ตรวจข้อสอบ > ณฐกร พรรณนิยม > ความถนัดคณิตศาสตร์เชิงวิศวกรรมศาสตร์ | Engineering Mathematics Aptitude > Part 1 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 12 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


Which method is used to determine the weights of factors in a multimodal transportation system?

Analytic Hierarchy Process (AHP)

AHP เป็นวิธีการตัดสินใจเชิงหลายเกณฑ์ที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเปรียบเทียบและจัดลำดับความสำคัญของปัจจัยหลายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ปัจจัยเหล่านั้นมีความเป็นนามธรรมและยากที่จะวัดได้ด้วยตัวเลขที่ชัดเจน ระบบขนส่งมัลติโมดอล เป็นระบบที่ซับซ้อน มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณา เช่น ระยะทาง เวลา ค่าใช้จ่าย ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม AHP ช่วยให้เราสามารถจัดลำดับความสำคัญของปัจจัยเหล่านี้ได้อย่างเป็นระบบและสอดคล้องกับความต้องการของผู้ตัดสินใจ วิธีการอื่นๆ: Linear Programming: เหมาะสำหรับปัญหาการเพิ่มประสิทธิภาพที่มีข้อจำกัดเชิงเส้น แต่ไม่สามารถจัดการกับปัจจัยที่เป็นนามธรรมได้ดี Simplex Method: เป็นอัลกอริทึมสำหรับแก้ปัญหา Linear Programming แต่ไม่ใช่เครื่องมือสำหรับการตัดสินใจเชิงหลายเกณฑ์ Monte Carlo Simulation: ใช้สำหรับจำลองสถานการณ์ที่ซับซ้อน แต่ไม่เหมาะสำหรับการจัดลำดับความสำคัญของปัจจัย Bayesian Analysis: ใช้สำหรับการอัปเดตความเชื่อเกี่ยวกับพารามิเตอร์ของแบบจำลอง แต่ไม่ใช่เครื่องมือสำหรับการตัดสินใจเชิงหลายเกณฑ์

ทฤษฎีการตัดสินใจเชิงหลายเกณฑ์ (Multi-Criteria Decision Making): AHP เป็นหนึ่งในวิธีการที่สำคัญที่สุดในสาขานี้ โดยอาศัยหลักการเปรียบเทียบแบบคู่ (pairwise comparison) เพื่อสร้างเมทริกซ์การตัดสินใจ และใช้ค่าลักษณะเฉพาะ (eigenvalue) เพื่อคำนวณน้ำหนักของแต่ละปัจจัย ทฤษฎีความสอดคล้อง (Consistency Theory): AHP ให้ความสำคัญกับความสอดคล้องของการตัดสินใจของผู้เชี่ยวชาญ โดยมีการวัดค่าดัชนีความสอดคล้อง (Consistency Index) เพื่อประเมินว่าการตัดสินใจนั้นมีความสอดคล้องกันเพียงใด ทฤษฎีเครือข่าย (Network Theory): AHP สามารถนำมาใช้สร้างเครือข่ายการตัดสินใจ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


What is the primary goal of the Zero-One Goal Programming (ZOGP) used in the study?

Minimizing the overall transportation cost

Zero-One Goal Programming (ZOGP): เป็นเทคนิคการวิจัยดำเนินงานที่ใช้ในการแก้ปัญหาการตัดสินใจหลายวัตถุประสงค์ โดยมุ่งเน้นไปที่การบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยทั่วไป ZOGP จะถูกนำมาใช้ในการแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรทรัพยากร การวางแผน และการเพิ่มประสิทธิภาพ เป้าหมายหลักของ ZOGP: คือการลดความแตกต่างระหว่างค่าที่ได้จริงกับค่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยปกติแล้ว เป้าหมายหลักในปัญหาการขนส่งมักจะเป็นการลดต้นทุนให้ต่ำที่สุด เนื่องจากต้นทุนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ ตัวเลือกอื่นๆ: Maximizing the number of transportation modes: การเพิ่มจำนวนรูปแบบการขนส่งอาจไม่ใช่เป้าหมายหลักเสมอไป เนื่องจากอาจส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น Optimizing route selection by generating the optimal route: การเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการ ZOGP โดยเป้าหมายหลักคือการลดต้นทุนโดยรวม Increasing the transportation time for risk assessment: การเพิ่มเวลาในการขนส่งเพื่อประเมินความเสี่ยงอาจไม่ใช่เป้าหมายหลัก เนื่องจากอาจทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นและส่งผลต่อการให้บริการลูกค้า Enhancing the environmental impact assessments: การประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ใช่เป้าหมายหลักของ ZOGP โดยตรง

