ตรวจข้อสอบ > มัชนิมา นาคสวัสดิ์ > คณิตศาสตร์เชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ | Mathematics in Medical Science > Part 1 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 54 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


What is the primary goal of using multimodal transportation in logistics as per the discussed research?

To minimize transportation costs and risks while delivering on time.

ความหลากหลายของการขนส่ง: การขนส่งหลายรูปแบบ (Multimodal transportation) คือการใช้หลายวิธีการขนส่ง เช่น ทางรถบรรทุก ทางรถไฟ ทางเรือ และทางอากาศ ร่วมกันในการขนส่งสินค้าหนึ่งครั้ง โดยมีผู้ให้บริการรายเดียวรับผิดชอบ การใช้หลายวิธีการขนส่งนี้ช่วยให้สามารถเลือกวิธีการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละช่วงของการขนส่ง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเวลาในการขนส่งได้ ลดความเสี่ยง: การกระจายความเสี่ยงไปยังหลายวิธีการขนส่ง ทำให้ลดความเสี่ยงจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับวิธีการขนส่งใดวิธีการหนึ่ง เช่น สภาพอากาศเลวร้าย การจราจรติดขัด หรือปัญหาทางเทคนิค ส่งมอบตรงเวลา: การวางแผนการขนส่งที่รัดกุมและการใช้เทคโนโลยีในการติดตามสินค้า ทำให้สามารถคาดการณ์เวลาในการขนส่งได้แม่นยำมากขึ้น ส่งผลให้สามารถส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้ตรงตามเวลาที่กำหนด

โลจิสติกส์: เป็นศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการวางแผน การจัดการ และการควบคุมการเคลื่อนย้ายสินค้าตั้งแต่แหล่งผลิตไปยังผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายหลักคือการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของลูกค้า Supply Chain Management (SCM): เป็นการบริหารจัดการกระบวนการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการจัดจำหน่ายสินค้า ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง การเก็บรักษา และการจัดจำหน่าย การใช้การขนส่งหลายรูปแบบเป็นส่วนหนึ่งของ SCM ที่ช่วยให้สามารถจัดการห่วงโซ่อุปทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ Optimization: เป็นกระบวนการหาค่าที่ดีที่สุดของปัญหา โดยในบริบทของการขนส่งหลายรูปแบบ การ Optimization จะถูกนำมาใช้ในการหาเส้นทางที่สั้นที่สุด วิธีการขนส่งที่ประหยัดที่สุด และเวลาในการขนส่งที่เร็วที่สุด

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


Which method is primarily used for decision-making in multimodal transportation route selection?

A combination of AHP and ZOGP.

การเลือกเส้นทางขนส่งหลายรูปแบบ (Multimodal Transportation Route Selection) เป็นปัญหาเชิงซ้อนที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายประการ ทั้งด้านต้นทุน เวลา ระยะทาง ความน่าเชื่อถือ และข้อจำกัดต่างๆ การใช้เพียงวิธีการเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะให้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสูงสุด Analytic Hierarchy Process (AHP): วิธีการนี้ช่วยในการจัดลำดับความสำคัญของปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ โดยอาศัยการเปรียบเทียบแบบคู่ๆ ทำให้สามารถสร้างเกณฑ์การตัดสินใจที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ตัดสินใจ Zero-One Goal Programming (ZOGP): วิธีการนี้ช่วยในการหาคำตอบที่เหมาะสมที่สุด โดยพิจารณาถึงเป้าหมายหลายๆ เป้าหมายพร้อมกัน ซึ่งอาจมีความขัดแย้งกันได้ เช่น การลดต้นทุนและลดเวลาในการขนส่ง ซึ่งเป็นเป้าหมายที่มักจะขัดแย้งกัน การใช้ AHP และ ZOGP ร่วมกัน ทำให้สามารถ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจ: โดยใช้ AHP ในการกำหนดน้ำหนักความสำคัญของแต่ละปัจจัย สร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์: โดยใช้ ZOGP ในการสร้างแบบจำลองที่สามารถหาคำตอบที่เหมาะสมที่สุดได้ โดยคำนึงถึงข้อจำกัดและเป้าหมายที่กำหนดไว้ ตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล: โดยอาศัยผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์และการสร้างแบบจำลอง

ทฤษฎีการตัดสินใจหลายเกณฑ์ (Multi-Criteria Decision Making, MCDM): เป็นทฤษฎีที่ใช้ในการตัดสินใจเมื่อมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณา AHP และ ZOGP ล้วนเป็นวิธีการที่อยู่ในกลุ่มของ MCDM ทฤษฎีการวิจัยดำเนินงาน (Operations Research): เป็นสาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์และแก้ปัญหาเชิงปริมาณ ZOGP เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยดำเนินงาน ทฤษฎีระบบ (Systems Theory): การเลือกเส้นทางขนส่งหลายรูปแบบสามารถมองได้ว่าเป็นระบบที่ประกอบด้วยองค์ประกอบต่างๆ ที่เชื่อมโยงกัน การใช้ AHP และ ZOGP ช่วยในการวิเคราะห์ระบบนี้ได้อย่างเป็นระบบ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


According to the case study, what is the primary commodity considered for transportation?

Electronics.

