1 |
|
ข้อ จ. |
|
การทดลองของมิลลิเเกน ที่ทำการหยดน้ำมันที่มีประจุไฟฟ้าลบ ทำให้ทราบค่าประจุของอิเล็กตรอน คือ 1.6 * 10^-19 คูลอมป์
|
จากการทดลองของมิลลิเเกน อ้างอิงจากหนังสือเคมีเพิ่มเติมม.4 เล่ม 1 ของสสวท.
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
2 |
|
ข้อ จ. |
|
ทั้ง C3D เเละ C2O ต่างก็เป็นพันธะโควาเลนต์ทั้งคู่ ในขณะที่ข้อ ก-ง นั้นกล่าวถูกต้อง
|
ทฤษฎีพันธะโควาเลนต์
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
3 |
|
ข้อ ข. |
|
สารที่เป็นไอโซอิเล็กทรอนิกกัน จะต้องมีอิเล็กตรอนที่เท่ากัน เเต่เป็นธาตุที่ต่างชนิด
|
ไอโซอิเล็กทรอนิก คือ ธาตุต่างชนิดกันที่มีอิเล็กตรอนเท่ากัน
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
4 |
|
ข้อ ค. |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
5 |
|
ข้อ ข. |
|
CH4 เป็นพันธะมีขั้ว เเต่เเรงโมเลกุลไม่มีขั้ว เนื่องจากมีลักษณะฌโมเลกุลเเบบ AX4E0 จึงเป็นโมเลกุลที่ไม่มีขั้ว ยึดเหนี่ยวด้วยเเรงเเผ่กระจาย
|
ทฤษฎี VSEPR เเละความมีขั้วของโมเลกุลโควาเลนต์
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
6 |
|
ข้อ จ. |
|
1 ผิด เพราะ ClO3-* เป็นรูปร่างโมเลกุลเเบบพีระมิดฐานสามเหลี่ยม หรือ AX3E1
3 ผิด เพราะ SO4 มีคู่อิเล็กตรอนโโเดี่ยวเพียงเเค่ 1
จึงสามารถอนุมานได้ว่าไม่มีข้อถูก เพราะไม่มีช้อยส์ 2 ถูกต้องเท่านั้น(2อาจจะผิดได้)
|
ทฤษฎี VSEPR ของสารประกอบโควาเลนต์
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
7 |
|
ข้อ ง. |
|
ข้อ 1 ถูกต้อง เป็นพันธะไอออนิก
ข้อ 2 ถูกต้อง เพราะ A กับ D เป็นพันธะไออนิก เเละ C กับ D เป็นพันธะโควาเลนต์จริง
จึงอนุมานได้ว่า 1 เเละ 2 ถูก เพราะไม่มีช้อยส์ถูกทุกข้อ(3อาจถูกได้)
|
ใช้ความรู้เรื่อง สารประกอบไออนิก เเละสารประกอบโควาเลนต์ รวมถึงจุดเดือด/การนำไฟฟ้าของธาตุต่างๆ
Ionic - อโลหะ + โลหะ
Covalent - อโลหะ + อโลหะ
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
8 |
|
ข้อ ข. |
|
มวลอะตอมเฉลี่ย = ผลต่างของมวลโมเลกุลในเเต่ละไอโซโทป*ร้อยละในธรรมชาติ/100
|
มวลอะตอมเฉลี่ย = ผลต่างของมวลโมเลกุลในเเต่ละไอโซโทป*ร้อยละในธรรมชาติ/100
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
9 |
|
ข้อ ข. |
|
เนื่องจาก Mol คือมวล/มวลโมเลกุล โมลของ H2O 1.5 โมเลกุล จึงทำให้มี H2O 1.5 โมลอะตอมนั้นเอง
|
M = g/mw
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
10 |
|
ข้อ ง. |
|
จากความหนาเเน่น = มวล/ปริมาตร เเละ Molar = Mol/Litre จึงสามารถได้ว่าความเข้มข้นของสารละลาย NaOH คือ 0.5 Mol/Dm^3
|
M(Molar) คือ โมล/ลิตร
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
11 |
|
ข้อ ข. |
|
M = mol/0.05 ลิตร ซึ่ง Mol คือ มวล/มวลโมเลกุล เเละมวลคือ 47.5
จึงได้สารที่มีมวลโมเลกุลคือ 95 ซึ่งก็คือ MgCl2
|
M = โมล/ลิตร
Mol = g/mw
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
12 |
|
ข้อ ค. |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
13 |
|
ข้อ ค. |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
14 |
|
|
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
15 |
|
68.25 ลูกบากศ์เซนติเมตร |
|
จากกฎของชาร์ลส์ ที่ปริมาตร เเปรผันตาม อุณหภูมิ หรือ V1/T1 = V2/T2
ปริมาตร 1 คือ 0.0795 ลิตร ที่อุณหภูมิ 318 เคลวิน เเละ ปริมาตร X ที่อุณหภูมิ 273 เคลวิน
|
จากกฎของชาร์ลส์ ที่ปริมาตร เเปรผันตาม อุณหภูมิ หรือ P1/T1 = P2/T2
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
16 |
|
|
|
ไม่มีข้อถูก เพราะไม่เป็นไปตามกำรวมเเก๊ส ที่ ปริมาตรเเละความดันเเปรผันตามอุณหภูมิ เเต่ปริมาตรเเปรผกผันกับความดัน
|
จากกฎรวมเเก๊ส หรือ PV = nRT
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
17 |
|
ข้อ ค. |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
18 |
|
ข้อ ก. |
|
เนื่องจากปฎิกิริยา 1 เเละ 2 เกิดเเก๊สไฮโดรเจนเเละออกซิเจนขึ้นตามลำดับ การเลือกติดตามปริมาตรเเก๊สจึงดีที่สุด เเละ ปฎิกิริยา 3 เกิดตะกอน CaCo3 ขึ้น จึงควรสังเกตุจากปริมาณตะกอน
|
การสังเกตุการเปลี่ยนเเปลงของปฎิกิรยาเคมี ควรเลือกติดตามจากลักษณะที่เห็นชัดง่ายที่สุด เช่น สี ตะกอน ปริมาตรเเก๊ส เป็นต้น
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
19 |
|
ข้อ ค. |
|
การใส่ตัวเร่งปฎิกิริยา ทำให้พลังงานก่อกัมมันต์มีค่าน้อยลง ส่งผลให้สารตั้งต้นใเกิดได้เร็วขึ้น เเละสารตั้งต้นที่มีพลังงานจลน์น้อยสามารถเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ได้ จึงทำให้สารผลิตภัณฑืมีพลังงานจลน์น้อยกว่าสารตั้งต้น
|
ตัวเร่งปฎิกิริยา(Catalyst) เป็นสารที่เมื่อใส่ในปฎิกิริยาจะลดพลังงานก่อกัมมันต์(Activation energy)ลง
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
20 |
|
ข้อ ง. |
|
เนื่องจาก อัตราการเปลี่ยนเเปลงของสารตั้งต้นเเละสารผลิตภัณฑ์ไม่เท่ากัน สังเกตุได้จากเลขโมลของสารตั้งต้นเเละสารผลิตภัณฑ์ เเละค่าคงที่สมดุลที่มากกว่า 0 อัตราการเกิดปฎิกิริยาไปข้างหน้าจึงมากกว่าอัตราการเกิดปฎิกิริยาย้อนกลับ
|
ตามหลักการคำนวณอัตราการเกิดปฎิกิรยาเคมี ที่ อัตราการเกิดปฎิกิริยา = ปริมาณสารที่เปลี่ยน/เวลา ที่อัตราส่วนโมลเป็น 1 ต่อ 1
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|