การวิจัยดำเนินงาน (Operations Research): เป็นสาขาวิชาที่ใช้ในการวิเคราะห์และแก้ปัญหาการตัดสินใจที่ซับซ้อน โดยอาศัยหลักการทางคณิตศาสตร์ สถิติ และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ การเขียนโปรแกรมเชิงเส้น (Linear Programming): เป็นเทคนิคการวิจัยดำเนินงานที่ใช้ในการแก้ปัญหาการเพิ่มประสิทธิภาพ โดยมีข้อจำกัดเป็นสมการเชิงเส้น ZOGP เป็นการขยายแนวคิดของการเขียนโปรแกรมเชิงเส้นมาใช้ในการแก้ปัญหาที่มีเป้าหมายหลายประการ ทฤษฎีกราฟ (Graph Theory): ใช้ในการสร้างแบบจำลองเครือข่ายการขนส่ง เพื่อวิเคราะห์เส้นทางที่เหมาะสมที่สุด

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


In the context of multimodal transportation, what does the 'multimodal' aspect refer to?

Using multiple shipments for a single mode of transport

ความหมายของการขนส่งแบบหลายรูปแบบ (Multimodal Transportation): หมายถึงการขนส่งสินค้าจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดหมายปลายทาง โดยใช้รูปแบบการขนส่งมากกว่าหนึ่งรูปแบบ เช่น การขนส่งทางเรือจากประเทศต้นทางมายังท่าเรือในประเทศปลายทาง จากนั้นจึงขนส่งต่อไปยังคลังสินค้าโดยรถบรรทุก และสุดท้ายส่งมอบให้ลูกค้าโดยรถยนต์ การวิเคราะห์ตัวเลือกอื่น: ตัวเลือกอื่นๆ ไม่สอดคล้องกับความหมายของการขนส่งแบบหลายรูปแบบ เนื่องจากเน้นการใช้รูปแบบการขนส่งเพียงรูปแบบเดียว หรือผู้ให้บริการเพียงรายเดียว เพิ่มประสิทธิภาพ: ช่วยลดต้นทุนและเวลาในการขนส่ง โดยเฉพาะสำหรับระยะทางไกลและสินค้าที่มีปริมาณมาก ความยืดหยุ่น: สามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางและรูปแบบการขนส่งได้ตามความเหมาะสมของสินค้าและสถานการณ์ ลดความเสี่ยง: การกระจายความเสี่ยงในการขนส่งไปยังผู้ให้บริการหลายราย และลดความเสียหายของสินค้าระหว่างการขนส่ง

Logistics and Supply Chain Management: ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนและการจัดการกระบวนการขนส่งและการกระจายสินค้า Intermodal Transportation: แนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อระหว่างรูปแบบการขนส่งต่างๆ อย่างราบรื่น สรุป: การขนส่งแบบหลายรูปแบบเป็นวิธีการขนส่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสามารถตอบสนองความต้องการในการขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่น

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


Which risk is NOT directly considered in the optimization model described in the document?

Environmental risk

ขอบเขตของการศึกษา: บางครั้งการศึกษาอาจจำกัดขอบเขตไว้ที่ปัจจัยทางเศรษฐกิจและการดำเนินงานโดยไม่รวมถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ความซับซ้อนของการประเมิน: การประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอาจมีความซับซ้อนและต้องใช้ข้อมูลเฉพาะเจาะจง ซึ่งอาจไม่รวมอยู่ในแบบจำลองการเพิ่มประสิทธิภาพ

การพัฒนาอย่างยั่งยืน: เน้นถึงความสำคัญของการรักษาสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA): เป็นกระบวนการประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการพัฒนา การจัดการความเสี่ยง: การระบุ ประเมิน และควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


What is the primary advantage of integrating AHP with ZOGP in the study's methodology?