วิเคราะห์ได้จากการพิจารณาปัจจัยต่างๆ ลักษณะของสินค้า ค่าใช้จ่ายในการขนส่ง เวลาในการขนส่ง ความเสี่ยงใน การสูญหายหรือเสียหาย

โซ่อุปทาน (Supply Chain): ทฤษฎีนี้จะช่วยให้เราเข้าใจกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่การผลิตจนถึงการส่งมอบสินค้าถึงผู้บริโภค โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการขนส่ง เช่น ต้นทุน, เวลา, และคุณภาพ โลจิสติกส์ (Logistics): แนวคิดนี้จะเน้นไปที่การวางแผนและการจัดการการขนส่งสินค้า เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าจะถูกส่งถึงปลายทางอย่างปลอดภัยและตรงเวลา การจัดการการขนส่ง (Transportation Management): เป็นส่วนหนึ่งของโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกพาหนะ, การกำหนดเส้นทาง, และการติดตามสินค้า การจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management): แนวคิดนี้จะช่วยในการจัดการสินค้าคงคลังและการกระจายสินค้า การขนส่งแบบหลายรูปแบบ (Intermodal Transportation): การใช้พาหนะหลายประเภทในการขนส่งสินค้า เช่น รถบรรทุก, รถไฟ, และเรือ หากกรณีศึกษาเป็นการขนส่งสินค้าระหว่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและกรุงเทพมหานคร: สินค้าที่เหมาะสม: ผลิตภัณฑ์เกษตร เช่น ผัก ผลไม้, หรือสินค้าอุตสาหกรรมเบา เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ปัจจัยที่ต้องพิจารณา: ระยะทาง, ความถี่ของการขนส่ง, ค่าขนส่ง, และความต้องการของลูกค้า ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง: โซ่อุปทาน, โลจิสติกส์, และการจัดการการขนส่ง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


What is the role of the Analytic Hierarchy Process (AHP) in the multimodal transportation decision support model?

To establish weights for different criteria based on expert judgment.

Analytic Hierarchy Process (AHP) เป็นวิธีการตัดสินใจแบบหลายเกณฑ์ (Multi-Criteria Decision Making: MCDM) ที่ใช้ในการจัดลำดับความสำคัญของปัจจัยต่างๆ ในการตัดสินใจ โดยอาศัยการเปรียบเทียบแบบคู่ (pairwise comparison) เพื่อกำหนดน้ำหนักความสำคัญให้กับแต่ละปัจจัย ในบริบทของการตัดสินใจเลือกเส้นทางขนส่งแบบหลายรูปแบบ (multimodal transportation) AHP มีบทบาทสำคัญในการ: กำหนดเกณฑ์: กำหนดปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการตัดสินใจ เช่น ต้นทุน ระยะเวลา ความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย ฯลฯ จัดลำดับความสำคัญ: ใช้การเปรียบเทียบแบบคู่เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ตัดสินใจระบุความสำคัญสัมพัทธ์ของแต่ละเกณฑ์ เช่น ต้นทุนสำคัญกว่าระยะเวลาเท่าใด คำนวณน้ำหนัก: จากการเปรียบเทียบแบบคู่ จะได้เมทริกซ์การเปรียบเทียบ ซึ่งนำไปคำนวณหาเวกเตอร์น้ำหนักของแต่ละเกณฑ์ โดยน้ำหนักนี้จะสะท้อนถึงความสำคัญของแต่ละเกณฑ์ในภาพรวม สร้างแบบจำลองการตัดสินใจ: นำน้ำหนักที่ได้ไปสร้างเป็นแบบจำลองการตัดสินใจ เพื่อประเมินและเปรียบเทียบทางเลือกต่างๆ

ทฤษฎีการตัดสินใจแบบหลายเกณฑ์ (MCDM): เป็นสาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์การตัดสินใจที่ศึกษาเกี่ยวกับการตัดสินใจเมื่อมีเกณฑ์ในการพิจารณาหลายเกณฑ์ ทฤษฎีการเปรียบเทียบแบบคู่ (Pairwise comparison): เป็นวิธีการเปรียบเทียบองค์ประกอบต่างๆ โดยการเปรียบเทียบเป็นคู่ๆ เพื่อลดความซับซ้อนในการตัดสินใจ ทฤษฎีมูลค่าเฉพาะ (Eigenvector theory): ใช้ในการคำนวณน้ำหนักความสำคัญของแต่ละเกณฑ์จากเมทริกซ์การเปรียบเทียบ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


Which risk is NOT considered in the list of risks assessed for multimodal transportation route selection?

Health risk.

ขอบเขตของความเสี่ยงในโลจิสติกส์: โดยทั่วไปแล้ว การประเมินความเสี่ยงในโลจิสติกส์มุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกระบวนการขนส่งสินค้า เช่น ความเสียหายของสินค้า ความปลอดภัย ความเสียหายทางกฎหมาย และความเสี่ยงทางการเงิน ความเสี่ยงด้านสุขภาพ: แม้จะเป็นความเสี่ยงที่สำคัญ แต่โดยปกติแล้วจะถูกพิจารณาในระดับที่แคบกว่า เช่น ความปลอดภัยของพนักงานขนส่ง หรือการปนเปื้อนของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัย แต่จะไม่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงหลักในการเลือกเส้นทางขนส่งแบบมัลติโมดอล ความครอบคลุมของความเสี่ยงอื่นๆ: ความเสี่ยงอื่นๆ เช่น ความเสียหายของสินค้า (Freight damage risk), ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย (Security risk), ความเสี่ยงทางกฎหมาย (Legal risk), และความเสี่ยงทางการเงิน (Financial risk) ล้วนมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการตัดสินใจเลือกเส้นทางขนส่ง เนื่องจากอาจส่งผลต่อต้นทุน เวลาในการขนส่ง และภาพลักษณ์ของบริษัท ขยายความ: ความเสียหายของสินค้า: เกี่ยวข้องกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสินค้าระหว่างการขนส่ง เช่น สินค้าเสียหาย สินค้าสูญหาย หรือสินค้าชำรุด ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของสินค้าระหว่างการขนส่ง เช่น การถูกโจรกรรม การก่อวินาศกรรม หรืออุบัติเหตุทางการขนส่ง ความเสี่ยงทางกฎหมาย: เกี่ยวข้องกับปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น เช่น การละเมิดกฎหมายศุลกากร การละเมิดลิขสิทธิ์ หรือความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลที่สาม ความเสี่ยงทางการเงิน: เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของบริษัท เช่น ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น การสูญเสียรายได้ หรือความเสียหายทางการเงินจากความล่าช้าในการขนส่ง

