ตรวจข้อสอบ > ณัฐกิตติ์ ภัทรรัตนานนท์ > เคมีเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ | Chemistry > Part 1 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 66 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


2. Warfarin

Cephalexin เป็นยาปฏิชีวนะ ผลของยามีเกี่ยวข้องการทางเดินปัสสวะ Neostigmine คือยาบำบัดอาการกลุ่มโรคกล้ามเนื้อและยัง สามารถใช้บำบัดอาการ ปัสสวะขัดที่มรเหตุมาจากการได้รับยาชา Benzothiazide เป็นยา ขับปัสสวะ Warfarin เป็น สารกันเลือดเป็นลิ่ม จึงตอบตัวเลือกนี้

อ้างอิงจากสรรพคุณ ของตัวยาด้านบน จากโครงสร้างของ Warfarin c19 h16 o4 และ ยาจากตัวเลือกข้างบน มีแค่ warfarin ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ ปัสสวะ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


3. Neostigmine

โครงสร้าง Molecule ของ Neostimine มีการแตกของพันธะที่มากกว่า โครงสร้าง Molecules อื่น

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


5. ผิดทุกข้อ

ต่างกันที่พันธะของMolecule

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


จาก Engineered brain-targeted drug delivery systems ที่ใช้คืออะไร

3. DIX in liposomes

แสดงลักษณะ Liposome และแสดงบริเวณที่กักเก็บบริเวณกักเก็บตัวยาหรือสารสำคัญที่มีคุณสมบัติชอบน้ำและไม่ชอบน้ำ โดย N-acetylcysteine เป็นตัวอย่างของตัวยาหรือสารสำคัญที่มีคุณสมบัติชอบน้ำ หรือ ระบบส่งยาสู่เป้าหมาย

Dix in liposomes คือ อนุภาคที่มีขนาด เล็กกว่าระดับไมครอน Submicron

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


ข้อใดเกี่ยวข้องกับ Environmental toxicology

1. pesticide dichlorodiphenyltrichloroethane (DDT)

DDT คือยาที่ฆ่าศัตรูพืช และส่งผลต่อสัตว์หรือสิงมีชีวิตต่างๆ

เป็นยาที่ มีผลต่อ สิ่งแวดล้อมมนุษย์ะสัตว์ ซึ่ง DDT สังเคราะห์ออร์กาโนคลอรีน นิยมใช้มาตั้งแต่ ช่วงส่งครามโลกครั้งที่ 2 จากหัวข้อEnvironmental toxicology คือ พิษวิทยาสิ่งแวดล้อม

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


ข้อใดไม่ได้อธิบายสมมติฐาน Life on the Edge ที่เกี่ยวข้องกับโรคอะไมลอยด์

1. การดริฟท์ทางพันธุกรรมซึ่งเป็นการสะสมของการกลายพันธุ์แบบสุ่ม

โรคอะไมลอย์ เป็นโรคที่เกี่ยวกับการสร้าง Protein ที่ผิดปกติสร้างเยอะเกินไป เลยไปสะสมตามเนื้อเยื่อตามอวัยวะต่างๆ จนทำให้ ร่างกายผิดปกติ

การดริฟท์ทางพันธุกรรมซึ่งเป็นการสะสมของการกลายพันธุ์แบบสุ่ม

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับการขาดกลูโคส -6- ฟอสเฟต G6PD?

2. NADPH

การขาด glucose -6- phosphate G6PD NADPH เกี่ยวข้องกับปลายประสาท

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


ข้อใดไม่ใช่กลไกการออกฤทธิ์ของ Gleevac

3. ช่วยให้เซลล์เนื้องอกแพร่กระจาย

Gleevac เป็นการยับ การเจริญเติบโตเฉพาะจุด

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


เป็นเรื่องปกติที่จะให้ยา Warfarin ในขนาดเริ่มต้นที่แตกต่างกันกับผู้คนตามเชื้อชาติของพวกเขา หากให้น้อยเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น

1. ทำให้เลือดแข็งตัวน้อยเกินไปได้

ถ้าให้ปริมาณสาร Warfarin ในปริมาณที่น้อยเกินไป ทำให้ สรรพคุณของยา ออกฤทธิ์น้อยจนทำให้เลือดแข็งตัวน้อยเกินไป

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


การกลายพันธุ์ของยีนใดที่อาจส่งผลต่อระดับ Warfarin

5. ไม่มีข้อถูก

การกลายพันธุ์ของยีนส์ที่ส่งผลต่อระดับ Warfarin คือ VKORC1 จะทำให้ร่างกายไวต่อ warfarin มากขึ้น โอกาสที่ยาจะเกินระดับรักษาและเลือดออกมากขึ้น CYP2c9 เป็นเอนไซม์ที่สำคัญในการเปลี่ยนสภาพยา warfarin หากมีการกลายพันธุ์บางชนิดจะทําให้การออก ฤทธิ์ของ warfarin มากขึ้น ต้องลดขนาดยาตั้งต้น ค่อย ๆ ปรับยาและใช้เวลานานกว่าจะได้เป้าหมาย

ยีนส์ที่มีผลต่อระดับ warfarin อย่างมากและพบในไทย มี 2 ตัว คือ VKORC1 และ CYP2c9 จึงเป็นที่มาของคำตอบ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


Drug Concentrations Exponential functions can be used to model the concentration of a drug in a patient’s body. Suppose the concentration of Drug X in a patient’s bloodstream is modeled by, C (t) = Co e^(-rt), จงหาสมการที่เป็นไปได้ หากยา x, มี r =0. 09 แล้วมีความเข้มข้นลดลง 80% จาก the model, C(t) = Co e^(-rt)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


Drug Concentrations Exponential functions can be used to model the concentration of a drug in a patient’s body. Suppose the concentration of Drug X in a patient’s bloodstream is modeled by, C (t) = C0 e^(-rt), จงหาค่า r ถ้า Initial concentration = 10 mg/L 3 mg/L is shown after 9 hours.

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


Drug Concentrations Exponential functions can be used to model the concentration of a drug in a patient’s body. Suppose the concentration of Drug X in a patient’s bloodstream is modeled by, C (t) = C0 e^(-rt), ถ้า r = 0.041 /hr Co = 9 mg/L t = 7 จากสมการจงหาความเข้มข้นของยา ณ เวลาที่ฉีด

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


ข้อใดมีผลต่อ Aβ-dependent tau phosphorylation

1. Astrocyte reactivity

astrocyte จะคลุมอยู่เป็นชั้น หนาหลายไมโครมิเตอร์ แทรกระหว่างเนื้อสมองและ pia mater เรียกว่า glial limiting membrane

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


ความเข้มข้นของยาในกระแสเลือดของผู้ป่วยหลังจาก t ชั่วโมง จำลองตามสูตร C (t) = 5(0.5)^t โดยที่ C วัดเป็นมิลลิกรัมต่อลิตร ต้องใช้เวลานานเท่าใดที่ความเข้มข้นจะลดลงถึง 70% ของระดับเริ่มต้น

5

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


ข้อความใดต่อไปนี้ถูกต้องเกี่ยวกับอันตรกิริยาการจับที่เป็นไปได้ของเอไมด์ทุติยภูมิ

1. สามารถเข้าร่วมในพันธะไฮโดรเจนได้ในฐานะผู้ให้พันธะไฮโดรเจนเท่านั้น

พันธะไฮโดรเจนที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลสองโมเลกุลซึ่งแต่ละโมเลกุลนั้นประกอบด้วยอะตอมของไฮโดรเจนสร้างพันธะโคเวเลนซ์และอะตอมของธาตุที่มีค่าอิเล็กทรอนิกส์กาวิตี้สูงมากๆยกตัวอย่างเช่นในกรณีของน้ำพันธะไฮโดรเจนที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลสองโมเลกุลซึ่งแต่ละโมเลกุลนั้นประกอบด้วยอะตอมของไฮโดรเจนสร้างพันธะโคเวเลนซ์และอะตอมของธาตุที่มีค่าอิเล็กทรอนิกส์กาวิตี้สูงมากๆยกตัวอย่างเช่นในกรณีของน้ำโมเลกุลแต่ละโมเลกุลของน้ำอาจเกิดพันธะไฮโดรเจนกับโมเลกุลน้ำข้างเคียงอีกสี่อะตอมโครงสร้างของน้ำที่เป็นของเหลวเกิดจากโมเลกุลของน้ำหลายๆโมเลกุลยึดกันด้วยพันธะไฮโดรเจน

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


ข้อใดเกี่ยวข้องกับ Plasma measures of GFAP

4. CSQ levels

การกลายพันธุ์ของยีนส์ที่ส่งผลต่อระดับ Warfarin คือ VKORC1 จะทำให้ร่างกายไวต่อ warfarin มากขึ้น โอกาสที่ยาจะเกินระดับรักษาและเลือดออกมากขึ้น CYP2c9 เป็นเอนไซม์ที่สำคัญในการเปลี่ยนสภาพยา warfarin หากมีการกลายพันธุ์บางชนิดจะทําให้การออก ฤทธิ์ของ warfarin มากขึ้น ต้องลดขนาดยาตั้งต้น ค่อย ๆ ปรับยาและใช้เวลานานกว่าจะได้เป้าหมาย

ยีนส์ที่มีผลต่อระดับ warfarin อย่างมากและพบในไทย มี 2 ตัว คือ VKORC1 และ CYP2c9 จึงเป็นที่มาของคำตอบ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


ความเข้มข้นของยาในกระแสเลือดของผู้ป่วยหลังจาก t ชั่วโมง จำลองตามสูตร C (t) = 5(8)^t โดยที่ C วัดเป็นมิลลิกรัมต่อลิตร ความเข้มข้นของยาจะเป็น 80 มิลลิกรัมต่อลิตร ที่กี่ชั่วโมง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


การจับยากับตำแหน่งจับของโปรตีน Disulfide bond ไม่เกี่ยวข้องกับโรคใด

2. Heart disease

Disulfide bond คือพันธะโคเวเลนซ์ ที่แข็งแรงระหว่าง กรด Amino cysteine พี่อยู่ในโครงสร้างระดับปฐมภูมิทำให้เกิดพี่อยู่ในโครงสร้างระดับปฐมภูมิทำให้เกิดม้วนของโปรตีน โดยสร้างพันธะที่อยู่ห่างกันในโครงสร้างเช่นในโมเลกุลของ ไลโซไซม์ Heart disease โลกที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานโลกที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจแบ่งย่อยได้หลายกลุ่มเช่นโรคหลอดเลือดหัวใจและ โรคกล้ามเนื้อหัวใจ และอื่นๆ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 18.85 เต็ม 138

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา