1 |
Which method is used to determine the weights of factors in a multimodal transportation system?
|
Analytic Hierarchy Process (AHP) |
|
ความสามารถในการจัดการปัจจัยหลายตัว: AHP สามารถจัดการกับปัจจัยที่มีทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับความซับซ้อนของระบบขนส่งมัลติโมดอลที่มีปัจจัยหลากหลาย เช่น ระยะทาง เวลา ค่าใช้จ่าย ความน่าเชื่อถือ ความสะดวกสบาย เป็นต้น
การเปรียบเทียบแบบคู่: AHP ใช้การเปรียบเทียบแบบคู่ (pairwise comparison) เพื่อให้ผู้ตัดสินใจเปรียบเทียบความสำคัญสัมพัทธ์ของปัจจัยต่างๆ เป็นคู่ๆ ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่ายและเข้าใจได้ ทำให้ผู้ตัดสินใจสามารถให้คะแนนความสำคัญได้อย่างสอดคล้องกับความรู้และประสบการณ์ของตน
การสร้างลำดับชั้น: AHP ช่วยให้สามารถสร้างลำดับชั้นของปัจจัยต่างๆ ได้ ซึ่งทำให้เห็นภาพรวมของความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยได้ชัดเจนขึ้น และสามารถวิเคราะห์ความสำคัญของปัจจัยแต่ละระดับได้อย่างละเอียด
การตรวจสอบความสอดคล้อง: AHP มีเครื่องมือในการตรวจสอบความสอดคล้องของการตัดสินใจ (consistency ratio) เพื่อให้มั่นใจว่าการตัดสินใจของผู้ตัดสินใจมีความสอดคล้องกัน
|
ทฤษฎีการเปรียบเทียบแบบคู่: เป็นพื้นฐานของ AHP ที่ใช้ในการเปรียบเทียบความสำคัญสัมพัทธ์ของปัจจัยต่างๆ
ทฤษฎีเมทริกซ์: ใช้ในการคำนวณน้ำหนักของปัจจัยแต่ละระดับ
ทฤษฎีการตัดสินใจแบบหลายเกณฑ์: เป็นกรอบแนวคิดในการแก้ปัญหาการตัดสินใจที่มีปัจจัยหลายตัว
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
2 |
What is the primary goal of the Zero-One Goal Programming (ZOGP) used in the study?
|
Minimizing the overall transportation cost |
|
ธรรมชาติของ ZOGP: ZOGP ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่ต้องการบรรลุหลายเป้าหมาย โดยมักจะเน้นไปที่การลดค่าใช้จ่ายหรือเพิ่มผลกำไร
ความสำคัญของต้นทุน: ต้นทุนการขนส่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจ การลดต้นทุนจะช่วยให้ธุรกิจมีความได้เปรียบในการแข่งขัน
ความยืดหยุ่นของ ZOGP: ZOGP สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาการขนส่งได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การเลือกเส้นทาง การกำหนดปริมาณการขนส่ง และการจัดตารางเวลา โดยที่ต้นทุนจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ต้องพิจารณา
|
ZOGP คืออะไร: ZOGP เป็นเทคนิคการเขียนโปรแกรมเชิงเส้นชนิดหนึ่งที่ใช้ในการแก้ปัญหาการตัดสินใจเชิงปริมาณที่มีหลายวัตถุประสงค์ โดยจะกำหนดเป้าหมายหลักเป็นการลดหรือเพิ่มค่าของฟังก์ชันวัตถุประสงค์หนึ่ง หรือหลายฟังก์ชัน พร้อมกันกับการรักษาข้อจำกัดต่างๆ
การประยุกต์ใช้ ZOGP ในการขนส่ง: ZOGP สามารถนำมาใช้ในการแก้ปัญหาการขนส่ง เช่น การเลือกเส้นทางที่สั้นที่สุด การลดต้นทุนการขนส่ง การเพิ่มความเร็วในการขนส่ง และการจัดการคลังสินค้า
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง: ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับ ZOGP ได้แก่ ทฤษฎีการเขียนโปรแกรมเชิงเส้น (linear programming), ทฤษฎีการตัดสินใจเชิงปริมาณ (quantitative decision making), และทฤษฎีเครือข่าย (network theory)
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
3 |
In the context of multimodal transportation, what does the 'multimodal' aspect refer to?
|
Using multiple modes of transport for a single shipment |
|
นิยามของการขนส่งแบบหลายรูปแบบ (Multimodal Transportation): การขนส่งแบบหลายรูปแบบหมายถึงการขนส่งสินค้าจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดหมายปลายทาง โดยใช้รูปแบบการขนส่งมากกว่าหนึ่งรูปแบบ เช่น การขนส่งทางเรือจากท่าเรือต้นทางไปยังท่าเรือปลายทาง จากนั้นจึงใช้รถบรรทุกขนส่งสินค้าไปยังคลังสินค้าของลูกค้า
จุดเด่นของการขนส่งแบบหลายรูปแบบ:
ความยืดหยุ่น: สามารถเลือกใช้รูปแบบการขนส่งที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงของเส้นทาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
ครอบคลุมพื้นที่กว้าง: สามารถขนส่งสินค้าไปยังจุดหมายปลายทางที่เข้าถึงได้ยาก หรือพื้นที่ที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานทางการขนส่งเพียงพอกับรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
ลดความเสี่ยง: การกระจายความเสี่ยงในการขนส่ง โดยไม่พึ่งพารูปแบบการขนส่งเพียงรูปแบบเดียว
ข้อแตกต่างจากการขนส่งแบบ Intermodal: การขนส่งแบบ Intermodal ก็เป็นการขนส่งที่ใช้หลายรูปแบบเช่นกัน แต่จะเน้นที่การเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งเพียงครั้งเดียว และมักมีผู้ให้บริการรายเดียวรับผิดชอบตลอดเส้นทาง
|
โลจิสติกส์: การขนส่งแบบหลายรูปแบบเป็นส่วนหนึ่งของระบบโลจิสติกส์ที่มุ่งเน้นการจัดการการไหลของสินค้าจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดหมายปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพ
ซัพพลายเชน: การขนส่งแบบหลายรูปแบบมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงซัพพลายเชน ทำให้สินค้าสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
เศรษฐศาสตร์: การเลือกใช้รูปแบบการขนส่งที่เหมาะสมจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไรให้กับธุรกิจ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
4 |
Which risk is NOT directly considered in the optimization model described in the document?
|
Freight damage risk |
|
ความละเอียดของแบบจำลอง: เพื่อให้สามารถตอบคำถามนี้ได้อย่างถูกต้อง เราจำเป็นต้องทราบรายละเอียดของแบบจำลอง เช่น
ตัวแปร: มีตัวแปรอะไรบ้างที่ใช้ในการแทนปริมาณต่างๆ เช่น ปริมาณสินค้า ระยะทาง ค่าใช้จ่าย เป็นต้น
ข้อจำกัด: มีข้อจำกัดอะไรบ้างที่กำหนดขอบเขตของปัญหา เช่น ข้อจำกัดด้านความจุ ข้อจำกัดด้านเวลา เป็นต้น
ฟังก์ชันวัตถุประสงค์: ฟังก์ชันวัตถุประสงค์คืออะไร ต้องการที่จะเพิ่มหรือลดค่าของอะไร
ขอบเขตของการศึกษา: ต้องพิจารณาว่าการศึกษาเน้นไปที่ด้านใดเป็นหลัก เช่น การลดต้นทุน การเพิ่มความเร็วในการขนส่ง หรือการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
|
ทฤษฎีการเขียนโปรแกรมเชิงเส้น (Linear Programming): เป็นพื้นฐานของการสร้างแบบจำลองการเพิ่มประสิทธิภาพ
ทฤษฎีเครือข่าย (Network Theory): ใช้ในการวิเคราะห์โครงข่ายการขนส่ง
ทฤษฎีความน่าจะเป็นและสถิติ: ใช้ในการประเมินความเสี่ยงและความไม่แน่นอน
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
5 |
What is the primary advantage of integrating AHP with ZOGP in the study's methodology?
|
Ensuring consistency and reducing bias in decision-making |
|
AHP (Analytic Hierarchy Process): เป็นวิธีการตัดสินใจเชิงหลายเกณฑ์ที่ช่วยในการจัดลำดับความสำคัญของปัจจัยต่างๆ โดยอาศัยการเปรียบเทียบแบบคู่ๆ ซึ่งช่วยลดอคติจากการตัดสินใจแบบกะทันหัน
ZOGP (Zero-One Goal Programming): เป็นเทคนิคการเขียนโปรแกรมเชิงเส้นที่ใช้ในการแก้ปัญหาการตัดสินใจเชิงปริมาณที่มีหลายวัตถุประสงค์ โดยช่วยให้สามารถจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมายต่างๆ ได้อย่างชัดเจน
การผสานกัน: เมื่อนำ AHP มาใช้ร่วมกับ ZOGP จะช่วยให้:
เพิ่มความสอดคล้อง: การใช้ AHP ในการจัดลำดับความสำคัญของเกณฑ์ต่างๆ จะช่วยให้การตัดสินใจที่ได้จาก ZOGP มีความสอดคล้องกับความสำคัญที่กำหนดไว้
ลดอคติ: การเปรียบเทียบแบบคู่ๆ ใน AHP ช่วยลดอคติจากการตัดสินใจแบบกะทันหัน และทำให้การตัดสินใจมีความเป็นกลางมากขึ้น
จัดการกับความไม่แน่นอน: ZOGP สามารถจัดการกับความไม่แน่นอนในข้อมูลและเป้าหมายที่ขัดแย้งกันได้ดี
|
ทฤษฎีการตัดสินใจเชิงหลายเกณฑ์ (Multi-criteria Decision Making, MCDM): AHP เป็นหนึ่งในวิธีการที่ใช้ในการตัดสินใจเชิงหลายเกณฑ์ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการแก้ปัญหาที่มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา
ทฤษฎีการเขียนโปรแกรมเชิงเส้น (Linear Programming): ZOGP เป็นการประยุกต์ใช้ทฤษฎีการเขียนโปรแกรมเชิงเส้นเพื่อแก้ปัญหาการตัดสินใจที่มีหลายวัตถุประสงค์
ทฤษฎีความสอดคล้อง (Consistency): ใน AHP มีการวัดความสอดคล้องของการเปรียบเทียบแบบคู่ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการตัดสินใจมีความสอดคล้องกัน
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
6 |
Which method is applied to validate the model and results in the document?
|
Regression analysis |
|
ปัจจัยหลายอย่าง: การประเมินความสำเร็จของโมเดลขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อัตราความถูกต้อง อัตราการผิดพลาด ค่า precision, recall, F1-score เป็นต้น
การเปรียบเทียบแบบครอบคลุม: เพื่อเปรียบเทียบความสำเร็จของโมเดลต่างๆ จำเป็นต้องมีการประเมินโดยละเอียดและครอบคลุม
|
การประเมินแบบจำลอง: การประเมินประสิทธิภาพของแบบจำลองเป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาแบบจำลอง
การเปรียบเทียบแบบจำลอง: การเปรียบเทียบผลลัพธ์ของแบบจำลองต่างๆ ช่วยในการเลือกแบบจำลองที่ดีที่สุด
การวิเคราะห์ข้อมูล: การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อค้นหาความสัมพันธ์และรูปแบบ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
7 |
What does DEA stand for in the context of the document?
|
Data Envelopment Analysis |
|
Data Envelopment Analysis (DEA): เป็นเทคนิคทางคณิตศาสตร์ที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของหน่วยการผลิตหลายหน่วย โดยเปรียบเทียบผลผลิตที่ได้ (outputs) กับปัจจัยการผลิตที่ใช้ (inputs)
หลักการทำงาน: DEA จะสร้าง "ผิวหน้าประสิทธิภาพ" (efficient frontier) ซึ่งเป็นเส้นโค้งที่ล้อมรอบจุดข้อมูลทั้งหมด โดยจุดที่อยู่บนเส้นโค้งนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงสุด และจุดที่อยู่ภายในเส้นโค้งถือว่ามีประสิทธิภาพต่ำกว่า
การประยุกต์ใช้: DEA ถูกนำมาใช้ในหลากหลายสาขา เช่น การจัดการ, เศรษฐศาสตร์, การเงิน, และการแพทย์ เพื่อประเมินประสิทธิภาพของโรงพยาบาล, โรงเรียน, ธนาคาร, และหน่วยงานอื่น ๆ
|
ทฤษฎีผลผลิต (Production Theory): DEA สร้างขึ้นบนพื้นฐานของทฤษฎีผลผลิต ซึ่งศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยการผลิตและผลผลิต
ประสิทธิภาพ (Efficiency): DEA มุ่งเน้นไปที่การวัดประสิทธิภาพสัมพัทธ์ของหน่วยการผลิต โดยเปรียบเทียบกับหน่วยอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกันารเขียนโปรแกรมเชิงเส้น (Linear Programming): DEA เป็นการประยุกต์ใช้การเขียนโปรแกรมเชิงเส้นในการแก้ปัญหาการหาค่าสูงสุดหรือต่ำสุดของฟังก์ชันภายใต้ข้อจำกัดบางประการ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
8 |
Which type of risk is primarily associated with theft and accidents?
|
Infrastructure Risk |
|
การโจรกรรม (Theft): เป็นการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการขโมยทรัพย์สิน ซึ่งเป็นการละเมิดความปลอดภัยของทรัพย์สินนั้นโดยตรง ดังนั้นจึงจัดอยู่ในประเภทความเสี่ยงด้านความปลอดภัย (Security Risk)
อุบัติเหตุ (Accidents): แม้ว่าอุบัติเหตุบางประเภทอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงด้านอื่นๆ เช่น ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ (Operational Risk) แต่โดยหลักแล้ว อุบัติเหตุมักเกิดจากการควบคุมความปลอดภัยไม่เพียงพอ เช่น การขาดมาตรการป้องกัน การฝึกอบรมที่ไม่เพียงพอ หรืออุปกรณ์ที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
|
Risk Management: ทฤษฎีการบริหารจัดการความเสี่ยง ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับการระบุ ประเมิน และควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับองค์กรหรือโครงการ
Security Management: ทฤษฎีการบริหารจัดการความปลอดภัย ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันและลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของทรัพย์สินบุคคล และข้อมูล
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
9 |
What method is used to aggregate risk scores under different criteria into an overall risk score?
|
Fuzzy AHP |
|
Fuzzy AHP และ ANP: เหมาะสำหรับปัญหาที่มีความซับซ้อนและความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากสามารถจัดการกับข้อมูลที่ไม่ชัดเจนและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างเกณฑ์ได้
Simple Additive Weighting: เหมาะสำหรับปัญหาที่มีเกณฑ์ไม่มากนัก และความสัมพันธ์ระหว่างเกณฑ์ไม่ซับซ้อน เนื่องจากเป็นวิธีการที่ง่ายและรวดเร็ว
|
Multi-criteria decision making (MCDM): เป็นสาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์การตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับการเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดจากหลายทางเลือก โดยพิจารณาจากเกณฑ์หลายเกณฑ์
Fuzzy set theory: เป็นทฤษฎีที่ใช้ในการจัดการกับข้อมูลที่ไม่ชัดเจนหรือไม่แน่นอน
Network analysis: เป็นวิธีการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่างๆ ในระบบ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
10 |
In the risk assessment model, which factor represents the weight of each criterion?
|
FAHP Weight |
|
FAHP (Fuzzy Analytic Hierarchy Process): เป็นวิธีการตัดสินใจเชิงหลายเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินความสำคัญสัมพัทธ์ของปัจจัยต่างๆ ในการตัดสินใจ โดยจะแปลงความคิดเห็นเชิงคุณภาพ (เช่น มาก, น้อย, เท่ากัน) ให้เป็นค่าเชิงตัวเลขที่เรียกว่าน้ำหนัก (weight) น้ำหนักเหล่านี้จึงแสดงถึงความสำคัญของแต่ละปัจจัยในการตัดสินใจ
น้ำหนัก (Weight): ในบริบทของการประเมินความเสี่ยง น้ำหนักที่ได้จาก FAHP จะแสดงถึงความสำคัญของแต่ละเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินความเสี่ยง เช่น ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ผลกระทบหากเหตุการณ์เกิดขึ้น เป็นต้น น้ำหนักที่สูงขึ้นแสดงว่าเกณฑ์นั้นมีความสำคัญมากขึ้นในการประเมินความเสี่ยง
|
ทฤษฎีการตัดสินใจเชิงหลายเกณฑ์ (Multi-Criteria Decision Making, MCDM): เป็นสาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์การจัดการที่ศึกษาเกี่ยวกับการตัดสินใจในสถานการณ์ที่มีเกณฑ์ในการตัดสินใจหลายเกณฑ์
ทฤษฎีเซตคลุมเครือ (Fuzzy Set Theory): เป็นทฤษฎีที่ใช้ในการแทนค่าที่ไม่แน่นอนหรือคลุมเครือ
AHP (Analytic Hierarchy Process): เป็นวิธีการตัดสินใจเชิงหลายเกณฑ์ที่ใช้ในการเปรียบเทียบความสำคัญสัมพัทธ์ของปัจจัยต่างๆ
FAHP (Fuzzy Analytic Hierarchy Process): เป็นการปรับปรุง AHP ให้สามารถจัดการกับความไม่แน่นอนได้ดีขึ้น
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
11 |
If the probability rank is 3, impact severity rank is 2, and the route segment ratio is 0.75, what is the risk level (R_ij) according to the formula R_ij = P_ij × C_ij × 4EA_ij?
|
3 |
|
ค่าคงที่ 4: ค่าคงที่นี้มักใช้เป็นตัวคูณเพื่อปรับขนาดของความเสี่ยงให้เหมาะสมกับบริบทของปัญหาที่กำลังพิจารณา โดยค่า 4 นี้ไม่ได้มีที่มาที่ตายตัว อาจถูกปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของแต่ละสถานการณ์
ตัวแปรอื่นๆ: ค่า P_ij, C_ij และ EA_ij เป็นตัวแปรที่ใช้ในการคำนวณความเสี่ยง โดยแต่ละตัวแปรมีความหมายดังนี้
P_ij: ความน่าจะเป็นที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น
C_ij: ความรุนแรงของผลกระทบหากเหตุการณ์เกิดขึ้น
EA_ij: อัตราส่วนของส่วนของเส้นทางที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์
|
การวิเคราะห์ความเสี่ยง (Risk Analysis): เป็นกระบวนการประเมินความน่าจะเป็นและผลกระทบของเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์
ทฤษฎีความน่าจะเป็น (Probability Theory): ใช้ในการคำนวณความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
การตัดสินใจภายใต้ความไม่แน่นอน (Decision Making under Uncertainty): เป็นกระบวนการตัดสินใจเมื่อข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือไม่แน่นอน
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
12 |
Given the FAHP weights for two risks as 0.3 and 0.7, and their corresponding DEA scores are 50 and 80, what is the overall risk score using the SAW method?
|
65 |
|
คะแนนรวม = (W1 * S1) + (W2 * S2)
คะแนนรวม = (0.3 * 50) + (0.7 * 80)
คะแนนรวม = 15 + 56
คะแนนรวม = 65
|
ทฤษฎีการตัดสินใจแบบหลายเกณฑ์ (Multi-Criteria Decision Making): เป็นสาขาหนึ่งของวิจัยปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับการเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดจากหลายทางเลือก โดยพิจารณาจากเกณฑ์หลายเกณฑ์
ทฤษฎีความน่าจะเป็น (Probability Theory): ใช้ในการวัดความไม่แน่นอนของเหตุการณ์ต่างๆ
ทฤษฎีตัวเลขฟัซซี (Fuzzy Set Theory): ใช้ในการแทนค่าที่ไม่ชัดเจนหรือไม่แน่นอน
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
13 |
What is the primary method used for forecasting landslide occurrences in the document?
|
Linear regression |
|
หลักการ: สร้างสมการเชิงเส้นเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการเกิดดินถล่ม (เช่น ปริมาณน้ำฝน ความชันของพื้นที่) กับความน่าจะเป็นของการเกิดดินถล่ม
เหมาะสมเมื่อ: มีความสัมพันธ์เชิงเส้นระหว่างปัจจัยต่างๆ และผลลัพธ์
ข้อจำกัด: อาจไม่เหมาะสมกับข้อมูลที่ซับซ้อนหรือมีความไม่เป็นเชิงเส้นสูง
|
สถิติ: ทฤษฎีความน่าจะเป็น การแจกแจงความน่าจะเป็น การวิเคราะห์การถดถอย
Machine learning: การเรียนรู้ของเครื่อง การเรียนรู้เชิงลึก Neural network Decision tree
วิทยาศาสตร์โลก: ธรณีวิทยา อุตุนิยมวิทยา
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
14 |
What does LST stand for as used in the document?
|
Land Surface Temperature |
|
ความเกี่ยวข้อง: คำย่อ LST มักถูกนำมาใช้ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับภูมิศาสตร์, ธรณีวิทยา, และวิทยาศาสตร์บรรยากาศ ซึ่งเป็นสาขาที่ศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิบนผิวโลก
การใช้งาน: LST มีความสำคัญในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การพยากรณ์อากาศ, และการประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน
|
การวัดอุณหภูมิจากระยะไกล: เทคโนโลยีเซ็นเซอร์และดาวเทียมทำให้สามารถวัดอุณหภูมิพื้นผิวโลกได้จากระยะไกล ซึ่งเป็นพื้นฐานในการคำนวณ LST
การปรับเทียบข้อมูล: ข้อมูล LST ที่ได้จากดาวเทียมจะต้องผ่านการปรับเทียบเพื่อให้ได้ค่าที่ถูกต้อง โดยพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของพื้นผิว, ความชื้นในอากาศ, และมุมตกกระทบของแสงอาทิตย์
การนำไปใช้ประโยชน์: ข้อมูล LST สามารถนำไปใช้ในการศึกษาปรากฏการณ์ต่างๆ เช่น คลื่นความร้อน, ภัยแล้ง, และการเปลี่ยนแปลงของการใช้ที่ดิน
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
15 |
Which parameter directly influences the underground water level, as discussed in the document?
|
Precipitation volume |
|
กระบวนการเติมน้ำใต้ดิน: น้ำฝนที่ตกลงมาบนพื้นดินส่วนหนึ่งจะซึมลงไปในดินและเติมลงในชั้นน้ำใต้ดิน ทำให้ระดับน้ำใต้ดินสูงขึ้น
ปัจจัยหลัก: ปริมาณน้ำฝนเป็นปัจจัยหลักที่ควบคุมปริมาณน้ำที่เติมลงในชั้นน้ำใต้ดิน โดยปริมาณน้ำฝนที่มากขึ้นจะส่งผลให้ระดับน้ำใต้ดินสูงขึ้นตามไปด้วย
|
วัฏจักรของน้ำ: กระบวนการหมุนเวียนของน้ำในธรรมชาติ ซึ่งรวมถึงการระเหย การควบแน่น การตกตะกอน และการไหลของน้ำ
ไฮโดรโลจี: วิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับน้ำบนโลก ทั้งในรูปของของเหลว ของแข็ง และแก๊ส
ชั้นน้ำใต้ดิน: ชั้นหินหรือตะกอนที่อิ่มตัวไปด้วยน้ำ
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
16 |
Which technology is highlighted for its use in landslide analysis and prediction in the study?
|
Geographic Information Systems (GIS) |
|
GIS เป็นระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ที่ใช้ในการรวบรวม จัดเก็บ วิเคราะห์ และแสดงข้อมูลทางภูมิศาสตร์ GIS สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับดินถล่ม เช่น ความลาดชันของพื้นที่ ประเภทของดิน สภาพภูมิอากาศ และการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ด้วยความสามารถในการสร้างแผนที่และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ GIS จึงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการระบุพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม และช่วยในการวางแผนการจัดการและป้องกันภัยพิบัติ
|
ภูมิศาสตร์: ทฤษฎีภูมิศาสตร์ทางกายภาพ เช่น การกัดเซาะ ดิน และน้ำ รวมถึงภูมิศาสตร์มนุษย์ เช่น การใช้ประโยชน์ที่ดิน
วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์: ฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ (Spatial database), การวิเคราะห์เชิงสถิติ (Statistical analysis), การสร้างแบบจำลอง (Modeling)
วิศวกรรม: วิศวกรรมธรณีเทคนิค (Geotechnical engineering) เพื่อประเมินเสถียรภาพของดิน
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
17 |
What role does the 'Plasticity Index' play in the context of landslides?
|
Indicates soil's susceptibility to landslide when wet |
|
ดัชนีพลาสติก (Plasticity Index) เป็นค่าที่บ่งบอกถึงช่วงของความชื้นที่ดินสามารถเปลี่ยนแปลงจากสภาพแข็งเป็นพลาสติก และจากสภาพพลาสติกเป็นสภาพเหลวได้
ความสัมพันธ์กับดินสไลด์: ดินที่มีดัชนีพลาสติกสูง มักจะมีอนุภาคดินเหนียวเป็นองค์ประกอบมาก ซึ่งเมื่อดินชนิดนี้ได้รับน้ำ จะมีความสามารถในการอุ้มน้ำสูง ทำให้ดินขยายตัวและอ่อนตัวลง เมื่อน้ำหนักของดินและแรงโน้มถ่วงมากพอ อาจทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของดิน หรือดินสไลด์ได้
กลไกการเกิดดินสไลด์: เมื่อดินที่มีดัชนีพลาสติกสูงได้รับน้ำจำนวนมาก จะทำให้โครงสร้างของดินอ่อนตัวลง ความแข็งแรงของดินลดลง และเมื่อมีแรงกระทำ เช่น แรงโน้มถ่วง หรือแรงสั่นสะเทือน อาจทำให้ดินเคลื่อนตัวลงมาตามความลาดชัน
|
วิศวกรรมดิน: เป็นสาขาหนึ่งของวิศวกรรมที่ศึกษาเกี่ยวกับสมบัติของดินและการนำดินไปประยุกต์ใช้ในการก่อสร้าง การศึกษาเกี่ยวกับดัชนีพลาสติกและความสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการเกิดดินสไลด์เป็นส่วนหนึ่งของวิศวกรรมดิน
กลศาสตร์ดิน: เป็นสาขาหนึ่งของวิศวกรรมดินที่ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของดินภายใต้แรงกระทำต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมของดินที่มีความชื้นเปลี่ยนแปลง
ธรณีวิทยา: การศึกษาเกี่ยวกับดินและหิน รวมถึงกระบวนการทางธรณีวิทยาที่เกี่ยวข้องกับการเกิดดินสไลด์ เช่น การกัดเซาะ การผุพังของหิน และการเคลื่อนตัวของแผ่นดินไหว
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
18 |
Based on the study, what natural events significantly trigger landslides along the Jammu Srinagar National Highway?
|
Heavy rainfall and snowfall |
|
ขึ้นและแรงดันของน้ำจะลดความเสถียรของดิน ทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของดินและวัสดุอื่นๆ บนทางลาดชัน
การกัดเซาะ: น้ำที่ไหลบนผิวดินจะกัดเซาะดินและหิน ทำให้เกิดร่องลึกและรอยแยก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดดินถล่ม
การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ: การแข็งตัวและละลายตัวสลับกันของดินที่อิ่มตัวด้วยน้ำจะทำให้เกิดการขยายตัวและหดตัวของดิน ทำให้เกิดรอยแตกและรอยแยก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดดินถล่ม
|
ทฤษฎีความลาดเอียง: ทฤษฎีนี้กล่าวว่าความลาดชันของพื้นที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ควบคุมการเกิดดินถล่ม เมื่อความลาดชันสูงขึ้น ความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
ทฤษฎีความแข็งแรงของวัสดุ: ทฤษฎีนี้กล่าวว่าความแข็งแรงของดินและหินเป็นปัจจัยสำคัญที่ควบคุมการเกิดดินถล่ม เมื่อความแข็งแรงของวัสดุลดลง ความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
ทฤษฎีปริมาณน้ำในดิน: ทฤษฎีนี้กล่าวว่าปริมาณน้ำในดินเป็นปัจจัยสำคัญที่ควบคุมการเกิดดินถล่ม เมื่อปริมาณน้ำในดินสูงขึ้น ความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
19 |
Which GIS-based model is NOT mentioned in the study for landslide susceptibility mapping?
|
All of the above are mentioned |
|
จากการศึกษาและวิจัยจำนวนมาก ทั้ง Logistic Regression, Random Forest, Decision and Regression Tree, และ Neural Networks ต่างก็เป็นโมเดลที่นิยมใช้ในการสร้างแผนที่ความเสี่ยงดินถล่ม (landslide susceptibility mapping) โดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS)
|
ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS): เป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่
การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning): เป็นสาขาของปัญญาประดิษฐ์ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้สามารถเรียนรู้จากข้อมูลโดยไม่จำเป็นต้องถูกตั้งโปรแกรมโดยตรง
สถิติ: ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและประเมินความแม่นยำของโมเดล
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
20 |
What is the primary purpose of landslide susceptibility maps according to the document?
|
Identifying areas prone to landslides for hazard management |
|
วัตถุประสงค์หลัก: แผนที่ความเสี่ยงดินถล่มถูกสร้างขึ้นเพื่อระบุพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดดินถล่ม
การจัดการภัยพิบัติ: ข้อมูลจากแผนที่นี้จะถูกนำไปใช้ในการวางแผนการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติ เช่น การอพยพประชาชน การสร้างระบบเตือนภัย และการออกกฎระเบียบการใช้ที่ดิน
|
ธรณีวิทยา: การศึกษาเกี่ยวกับหิน ดิน และโครงสร้างทางธรณีวิทยา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดดินถล่ม
ภูมิศาสตร์: การศึกษาเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ เช่น ความชัน ความสูง และการระบายน้ำ
วิศวกรรมธรณีเทคนิค: การศึกษาเกี่ยวกับสมบัติทางวิศวกรรมของดินและหิน
ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS): การนำข้อมูลทางภูมิศาสตร์มาวิเคราะห์และสร้างแผนที่
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|