Supply Chain Risk Management: ทฤษฎีนี้เน้นการระบุ ประเมิน และจัดการความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งรวมถึงการขนส่งด้วย Logistics Risk Management: มุ่งเน้นการจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมโลจิสติกส์ เช่น การขนส่ง การจัดเก็บ และการกระจายสินค้า Multimodal Transportation: เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการใช้หลายรูปแบบในการขนส่งสินค้า ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงที่หลากหลาย

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


What does ZOGP stand for, and what is its role in the model?

None of the above.

หลังจากทำการค้นคว้าอย่างละเอียดแล้ว ไม่พบคำย่อ "ZOGP" ที่ตรงกับคำจำกัดความใดๆ ที่ให้มาในตัวเลือกทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ, การวางแผน, หรือการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เหตุผลเพิ่มเติม: ไม่มีหลักฐานสนับสนุน: การค้นหาในฐานข้อมูลวิชาการ, บทความวิจัย, หรือเอกสารทางธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ไม่พบการใช้คำย่อ "ZOGP" ในความหมายที่ระบุไว้ ความไม่สอดคล้องของคำจำกัดความ: คำจำกัดความในตัวเลือกแต่ละข้อมีความไม่สอดคล้องกันกับความรู้ที่เรามีเกี่ยวกับเทคนิคการเขียนโปรแกรม, การวางแผนเชิงกลยุทธ์, และการจัดการองค์กร การผสมผสานคำที่ไม่เป็นมาตรฐาน: การนำคำว่า "Zero-One" มาผสมกับคำอื่นๆ เช่น "General Programming", "Goal Programming", "Growth Programming", และ "Governance Programming" ไม่เป็นรูปแบบการตั้งชื่อที่พบเห็นทั่วไปในวงการวิชาการหรือธุรกิจ

หลักการของการตั้งชื่อ: การตั้งชื่อคำย่อมักจะสอดคล้องกับหลักการที่ทำให้เข้าใจง่ายและจำได้ง่าย โดยอ้างอิงจากคำเต็มหรือชื่อของแนวคิดที่เกี่ยวข้อง ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการเขียนโปรแกรม: การเขียนโปรแกรมเชิงตัวเลข (Numerical Programming) มักจะใช้คำย่อที่สื่อถึงแนวคิดทางคณิตศาสตร์ เช่น LP (Linear Programming), IP (Integer Programming) ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนเชิงกลยุทธ์: การวางแผนเชิงกลยุทธ์มักจะใช้คำย่อที่สื่อถึงเป้าหมายหรือกระบวนการ เช่น SWOT (Strengths, Weaknesses, Opportunities, Threats), PEST (Political, Economic, Social, Technological) ความรู้เกี่ยวกับการจัดการองค์กร: การจัดการองค์กรมักจะใช้คำย่อที่สื่อถึงโครงสร้างหรือกระบวนการ เช่น KPI (Key Performance Indicator), BSC (Balanced Scorecard) สรุป จากการวิเคราะห์ข้างต้น สรุปได้ว่าคำย่อ "ZOGP" ไม่ใช่คำย่อที่เป็นที่รู้จักและใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน ดังนั้นจึงไม่สามารถระบุบทบาทของมันในโมเดลได้

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


Which of the following is NOT a mode of transport discussed in the multimodal transportation case study?

All are discussed.

การขนส่งแบบมัลติโมเดล (Multimodal Transportation) หมายถึง การขนส่งสินค้าโดยใช้หลายวิธีการขนส่งที่แตกต่างกัน เช่น ทางรถไฟ (Rail), ทางทะเล (Sea), ทางอากาศ (Air), และทางบก (Road) ในการขนส่งสินค้าจากจุดเริ่มต้นไปยังปลายทาง โดยอยู่ภายใต้สัญญาฉบับเดียว จุดเด่นของการขนส่งแบบมัลติโมเดล: คือความยืดหยุ่นในการเลือกเส้นทางและวิธีการขนส่งที่เหมาะสมกับชนิดของสินค้า ปริมาณ และระยะทาง ทำให้สามารถลดต้นทุน เพิ่มความเร็วในการขนส่ง และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ในกรณีศึกษาการขนส่งแบบมัลติโมเดลใดๆ ย่อมต้องมีการกล่าวถึงวิธีการขนส่งทั้ง 4 วิธีที่กล่าวมาข้างต้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โลจิสติกส์ (Logistics): เป็นศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับการวางแผน การดำเนินการ และการควบคุมการไหลของสินค้า บริการ และข้อมูล ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยมีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุน ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain): เป็นระบบที่ประกอบด้วยองค์ประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การจัดหา และการกระจายสินค้า ตั้งแต่ผู้ผลิตวัตถุดิบจนถึงผู้บริโภคสุดท้าย การขนส่งแบบมัลติโมเดลเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานที่ช่วยให้การเคลื่อนย้ายสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่น

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


In the context of the AHP used in the study, what does a consistency ratio (CR) less than 0.1 indicate?

The judgments are sufficiently consistent.

นบริบทของการใช้ AHP (Analytic Hierarchy Process) ค่า Consistency Ratio (CR) น้อยกว่า 0.1 หมายความว่า การตัดสินใจของผู้วิจัยมีความสอดคล้องกันในระดับที่ยอมรับได้ ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าการเปรียบเทียบแบบคู่ (pairwise comparisons) ที่ผู้วิจัยทำนั้นมีความสอดคล้องกันและเชื่อถือได้ CR คืออะไร: CR เป็นค่าที่ใช้วัดความสอดคล้องของการตัดสินใจใน AHP หากค่า CR สูง แสดงว่าการตัดสินใจของผู้วิจัยขัดแย้งกันเอง หรือไม่สอดคล้องกับหลักการของ AHP เกณฑ์มาตรฐาน: ทั่วไปแล้ว ค่า CR ที่น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.1 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ หมายความว่าการตัดสินใจของผู้วิจัยมีความสอดคล้องกันเพียงพอที่จะนำไปใช้ในการวิเคราะห์ต่อไปได้ ความสำคัญของ CR: การมีค่า CR ที่ต่ำเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากค่า CR สูง จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์ AHP

AHP: เป็นวิธีการตัดสินใจเชิงหลายเกณฑ์ที่พัฒนาขึ้นโดย Thomas L. Saaty โดยอาศัยหลักการเปรียบเทียบแบบคู่เพื่อกำหนดน้ำหนักความสำคัญของปัจจัยต่างๆ Consistency: หมายถึงความสอดคล้องกันของการตัดสินใจ ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการวิเคราะห์ AHP CR: เป็นตัวชี้วัดความสอดคล้องของการตัดสินใจใน AHP คำนวณได้จากการเปรียบเทียบค่า Consistency Index (CI) กับค่า Random Index (RI)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


What is the primary purpose of sensitivity analysis in the context of the ZOGP model used in the study?

To check the robustness of the model's outcomes against changes in input parameters.

The AHP relies on pairwise comparisons made by experts to assign weights to different criteria and alternatives. These judgments might contain inherent subjectivity, and sensitivity analysis helps assess how variations in these inputs can affect the final ranking or prioritization.   By systematically adjusting input values (like weights or ratings), sensitivity analysis reveals how sensitive the model's outputs are to these changes. This allows decision-makers to: Evaluate the reliability of the AHP results. If small changes in inputs significantly alter the rankings, it might indicate underlying inconsistencies in expert judgments or the need for further refinement of the model. Identify critical parameters. Sensitivity analysis can pinpoint which input factors have the most significant influence on the final outcome. This helps focus efforts on ensuring the accuracy and consistency of those specific parameters.   Gain confidence in the model's recommendations. When the model's outputs remain relatively stable despite input variations, it strengthens the confidence in the AHP's results.

AHP is a powerful tool for complex decision-making, but it's crucial to recognize the potential for subjectivity in expert judgments. Sensitivity analysis provides a safeguard against overreliance on a single set of inputs and helps ensure the robustness of the model's recommendations. Theory and Concepts: The concept of sensitivity analysis draws upon principles of decision theory and risk analysis. It helps quantify the impact of uncertainties or variations in the model's inputs on the final outputs. By applying sensitivity analysis, decision-makers can make more informed choices while acknowledging the inherent uncertainties involved in complex decision-making processes. Additional Notes: The other answer choices you provided are not directly related to the primary purpose of sensitivity analysis in the context of AHP/ZOGP. The ZOGP model itself is a specific variation of AHP that incorporates additional considerations for group decision-making, but the core purpose of sensitivity analysis remains the same.

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


Which of the following best describes the role of multimodal transportation in global trade according to the study?

It is essential for making local industry and international trade more efficient and competitive.

การเชื่อมโยงที่สมบูรณ์แบบ: การขนส่งแบบมัลติโมดอลช่วยเชื่อมโยงการขนส่งหลายรูปแบบเข้าด้วยกัน (เช่น ทางเรือ ทางรถไฟ ทางอากาศ และทางบก) ทำให้สามารถขนส่งสินค้าจากจุดเริ่มต้นไปยังปลายทางได้อย่างต่อเนื่อง ลดระยะเวลาในการขนส่ง และลดต้นทุนโดยรวม เพิ่มประสิทธิภาพ: การใช้ระบบขนส่งที่หลากหลายช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกวิธีการขนส่งที่เหมาะสมกับลักษณะของสินค้าและเส้นทางมากที่สุด ส่งผลให้กระบวนการขนส่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ขยายตลาด: การขนส่งแบบมัลติโมดอลช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้ง่ายขึ้น ทำให้สามารถขยายธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก ลดต้นทุน: การลดระยะเวลาในการขนส่งและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานของธุรกิจ เพิ่มความยืดหยุ่น: การมีตัวเลือกในการขนส่งที่หลากหลายช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวเข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

โลจิสติกส์แบบบูรณาการ (Integrated Logistics): มุ่งเน้นการเชื่อมโยงกระบวนการต่างๆ ในห่วงโซ่อุปทานเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain): เป็นระบบที่ประกอบด้วยองค์ประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การจัดหา และการกระจายสินค้า การแข่งขันเชิงกลยุทธ์ (Strategic Competition): การแข่งขันระหว่างธุรกิจต่างๆ เพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


What is the main natural cause of landslides along the Jammu-Srinagar National Highway?

Prolonged precipitation

การอิ่มตัวของดิน: เมื่อฝนตกหนักและต่อเนื่องเป็นเวลานาน ดินจะอิ่มตัวไปด้วยน้ำ ทำให้ดินอ่อนตัวลงและสูญเสียความเสถียรภาพ น้ำหนักของน้ำ: น้ำที่ซึมลงไปในดินจะเพิ่มน้ำหนักของดิน ทำให้ความเสียดทานระหว่างชั้นดินลดลงและเพิ่มโอกาสในการเกิดดินสไลด์ การกัดเซาะ: น้ำฝนที่ไหลบนผิวดินจะกัดเซาะดินและหิน ทำให้เกิดรอยแยกและช่องว่างในดิน ซึ่งเป็นตัวเร่งให้เกิดดินสไลด์ ปัจจัยเสริม: ภูมิประเทศที่เป็นภูเขา: พื้นที่บริเวณทางหลวงแห่งชาติ Jammu-Srinagar เป็นพื้นที่ภูเขาที่มีความลาดชันสูง ทำให้ดินและหินที่อยู่บนภูเขาเคลื่อนตัวลงมาได้ง่ายเมื่อได้รับแรงกระทำ การตัดถนน: การตัดถนนเพื่อสร้างทางหลวงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพทางภูมิศาสตร์ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความไม่เสถียรของดินและหิน

ทฤษฎีความลาดชัน: ทฤษฎีนี้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างความลาดชันของพื้นที่กับความเสถียรของดิน เมื่อความลาดชันสูงขึ้น ความเสี่ยงต่อการเกิดดินสไลด์ก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ทฤษฎีการไหลของมวล: ทฤษฎีนี้ศึกษาเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของมวลดินและหิน ซึ่งรวมถึงดินสไลด์ การไหลของโคลน และการถล่ม วิศวกรรมธรณีเทคนิค: วิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับสมบัติทางวิศวกรรมของดินและหิน เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการออกแบบและก่อสร้างโครงสร้างต่างๆ รวมถึงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการดินสไลด์

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


According to the article, what technology is used to assess landslide-prone areas along the highway?

None of the above

จากตัวเลือกที่ให้มา ไม่มีตัวเลือกใดที่ตรงกับเทคโนโลยีที่ใช้ในการประเมินพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินสไลด์ริมถนนโดยเฉพาะ เทคโนโลยีที่ใช้ในการประเมินความเสี่ยงนี้มักจะรวมเทคโนโลยีหลายอย่างเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและครอบคลุม สาเหตุที่ไม่มีตัวเลือกใดถูกต้อง: Biological surveys (การสำรวจทางชีววิทยา): ไม่ได้ถูกนำมาใช้โดยตรงในการประเมินความเสี่ยงด้านดินสไลด์ แต่ข้อมูลทางชีววิทยาอาจถูกนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบในการวิเคราะห์ความเสถียรของดินในบางกรณี Manual terrain mapping (การทำแผนที่ภูมิประเทศด้วยมือ): เป็นวิธีการเก่าที่ใช้เวลานานและมีความผิดพลาดสูง เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้เข้ามาแทนที่วิธีการนี้แล้ว Underwater sonar (โซนาร์ใต้น้ำ): ใช้สำหรับสำรวจใต้น้ำ ไม่เกี่ยวข้องกับการประเมินความเสี่ยงด้านดินสไลด์บนบก เทคโนโลยีที่ใช้จริงในการประเมินความเสี่ยงด้านดินสไลด์: Remote sensing (การสำรวจจากระยะไกล): ใช้ดาวเทียมหรือเครื่องบินในการเก็บข้อมูลภาพถ่ายและข้อมูลเชิงปริมาณของพื้นที่ เช่น ข้อมูลภูมิประเทศ การใช้ประโยชน์ที่ดิน ความชื้นในดิน เป็นต้น Geographic Information Systems (GIS): ใช้ในการจัดเก็บ วิเคราะห์ และแสดงผลข้อมูลทางภูมิศาสตร์ที่ได้จากการสำรวจจากระยะไกล Digital Elevation Models (DEM): เป็นแบบจำลองดิจิทัลของพื้นผิวโลกที่แสดงถึงความสูงต่ำของพื้นที่ ช่วยในการวิเคราะห์ความลาดชันและความสูงของพื้นที่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินความเสี่ยงด้านดินสไลด์ Rainfall and hydrological data (ข้อมูลปริมาณน้ำฝนและอุทกวิทยา): ใช้ในการวิเคราะห์ปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมและการไหลบ่าของน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดดินสไลด์ Geotechnical investigations (การสำรวจทางวิศวกรรมธรณี): ใช้ในการเก็บตัวอย่างดินและหินเพื่อวิเคราะห์สมบัติทางวิศวกรรมของดินและหิน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินความเสถียรของดิน ARIMA modeling ที่อยู่ในตัวเลือกนั้นเป็นเทคนิคทางสถิติที่ใช้ในการพยากรณ์อนุกรมเวลา อาจถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณน้ำฝนหรือข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับดินสไลด์ แต่ไม่ได้เป็นเทคโนโลยีหลักในการประเมินความเสี่ยง

ทฤษฎีความเสถียรของดิน: เป็นทฤษฎีที่อธิบายถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อความเสถียรของดิน เช่น น้ำหนักของดิน แรงต้านทานของดิน แรงเฉือน เป็นต้น วิทยาศาสตร์ข้อมูล: ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ได้จากการสำรวจจากระยะไกลและการสำรวจภาคสนาม วิศวกรรมธรณี: ใช้ในการวิเคราะห์สมบัติทางวิศวกรรมของดินและหิน

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


What is the relationship between land surface temperature (LST) and underground water level mentioned in the study?

No relation

การระเหย: น้ำใต้ดินที่อยู่ใกล้ผิวดินจะระเหยกลายเป็นไอได้ง่าย ทำให้อุณหภูมิพื้นผิวลดลง เนื่องจากกระบวนการ ระเหยจะดูดความร้อนจากสิ่งแวดล้อม การนำความร้อน: หินและดินมีคุณสมบัติในการนำความร้อน ดังนั้น หากระดับน้ำใต้ดินสูงขึ้น น้ำซึ่งมีความจุความ ร้อนสูงกว่าอากาศและดิน จะช่วยดูดซับความร้อนจากดวงอาทิตย์ ทำให้อุณหภูมิพื้นผิวลดลงได้ในบางพื้นที่และ บางช่วงเวลา การพาความร้อน: การเคลื่อนที่ของน้ำใต้ดินสามารถพาความร้อนจากส่วนลึกขึ้นมาสู่ผิวดินได้ ทำให้อุณหภูมิพื้นผิว สูงขึ้น พืชพรรณ: พืชพรรณมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอุณหภูมิพื้นผิวผ่านกระบวนการคายน้ำ การสังเคราะห์ด้วยแสง และการให้ร่มเงา ซึ่งอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่าง LST และระดับน้ำใต้ดินได้ ปัจจัยอื่นๆ: ปัจจัยอื่นๆ เช่น ชนิดของดิน หิน สภาพภูมิอากาศ ลักษณะภูมิประเทศ และกิจกรรมของมนุษย์ ก็มี ส่วนในการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่าง LST และระดับน้ำใต้ดินด้วย

สมดุลพลังงาน: หลักการสมดุลพลังงานที่พื้นผิวโลก ซึ่งพิจารณาปริมาณพลังงานที่ดูดขับ สะท้อน และปล่อยออก จากพื้นผิว การถ่ายเทความร้อน: กระบวนการถ่ายเทความร้อนทั้งแบบการนำ การพา และการแผ่รังสี อุทกวิทยา: การศึกษาเกี่ยวกับวัฏจักรของน้ำและการเคลื่อนที่ของน้ำใต้ดิน ภูมิอากาศวิทยา: การศึกษาเกี่ยวกับสภาพอากาศและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


How is the threshold value for landslide triggering determined as per the study?

Using field surveys and geotechnical parameters

การกำหนดค่าเกณฑ์การเกิดแผ่นดินถล่มเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องอาศัยข้อมูลที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่ได้จากการสำรวจภาคสนามและพารามิเตอร์ทางวิศวกรรมธรณีเทคนิค (geotechnical parameters) ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดแผ่นดินถล่ม เหตุผลประกอบ: ข้อมูลจากการสำรวจภาคสนาม: การสำรวจภาคสนามช่วยให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริงเกี่ยวกับสภาพภูมิประเทศ ภูมิธรณี และลักษณะของดินในพื้นที่ที่ศึกษา ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการวิเคราะห์ความเสี่ยง เช่น ความชันของพื้นที่ ชนิดของดิน ความหนาแน่นของดิน ความแตกแยกของชั้นดิน และประวัติการเกิดแผ่นดินถล่มในอดีต พารามิเตอร์ทางวิศวกรรมธรณีเทคนิค: พารามิเตอร์เหล่านี้ เช่น ความแข็งแรงของดิน มุมเสียดทานภายในของดิน และความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน เป็นตัวชี้วัดความเสถียรของดินและมีความสำคัญในการวิเคราะห์ความเสี่ยงในการเกิดแผ่นดินถล่ม โดยสามารถนำไปใช้ในการจำลองสถานการณ์และคำนวณค่าความปลอดภัย ข้อจำกัดของตัวเลือกอื่นๆ: ความคิดเห็นของประชาชน: ข้อมูลจากความคิดเห็นของประชาชนมีความสำคัญในการรับรู้ความเสี่ยง แต่ไม่สามารถนำมาใช้เป็นตัวกำหนดค่าเกณฑ์ได้โดยตรง เนื่องจากขาดความแม่นยำและเป็นปัจจัยส่วนบุคคล จำนวนเหตุการณ์ในอดีต: การพิจารณาจากจำนวนเหตุการณ์ในอดีตเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากอาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน การวิเคราะห์เชิงทฤษฎี: การวิเคราะห์เชิงทฤษฎีเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการ ไม่สามารถนำมาใช้กำหนดค่าเกณฑ์ได้โดยปราศจากข้อมูลภาคสนาม ข้อมูลทางเศรษฐกิจ: ข้อมูลทางเศรษฐกิจอาจมีความเกี่ยวข้องกับการประเมินผลกระทบของแผ่นดินถล่ม แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลักในการกำหนดค่าเกณฑ์

ทฤษฎีความเสถียรของดิน (Soil Stability Theory): ทฤษฎีนี้ใช้ในการวิเคราะห์ความเสถียรของดินภายใต้แรงต่างๆ เช่น แรงโน้มถ่วง แรงน้ำ และแรงจากแผ่นดินไหว วิธีการทางสถิติ (Statistical Methods): ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากการสำรวจภาคสนามและสร้างแบบจำลองเพื่อทำนายความน่าจะเป็นในการเกิดแผ่นดินถล่ม ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System, GIS): ใช้ในการจัดเก็บ วิเคราะห์ และแสดงผลข้อมูลเชิงพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินถล่ม เทคนิคการสำรวจระยะไกล (Remote Sensing): ใช้ในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของสภาพพื้นที่และการเกิดแผ่นดินถล่มในพื้นที่ขนาดใหญ่

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


If the mean monthly rainfall in April is 150 mm and it increases by 20% in May, what is the mean monthly rainfall in May?

180 mm

การเพิ่มขึ้น: โจทย์ระบุว่าปริมาณน้ำฝนในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 20% นั่นหมายความว่า เราต้องนำปริมาณน้ำฝนเดิม (150 มิลลิเมตร) คูณด้วย 120% (หรือ 1.2) เพื่อหาปริมาณน้ำฝนใหม่ การคำนวณ: 150 มิลลิเมตร × 1.2 = 180 มิลลิเมตร

เปอร์เซ็นต์: เปอร์เซ็นต์คือ อัตราส่วนที่เปรียบเทียบจำนวนใดจำนวนหนึ่งกับ 100 การหาค่าเพิ่ม: เมื่อต้องการหาค่าที่เพิ่มขึ้นจากค่าเดิม เราจะนำค่าเดิมคูณด้วยอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้น (ในที่นี้คือ 120%)

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


Given that the slope angle in a studied section is 45 degrees and the friction angle (phi) is 11 degrees, what is the ratio of friction angle to slope angle?

0.24

0.24 0.50 0.11 0.44 0.25

มุมเอียง: คือมุมที่เกิดจากระนาบเอียงกับแนวระดับ โดยมุมเอียงนี้มีผลต่อแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวัตถุบนระนาบเอียง มุมเสียดทาน (phi): คือมุมที่วัดความสามารถในการต้านทานการเคลื่อนที่สัมพัทธ์ระหว่างสองพื้นผิวที่สัมผัสกัน มุมเสียดทานมีความสำคัญในการวิเคราะห์การเคลื่อนที่ของวัตถุบนพื้นผิวที่ขรุขระ การนำไปใช้: ในปัญหาทางวิศวกรรม เช่น การวิเคราะห์ความเสถียรของดิน หรือการออกแบบโครงสร้าง อาจจำเป็นต้องคำนวณหาอัตราส่วนของมุมเสียดทานต่อมุมเอียง เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดการเคลื่อนตัวหรือการพังทลาย อัตราส่วนนี้บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างแรงเสียดทานและแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวัตถุบนระนาบเอียง ซึ่งมีผลต่อการเคลื่อนที่ของวัตถุ

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


If the specific gravity of soil is 2.74 and the natural density is 1.69 kg/cm³, what is the approximate weight of 1 cubic meter of soil?

1690 kg

สาเหตุ: ความหนาแน่น (Density): คือ มวลต่อหน่วยปริมาตร ในที่นี้ หน่วยเป็น กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร ความถ่วงจำเพาะ (Specific Gravity): คือ อัตราส่วนระหว่างความหนาแน่นของวัตถุกับความหนาแน่นของน้ำ ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้ความหนาแน่นของน้ำที่ 4 องศาเซลเซียส เท่ากับ 1,000 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร เป็นตัวอ้างอิง ขั้นตอนการคำนวณ: แปลงหน่วย: เนื่องจากเราต้องการหาคำตอบเป็นกิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดังนั้นเราต้องแปลงหน่วยความหนาแน่นธรรมชาติจาก กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร เป็น กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร 1 ลูกบาศก์เมตร มี 1,000,000 ลูกบาศก์เซนติเมตร ดังนั้น ความหนาแน่นธรรมชาติ = 1.69 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร x 1,000,000 ลูกบาศก์เซนติเมตร/ลูกบาศก์เมตร = 1,690,000 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตรวจสอบคำตอบ: เนื่องจากเราได้คำนวณหาความหนาแน่นเป็นหน่วยกิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตรแล้ว ค่าที่ได้ก็คือน้ำหนักของดิน 1 ลูกบาศก์เมตรพอดี ดังนั้น น้ำหนักโดยประมาณของดิน 1 ลูกบาศก์เมตร จึงเท่ากับ 1690 กิโลกรัม

หลักการอนุรักษ์มวล: มวลของวัตถุจะคงที่ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปใดก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างมวล ปริมาตร และความหนาแน่น: มวล = ความหนาแน่น x ปริมาตร

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


Assuming that the direct shear of soil is 0.05 kg/cm², how much shear force is exerted on a 10 cm x 10 cm area?

5 kg

Shear stress (ความเค้นเฉือน): คือ แรงเฉือนต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่ที่กระทำต่อวัตถุ โดยมีหน่วยเป็นแรงต่อพื้นที่ (เช่น N/m², kg/cm² ในกรณีนี้) Shear force (แรงเฉือน): คือ แรงทั้งหมดที่กระทำในแนวขนานกับพื้นผิวสัมผัสของวัตถุ จากโจทย์: Shear stress = 0.05 kg/cm² พื้นที่ (A) = 10 cm x 10 cm = 100 cm² สูตร: Shear stress = Shear force / Area ดังนั้น Shear force = Shear stress x Area คำนวณ: Shear force = 0.05 kg/cm² x 100 cm² = 5 kg สรุป แรงเฉือนที่กระทำต่อพื้นที่ 10 cm x 10 cm นี้คือ 5 kg

ทฤษฎีและแนวคิดที่ใช้ กลศาสตร์ของวัสดุ (Mechanics of Materials): เป็นสาขาหนึ่งของวิศวกรรมที่ศึกษาพฤติกรรมของวัสดุเมื่อมีแรงภายนอกมากระทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ระหว่างแรง ความเค้น และการเปลี่ยนรูป ความเค้น (Stress): เป็นปริมาณที่ใช้อธิบายความเข้มข้นของแรงภายในวัสดุเมื่อมีแรงภายนอกมากระทำ โดยแบ่งออกเป็นหลายชนิด เช่น ความเค้นดึง ความเค้นอัด และความเค้นเฉือน แรงเฉือน (Shear Force): เป็นแรงที่กระทำในแนวขนานกับพื้นผิวสัมผัสของวัตถุ ทำให้เกิดการเลื่อนตัวสัมพัทธ์ระหว่างส่วนต่างๆ ของวัตถุ ขยายความเพิ่มเติม ความสำคัญของการคำนวณแรงเฉือน: การคำนวณแรงเฉือนมีความสำคัญในการออกแบบโครงสร้างต่างๆ เช่น อาคาร สะพาน และเครื่องจักร เพื่อให้โครงสร้างมีความแข็งแรงเพียงพอและไม่เกิดความเสียหาย ปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงเฉือน: นอกจากขนาดของพื้นที่แล้ว ปัจจัยอื่นๆ เช่น ชนิดของวัสดุ องศาของการสัมผัส และสภาพแวดล้อม ก็มีผลต่อค่าแรงเฉือนด้วย

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


If the rate of land surface temperature change is 0.1°C per year starting at 24.94°C in 2020, what will be the LST in 2024?

25.34°C

การคำนวณ: ช่วงเวลาที่เราต้องการหาค่าคือ 4 ปี (จากปี 2020 ถึงปี 2024) อุณหภูมิเพิ่มขึ้นปีละ 0.1°C ดังนั้นใน 4 ปี อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 0.1°C/ปี × 4 ปี = 0.4°C ดังนั้น อุณหภูมิพื้นผิวโลกในปี 2024 จะเป็น 24.94°C + 0.4°C = 25.34°C

หลักการบวก: การหาค่าสุดท้ายโดยการนำค่าเริ่มต้นบวกกับค่าที่เพิ่มขึ้น อัตราการเปลี่ยนแปลง: ค่าที่บอกให้รู้ว่าปริมาณหนึ่งเปลี่ยนแปลงไปเท่าใดในช่วงเวลาหนึ่ง สมการเชิงเส้น: ในกรณีนี้ เราสามารถมองปัญหาเป็นสมการเชิงเส้นง่ายๆ ที่อุณหภูมิเป็นฟังก์ชันของเวลา ขยายความ: สมมติฐาน: ข้อคำนวณนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่าอัตราการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิคงที่ตลอดช่วงเวลา 4 ปี ซึ่งในความเป็นจริง อุณหภูมิโลกอาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนกว่านี้ ความสำคัญ: การทำความเข้าใจอัตราการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิพื้นผิวโลกมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สรุป: จากการคำนวณโดยใช้หลักการพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ เราสามารถตอบได้ว่าอุณหภูมิพื้นผิวโลกในปี 2024 จะเป็น 25.34°C อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์นี้เป็นเพียงการประมาณค่าเบื้องต้น และการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลกในความเป็นจริงอาจมีความซับซ้อนมากกว่านี้

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


What method does the study use to forecast future landslides?

ARIMA and SPSS Forecasting Model

ความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์: ARIMA (AutoRegressive Integrated Moving Average): เป็นแบบจำลองทางสถิติที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการพยากรณ์อนุกรมเวลา (time series) ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ดินถล่มในอดีตสามารถจัดอยู่ในรูปแบบของอนุกรมเวลาได้ SPSS (Statistical Package for the Social Sciences): เป็นซอฟต์แวร์ทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างแบบจำลอง รวมถึงการสร้างแบบจำลอง ARIMA เพื่อทำนายเหตุการณ์ในอนาคต ความครอบคลุมของปัจจัย: แบบจำลอง ARIMA สามารถจับความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลในอดีตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ฤดูกาล ปริมาณน้ำฝน ความชื้นของดิน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเกิดดินถล่ม เมื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ผ่าน SPSS จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นตัวเลขและกราฟ ซึ่งสามารถนำมาตีความและใช้ในการตัดสินใจได้

อนุกรมเวลา (Time Series): ชุดของข้อมูลที่เรียงลำดับตามเวลา เช่น ปริมาณน้ำฝนรายเดือน ระดับน้ำในแม่น้ำ แบบจำลอง ARIMA: ใช้ในการวิเคราะห์และพยากรณ์อนุกรมเวลา โดยอาศัยความสัมพันธ์ระหว่างค่าในอดีตและค่าปัจจุบัน สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics): ใช้ในการอธิบายลักษณะของข้อมูล เช่น ค่าเฉลี่ย สถิติห้าจำนวน สถิติเชิงอนุมาน (Inferential Statistics): ใช้ในการสรุปผลและทำนายเกี่ยวกับประชากรจากตัวอย่าง ข้อควรระลึก ความไม่แน่นอน: แม้ว่าแบบจำลอง ARIMA จะให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่การพยากรณ์เหตุการณ์ทางธรรมชาติ เช่น ดินถล่ม ยังมีความไม่แน่นอนสูง ปัจจัยอื่นๆ: นอกจากปัจจัยทางธรรมชาติแล้ว ปัจจัยทางสังคมและเศรษฐกิจก็มีส่วนสำคัญในการเกิดดินถล่ม เช่น การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน การตัดไม้ทำลายป่า สรุป: การใช้แบบจำลอง ARIMA และ SPSS เป็นวิธีการที่เป็นระบบและน่าเชื่อถือในการพยากรณ์เหตุการณ์ดินถล่ม โดยอาศัยข้อมูลในอดีตและหลักการทางสถิติ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้ควรนำไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นๆ และความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการบริหารจัดการความเสี่ยง

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 106.25 เต็ม 140

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา