1 |
|
ข้อ ค. |
|
เพราะการทดลองของรัทเทอร์ฟอร์ด เป็นการทดลองโดยการยิงอนุภาคแอลฟาใส่แผ่นทองคำบางๆ ซึ่งอนุภาคจะทะลุผ่านแผ่นทองคำในแนวเส้นตรงทั้งหมด
|
ซึ่งการที่อนุภาคแอลฟาส่วนใหญ่วิ่งผ่านอะตอมเป็นแนวเส้นตรง แสดงว่าอะตอมไม่ใช่ของแข็งทึบตันแต่มีที่ว่างอยู่ และมีส่วนที่หักเหและบางส่วนน้อยที่สะท้อนกลับ แสดงว่าในอะตอมมีอนุภาคที่มีมวลมากและมีประจุบวก
อ้างอิงคำตอบมาจาก สไลด์การเรียนเรื่องอะตอมในรายวิชาเคมีของโรงเรียน
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
2 |
|
ข้อ ก. |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
3 |
|
ข้อ ง. |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
4 |
|
ข้อ ค. |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
5 |
|
ข้อ ข. |
|
CH4 เป็นแรงระหว่างโมเลกุลที่กระทำต่อกันแต่ไม่ใช่แรงระหว่างขั้ว เป็นแรงลอนดอน
|
เพราะเกิดจากโมเลกุลโคเวเลนต์ที่ไม่มีขั้วเนื่องจากพันธะหักล้างกันหมด เป็นรูปทรงสี่หน้าจุดเดือดจะต่ำ แต่จะเพิ่มขึ้นตามมวล
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
6 |
|
ข้อ ข. |
|
พิจารณาจากการวาดโครงสร้างของสูตรโมเลกุลดังกล่าวตามหลักการโครงสร้างเรขาคณิตของโมเลกุล
|
ClO4- รูปทรงโมเลกุลเป็นทรงสี่หน้า และพบว่าอิเล็กตรอนหักล้างกันหมดจึงไม่เหลืออิเล็กตรอสคู่โดดเดี่ยว
ClO3- รูปทรงโมเลกุลเป็นสามเหลี่ยมแบนราบ และพบว่ามีอิเล็กตรอนคู่เดี่ยวของอะตอมกลางนั่นคือ Cl ซึ่งเป็นธาตุในหมู่ 7 เหลืออยู่ 1 ตัว
SO2 รูปทรงโมเลกุลเป็นมุมงอ และพบว่ามีอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวของอะตอมกลางนั่นคือ S ซึ่งเป็นธาตุในหมู่ 6 เหลืออยู่ 2 ตัว
อ้างอิงจากตารางธาตุ
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
7 |
|
ข้อ จ. |
|
เวเลนซ์อิเล็กตรอนคือ อิเล็กตรอนลำดับสุดท้าย แสดงถึงหมู่ของธาตุชนิดนั้นๆ ซึ่งธาตุทั้งหมดอยู่ในคาบเดียวกัน จึงสรุปได้ว่า ธาตุ A หมู่2กับ Dหมู่7 เป็นพันธะไอออนิกเนื่องจาก พันธะไอออกนิกเกิดจาก ธาตุที่เป็นโลหะ+อโลหะ และ ธาตุ C หมู่6 กับธาตุ D หมู่7 เป็นพันธะโควาเลนซ์ เนื่องจากพันธะโควาเลนซ์เกิดจาก ธาตุที่เป็นอโลหะ+อโลหะ นั่นเอง
|
จากการศึกษาตารางธาตุและสมบัติของสารประกอบไอออนิกและสารประกอบโควาเลนต์ พบว่า พันธะไอออนิกมีจุดเดือดและจุดหลอมเหลวสูง สามารถนำไฟฟ้าได้ในสถานะของเหลว ส่วนพันธะโควาเลนต์ มีจุดเดือดและจุดหลอมเหลวที่ต่ำกว่า ไม่นำไฟฟ้า
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
8 |
|
ข้อ ค. |
|
หาจากสูตร มวลอะตอมเฉลี่ย = ผลรวมของ(%ของแต่ละไอโซโทป*มวลของแต่ละไอโซโทป)/100
|
จะแทนค่าได้เป็น มวลอะตอมเฉลี่ย = (19.995*80)+(20.005*20)/100 = 19.996
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
9 |
|
ข้อ ข. |
|
1โมลอะตอม มีค่าเท่ากับ 6.02*10^23 ซึ่งนั่นก็คือ 1 โมล
|
จากความสัมพันธ์ของสาร
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
10 |
|
ข้อ ค. |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
11 |
|
ข้อ ง. |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
12 |
|
ข้อ ง. |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
13 |
|
ข้อ ง. |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
14 |
|
ปริมาณร้อยละ 40 |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
15 |
|
68.25 ลูกบาศก์เซนติเมตร |
|
จากสูตร P1V1/T1 = P2V2/T2 โดยความดันคงที่ และอุณหภูมิใช้หน่วยเป็นเคลวิน
|
จะได้ V1/T1 = V2/T2
แทนค่า 79.5/318=x/273
x=68.25 ลูกบาศก์เซนติเมตร
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
16 |
|
|
|
ตอบ ข.
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
17 |
|
ข้อ จ. |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
18 |
|
ข้อ ก. |
|
ข้อ 1 และข้อ 2มีแก๊สเพิ่มขึ้นมาในผลิตภัณฑ์ ข้อ3จากสารละลายกับแก๊ส เกิดเป็นตะกอนในสถานะของแข็งขึ้นมา
|
หลักการจากการดูสมการและคิดวิเคราะห์ด้วยตนเอง
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
19 |
|
ข้อ ง. |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
20 |
|
ข้อ จ. |
|
จำนวนโมล การเปลี่ยนแปลงทางด้านความดันและปริมาตร ไม่มีผลต่อสมดุลเคมี
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|