Simplification of mathematical calculations

การทำให้ง่ายขึ้นเป็นกระบวนการ ไม่ใช่ความเสี่ยง: การทำให้ง่ายขึ้นเป็นเทคนิคที่ใช้ในการสร้างแบบจำลองให้สามารถคำนวณได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งในการสร้างแบบจำลอง ไม่ใช่ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการใช้แบบจำลอง ความเสี่ยงอื่นๆ เกี่ยวข้องกับคุณภาพของการตัดสินใจ: ตัวเลือกอื่นๆ เช่น การลดอคติส่วนตัว การไม่พึ่งพาผู้เชี่ยวชาญ และการทำให้แน่ใจว่าการตัดสินใจสอดคล้องกัน ล้วนเป็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของการตัดสินใจที่ได้จากแบบจำลอง

การวิเคราะห์เชิงตัดสินใจ (Decision Analysis): ศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการตัดสินใจภายใต้สภาวะที่มีความไม่แน่นอน โดยมุ่งเน้นที่การใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ในการช่วยในการตัดสินใจ การเพิ่มประสิทธิภาพ (Optimization): กระบวนการค้นหาค่าที่ดีที่สุดของฟังก์ชันภายใต้ข้อจำกัดบางประการ โดยมีวัตุงานในการหาทางเลือกที่ดีที่สุดจากทางเลือกที่มีอยู่ทั้งหมด ทฤษฎีความน่าจะเป็น (Probability Theory): ศึกษาเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยใช้ในการวัดความไม่แน่นอนและความเสี่ยง สถิติ (Statistics): ศึกษาเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม วิเคราะห์ และตีความข้อมูล โดยใช้ในการสรุปผลและทำนายผลลัพธ์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


Which method is applied to validate the model and results in the document?

Spearman’s rank correlation

Spearman’s rank correlation: ใช้สำหรับวัดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรสองตัวที่มีข้อมูลเป็นอันดับ (ordinal data) หากข้อมูลของคุณเป็นอันดับ (เช่น อันดับความพึงพอใจ) และต้องการทราบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรสองตัว วิธีนี้เหมาะสม

ทฤษฎีการสุ่มตัวอย่าง: ใช้ในการเลือกตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของประชากร ทฤษฎีการแจกแจงความน่าจะเป็น: ใช้ในการอธิบายการกระจายตัวของข้อมูล ทฤษฎีการทดสอบสมมติฐาน: ใช้ในการทดสอบสมมติฐานที่ตั้งไว้

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


What does DEA stand for in the context of the document?

Data Envelopment Analysis

จากบริบทของเอกสาร: DEA เป็นวิธีการที่นิยมใช้ในการวัดประสิทธิภาพของหน่วยงานหรือองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐศาสตร์และการบริหารธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับเนื้อหาที่กล่าวถึงในเอกสารที่คุณให้มา ความหมายของ DEA: DEA ย่อมาจาก Data Envelopment Analysis ซึ่งเป็นวิธีการทางคณิตศาสตร์ที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของหน่วยผลิต โดยเปรียบเทียบหน่วยผลิตที่กำลังพิจารณา (DMU) กับหน่วยผลิตอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยไม่จำเป็นต้องมีฟังก์ชันการผลิตที่แน่นอน

โปรแกรมเชิงเส้น (Linear Programming): DEA เป็นการประยุกต์ใช้โปรแกรมเชิงเส้นในการหาค่าประสิทธิภาพสูงสุด ขอบเขตประสิทธิภาพ (Efficient Frontier): DEA จะสร้างขอบเขตประสิทธิภาพที่แสดงถึงประสิทธิภาพสูงสุดที่เป็นไปได้ โดยหน่วยผลิตที่อยู่บนขอบเขตนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพเต็มที่ Decision Making Unit (DMU): ในบริบทของ DEA หน่วยผลิตแต่ละหน่วยจะถูกเรียกว่า DMU

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


Which type of risk is primarily associated with theft and accidents?

Security Risk

Security Risk หรือ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เป็นประเภทของความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการสูญเสียทรัพย์สิน การบาดเจ็บ หรือความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของบุคคลที่สาม เช่น การโจรกรรม การปล้น หรืออุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อ เหตุผลที่เลือก Security Risk: การโจรกรรม: เป็นการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุกและการนำทรัพย์สินของผู้อื่นไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการละเมิดความปลอดภัยของทรัพย์สิน อุบัติเหตุ: แม้ว่าบางครั้งอุบัติเหตุอาจเกิดจากปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ แต่ความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสามารถลดลงได้ด้วยมาตรการด้านความปลอดภัยที่เหมาะสม

ทฤษฎีความเสี่ยง (Risk Theory): เป็นทฤษฎีที่อธิบายถึงลักษณะและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยง โดยความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเป็นหนึ่งในประเภทของความเสี่ยงที่สำคัญ การจัดการความเสี่ยง (Risk Management): เป็นกระบวนการที่ใช้ในการระบุ ประเมิน และควบคุมความเสี่ยง โดยการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการความเสี่ยงโดยรวม

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


What method is used to aggregate risk scores under different criteria into an overall risk score?

Simple Additive Weighting

ความเรียบง่ายและเข้าใจง่าย: SAW เป็นวิธีที่ค่อนข้างง่ายในการทำความเข้าใจและนำไปใช้ เนื่องจากเป็นการคำนวณโดยตรงโดยการคูณน้ำหนักของแต่ละเกณฑ์กับคะแนนของเกณฑ์นั้น แล้วนำผลลัพธ์ทั้งหมดมาบวกกัน ความยืดหยุ่น: SAW สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเกณฑ์ที่แตกต่างกันได้หลากหลาย และสามารถปรับน้ำหนักของแต่ละเกณฑ์ได้ตามความสำคัญ ความเหมาะสมสำหรับปัญหาเชิงเส้น: เมื่อตัวแปรต่างๆ มีความสัมพันธ์เชิงเส้น SAW จะให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างแม่นยำ

ทฤษฎีการตัดสินใจหลายเกณฑ์ (Multi-criteria decision making): SAW เป็นหนึ่งในวิธีการที่ใช้ในการตัดสินใจภายใต้เกณฑ์ต่างๆ โดยพิจารณาถึงความสำคัญสัมพัทธ์ของแต่ละเกณฑ์ ทฤษฎีความน่าจะเป็น: SAW อาจนำมาใช้ร่วมกับทฤษฎีความน่าจะเป็นในการประเมินความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เราสามารถกำหนดความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ต่างๆ ได้

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


In the risk assessment model, which factor represents the weight of each criterion?

FAHP Weight

FAHP (Fuzzy Analytic Hierarchy Process): เป็นวิธีการตัดสินใจแบบหลายเกณฑ์ที่ผสมผสานระหว่าง AHP (Analytic Hierarchy Process) ซึ่งเป็นวิธีการเปรียบเทียบแบบคู่ (pairwise comparison) กับทฤษฎีเซตคลุมเครือ (Fuzzy Set Theory) ซึ่งช่วยในการจัดการกับความไม่แน่นอนและความคลุมเครือในการตัดสินใจ FAHP Weight: ค่าที่ได้จากการประเมินโดยใช้ FAHP จะแสดงถึงน้ำหนักความสำคัญสัมพัทธ์ของแต่ละเกณฑ์ ซึ่งหมายถึงความสำคัญของเกณฑ์นั้นๆ เมื่อเทียบกับเกณฑ์อื่นๆ ในการตัดสินใจ เหตุผลที่ FAHP Weight เหมาะสม: สะท้อนความไม่แน่นอน: ในการประเมินความเสี่ยง มักจะมีความไม่แน่นอนและความคลุมเครือในการตัดสินใจ FAHP ช่วยจัดการกับความไม่แน่นอนนี้ได้ดีกว่าวิธีการอื่นๆ ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น: โดยการใช้ฟังก์ชันสมาชิก (membership function) ในทฤษฎีเซตคลุมเครือ FAHP สามารถแปลงความคิดเห็นเชิงคุณภาพของผู้เชี่ยวชาญให้เป็นค่าเชิงปริมาณได้อย่างแม่นยำ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย: FAHP สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการตัดสินใจในหลายๆ ด้าน เช่น การประเมินความเสี่ยง การเลือกโครงการ การตัดสินใจทางธุรกิจ

Analytic Hierarchy Process (AHP): พัฒนาโดย Thomas L. Saaty ใช้สำหรับการตัดสินใจแบบหลายเกณฑ์โดยการเปรียบเทียบแบบคู่ Fuzzy Set Theory: พัฒนาโดย Lotfi A. Zadeh ใช้สำหรับจัดการกับความไม่แน่นอนและความคลุมเครือ Fuzzy Analytic Hierarchy Process (FAHP): เป็นการผสมผสานระหว่าง AHP และ Fuzzy Set Theory

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


If the probability rank is 3, impact severity rank is 2, and the route segment ratio is 0.75, what is the risk level (R_ij) according to the formula R_ij = P_ij × C_ij × 4EA_ij?

4.5

ค่าคงที่ 4: ค่าคงที่นี้มักใช้เป็นตัวคูณเพื่อปรับขนาดของความเสี่ยงให้เหมาะสมกับบริบทของปัญหาที่กำลังพิจารณา โดยค่า 4 นี้ไม่ได้มีที่มาที่ตายตัว อาจถูกปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของแต่ละสถานการณ์ ค่าคงที่ 4: ค่าคงที่นี้มักใช้เป็นตัวคูณเพื่อปรับขนาดของความเสี่ยงให้เหมาะสมกับบริบทของปัญหาที่กำลังพิจารณา โดยค่า 4 นี้ไม่ได้มีที่มาที่ตายตัว อาจถูกปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของแต่ละสถานการณ์ ตัวแปรอื่นๆ: ค่า P_ij, C_ij และ EA_ij เป็นตัวแปรที่ใช้ในการคำนวณความเสี่ยง โดยแต่ละตัวแปรมีความหมายดังนี้ P_ij: ความน่าจะเป็นที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น C_ij: ความรุนแรงของผลกระทบหากเหตุการณ์เกิดขึ้น EA_ij: อัตราส่วนของส่วนของเส้นทางที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

การวิเคราะห์ความเสี่ยง (Risk Analysis): เป็นกระบวนการประเมินความน่าจะเป็นและผลกระทบของเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ ทฤษฎีความน่าจะเป็น (Probability Theory): ใช้ในการคำนวณความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การตัดสินใจภายใต้ความไม่แน่นอน (Decision Making under Uncertainty): เป็นกระบวนการตัดสินใจเมื่อข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือไม่แน่นอน

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


Given the FAHP weights for two risks as 0.3 and 0.7, and their corresponding DEA scores are 50 and 80, what is the overall risk score using the SAW method?

74

SAW (Simple Additive Weighting): เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดในการรวมคะแนนของหลายเกณฑ์ โดยจะคูณน้ำหนักของแต่ละเกณฑ์กับคะแนนของเกณฑ์นั้น แล้วนำผลคูณทั้งหมดมาบวกกัน การคำนวณ: ความเสี่ยงที่ 1: น้ำหนัก (0.3) x คะแนน DEA (50) = 15 ความเสี่ยงที่ 2: น้ำหนัก (0.7) x คะแนน DEA (80) = 56 คะแนนความเสี่ยงโดยรวม = 15 + 56 = 71

FAHP (Analytic Hierarchy Process): เป็นวิธีการตัดสินใจแบบหลายเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดลำดับความสำคัญของปัจจัยต่างๆ โดยอาศัยการเปรียบเทียบแบบคู่ DEA (Data Envelopment Analysis): เป็นวิธีการวิเคราะห์ประสิทธิภาพที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของหน่วยงานต่างๆ โดยเปรียบเทียบกับหน่วยงานอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน SAW (Simple Additive Weighting): เป็นวิธีการรวมคะแนนของหลายเกณฑ์ที่ง่ายที่สุด โดยจะคูณน้ำหนักของแต่ละเกณฑ์กับคะแนนของเกณฑ์นั้น แล้วนำผลคูณทั้งหมดมาบวกกัน

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


What is the primary method used for forecasting landslide occurrences in the document?

Linear regression

Linear regression: หลักการ: สร้างสมการเชิงเส้นเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการเกิดดินถล่ม (เช่น ปริมาณน้ำฝน ความชันของพื้นที่) กับความน่าจะเป็นของการเกิดดินถล่ม เหมาะสมเมื่อ: มีความสัมพันธ์เชิงเส้นระหว่างปัจจัยต่างๆ และผลลัพธ์ ข้อจำกัด: อาจไม่เหมาะสมกับข้อมูลที่ซับซ้อนหรือมีความไม่เป็นเชิงเส้นสูง

สถิติ: ทฤษฎีความน่าจะเป็น การแจกแจงความน่าจะเป็น การวิเคราะห์การถดถอย Machine learning: การเรียนรู้ของเครื่อง การเรียนรู้เชิงลึก Neural network Decision tree วิทยาศาสตร์โลก: ธรณีวิทยา อุตุนิยมวิทยา

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


What does LST stand for as used in the document?

Land Surface Temperature

ความเกี่ยวข้อง: คำย่อ LST มักถูกนำมาใช้ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับภูมิศาสตร์, ธรณีวิทยา, และวิทยาศาสตร์บรรยากาศ ซึ่งเป็นสาขาที่ศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิบนผิวโลก การใช้งาน: LST มีความสำคัญในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การพยากรณ์อากาศ, และการประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน

การวัดอุณหภูมิจากระยะไกล: เทคโนโลยีเซ็นเซอร์และดาวเทียมทำให้สามารถวัดอุณหภูมิพื้นผิวโลกได้จากระยะไกล ซึ่งเป็นพื้นฐานในการคำนวณ LST การปรับเทียบข้อมูล: ข้อมูล LST ที่ได้จากดาวเทียมจะต้องผ่านการปรับเทียบเพื่อให้ได้ค่าที่ถูกต้อง โดยพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของพื้นผิว, ความชื้นในอากาศ, และมุมตกกระทบของแสงอาทิตย์ การนำไปใช้ประโยชน์: ข้อมูล LST สามารถนำไปใช้ในการศึกษาปรากฏการณ์ต่างๆ เช่น คลื่นความร้อน, ภัยแล้ง, และการเปลี่ยนแปลงของการใช้ที่ดิน

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


Which parameter directly influences the underground water level, as discussed in the document?

Precipitation volume

ปริมาณน้ำฝนคือแหล่งเติมน้ำหลักของชั้นน้ำใต้ดิน: เมื่อฝนตกลงมา น้ำส่วนหนึ่งจะซึมลงสู่ดินและชั้นหินอุ้มน้ำ ทำให้ระดับน้ำใต้ดินสูงขึ้น ความสัมพันธ์โดยตรง: ปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ระดับน้ำใต้ดินเพิ่มขึ้นโดยตรง และในทางกลับกัน ปริมาณน้ำฝนที่ลดลงจะทำให้ระดับน้ำใต้ดินลดลง ปัจจัยอื่นมีผลต่อระดับน้ำใต้ดินทางอ้อม: ปัจจัยอื่นๆ เช่น ความหนาแน่นของดิน อุณหภูมิผิวดิน ความดันบรรยากาศ และอุณหภูมิอากาศ มีผลต่อกระบวนการทางธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับน้ำใต้ดิน เช่น อัตราการซึม อัตราการระเหย แต่ไม่ได้มีผลโดยตรงและชัดเจนเท่ากับปริมาณน้ำฝน

วัฏจักรของน้ำ (Water cycle): ปริมาณน้ำฝนเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรของน้ำ ซึ่งเป็นกระบวนการหมุนเวียนของน้ำบนโลก โดยน้ำจะเปลี่ยนสถานะระหว่างของเหลว แก๊ส และของแข็ง ธรณีวิทยาของน้ำใต้ดิน (Hydrogeology): ศึกษาเกี่ยวกับการเกิด การเคลื่อนที่ และการกระจายตัวของน้ำใต้ดิน รวมถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อน้ำใต้ดิน อุทกวิทยา (Hydrology): ศึกษาเกี่ยวกับปริมาณและการกระจายตัวของน้ำบนโลก รวมถึงปฏิสัมพันธ์ระหว่างน้ำกับบรรยากาศ ดิน และหิน

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


Which technology is highlighted for its use in landslide analysis and prediction in the study?

Geographic Information Systems (GIS)

การรวมข้อมูลเชิงพื้นที่: GIS สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย เช่น ข้อมูลภูมิประเทศ, ข้อมูลดิน, ข้อมูลการใช้ที่ดิน, และข้อมูลสภาพอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเกิดดินถล่ม การสร้างแผนที่: GIS ช่วยสร้างแผนที่แสดงพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มได้อย่างแม่นยำ โดยอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ที่รวบรวมมา การจำลองสถานการณ์: GIS สามารถจำลองสถานการณ์การเกิดดินถล่ม เพื่อประเมินผลกระทบและวางแผนการจัดการ การวิเคราะห์เชิงพื้นที่: GIS มีเครื่องมือวิเคราะห์เชิงพื้นที่ที่หลากหลาย เช่น การวิเคราะห์ความลาดชัน, การวิเคราะห์การระบายน้ำ, และการวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ ซึ่งช่วยในการระบุพื้นที่เสี่ยง การนำเสนอข้อมูล: GIS สามารถนำเสนอข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ในรูปแบบแผนที่, กราฟ, และตาราง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจข้อมูลได้ง่าย

ภูมิศาสตร์: GIS ใช้หลักการทางภูมิศาสตร์ในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม ระบบสารสนเทศ: GIS เป็นระบบสารสนเทศที่ใช้จัดเก็บ, วิเคราะห์, และนำเสนอข้อมูลเชิงพื้นที่ วิทยาศาสตร์โลก: GIS ใช้ในการศึกษาปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น ดินถล่ม, แผ่นดินไหว, และภูเขาไฟระเบิด วิศวกรรม: GIS ใช้ในการออกแบบและวางแผนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน, เขื่อน, และอาคาร เพื่อลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


What role does the 'Plasticity Index' play in the context of landslides?

Indicates soil's susceptibility to landslide when wet

ดัชนีพลาสติก (Plasticity Index) เป็นค่าที่บ่งบอกถึงช่วงของความชื้นที่ดินสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้โดยไม่แตกหัก ซึ่งหมายความว่าดินที่มีดัชนีพลาสติกสูงจะมีความสามารถในการอุ้มน้ำได้มาก เมื่อดินดูดซับน้ำมากขึ้น ความแข็งแรงของดินจะลดลง ทำให้ดินมีความเสี่ยงต่อการเคลื่อนตัวหรือเกิดดินสไลด์มากขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างดัชนีพลาสติกและความเสี่ยงต่อการเกิดดินสไลด์: ดินเหนียว: มีดัชนีพลาสติกสูง มีความสามารถในการอุ้มน้ำสูง เมื่อเปียกจะกลายเป็นของเหลวได้ง่าย จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดดินสไลด์สูง ดินทราย: มีดัชนีพลาสติกต่ำ มีความสามารถในการอุ้มน้ำต่ำ เมื่อเปียกจะยังคงมีโครงสร้างอยู่ จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดดินสไลด์ต่ำกว่าดินเหนียว ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการเกิดดินสไลด์: นอกจากดัชนีพลาสติกแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการเกิดดินสไลด์ เช่น ความชันของพื้นที่ ปริมาณน้ำฝน ความหนาแน่นของพืชพันธุ์ ฯลฯ

วิศวกรรมดิน: เป็นสาขาวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับสมบัติทางกายภาพและทางกลของดิน ซึ่งรวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับดัชนีพลาสติกและความสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการเกิดดินสไลด์ กลศาสตร์ดิน: เป็นสาขาวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของดินภายใต้แรงต่างๆ ซึ่งรวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับความแข็งแรงของดินและความเสถียรภาพของดิน

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


Based on the study, what natural events significantly trigger landslides along the Jammu Srinagar National Highway?

Heavy rainfall and snowfall

การอิ่มตัวของน้ำ: ฝนตกหนักและหิมะละลายจะทำให้น้ำซึมเข้าไปในดินและชั้นหิน ทำให้ดินอิ่มตัวด้วยน้ำ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นและแรงดันของน้ำจะลดความเสถียรของดิน ทำให้เกิดการเคลื่อนตัวและดินถล่มได้ง่าย การกัดเซาะ: น้ำฝนที่ไหลบ่าจะกัดเซาะหน้าดินและชั้นหินที่อ่อนตัว ทำให้เกิดรอยแยกและช่องว่าง ซึ่งเป็นตัวเร่งให้เกิดการเคลื่อนตัวของดิน การเปลี่ยนแปลงความชัน: หิมะที่ตกสะสมและละลายจะเปลี่ยนแปลงความชันของพื้นที่ ทำให้เกิดความไม่เสถียรและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม

ทฤษฎีความลาดชัน (Slope Stability Theory): ทฤษฎีนี้ใช้ในการวิเคราะห์ความเสถียรของดินบนความลาดชัน โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น น้ำหนักของดิน แรงดันของน้ำ แรงเสียดทาน และความแข็งแรงของดิน Hydrology: การศึกษาเกี่ยวกับวัฏจักรของน้ำและผลกระทบของน้ำต่อดินและหิน Geomorphology: การศึกษาเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพของพื้นผิวโลกและกระบวนการทางธรณีวิทยาที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


Which GIS-based model is NOT mentioned in the study for landslide susceptibility mapping?

All of the above are mentioned

จากการศึกษาและวิจัยจำนวนมาก ทั้ง Logistic Regression, Random Forest, Decision and Regression Tree, และ Neural Networks ต่างก็เป็นโมเดลที่นิยมใช้ในการสร้างแผนที่ความเสี่ยงดินถล่ม (landslide susceptibility mapping) โดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS)

ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS): เป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning): เป็นสาขาของปัญญาประดิษฐ์ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้สามารถเรียนรู้จากข้อมูลโดยไม่จำเป็นต้องถูกตั้งโปรแกรมโดยตรง สถิติ: ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและประเมินความแม่นยำของโมเดล

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


What is the primary purpose of landslide susceptibility maps according to the document?

Identifying areas prone to landslides for hazard management

วัตถุประสงค์หลัก: แผนที่ความเสี่ยงดินถล่มถูกสร้างขึ้นเพื่อระบุพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดดินถล่ม การจัดการภัยพิบัติ: ข้อมูลจากแผนที่นี้จะถูกนำไปใช้ในการวางแผนการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติ เช่น การอพยพประชาชน การสร้างระบบเตือนภัย และการออกกฎระเบียบการใช้ที่ดิน

ธรณีวิทยา: การศึกษาเกี่ยวกับหิน ดิน และโครงสร้างทางธรณีวิทยา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดดินถล่ม ภูมิศาสตร์: การศึกษาเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ เช่น ความชัน ความสูง และการระบายน้ำ วิศวกรรมธรณีเทคนิค: การศึกษาเกี่ยวกับสมบัติทางวิศวกรรมของดินและหิน ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS): การนำข้อมูลทางภูมิศาสตร์มาวิเคราะห์และสร้างแผนที่

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 86 เต็ม 140

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา