์จะทำการซักประวัติร่วมกับการตรวจร่างกาย

บทความโรงพยาบาลนครธน

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


ข้อใดเกี่ยวข้องกับ Environmental toxicology

5. ถูกมากกว่า 1 ข้อ

การพัฒนาอย่างรวดเร็วของหลายประเทศในภูมิภาคได้นำไปสู่การใช้สารเคมีอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม เกษตรกรรม สาธารณสุข ตลอดจนในชีวิตประจำวันของเรา ส่งผลให้เกิดการปนเปื้อนของสารเคมีอย่างมาก

สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


จาก Engineered brain-targeted drug delivery systems ที่ใช้คืออะไร

4. ถูกมากกว่า 1 ข้อ

โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตในอันดับต้นของประชากรทั่วโลก ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาส!วนใหญ่มัก เสียชีวิตและหากรอดชีวิตก็สามารถกลับมาเป็นซ้ําได้ แต!ยังพบปัญหาหลักคือ ยาไม่สามารถเลือกทําลายเซลล์มะเร็งแบบจําเพาะได้จึงเกิดการทําลายทั้งเซลล์มะเร็งและเซลล์ปกติที่มีการเจริญเติบโตเร็ว

ภาควิชาเทคโนโลยีเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 18.5 เต็ม 138

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา