1 |
ข้อใดเกี่ยวข้องกับ Vaccine characteristics.
|
5. ถูกทุกข้อ |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
2 |
จากบทความที่ให้ไปเรื่อง Biological process อยากทราบว่างานตีพิมพ์ของ Hung et al. (2020) เกี่ยวกับเรื่องใด
|
1. DNA resonance code |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
3 |
Stem cell แบบใดที่ใช้ในงานวิจัยจากบทความที่ให้ไป
|
1. PCOS |
|
เซลล์ต้นกำเนิดแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ เซลล์ต้นกำเนิดที่แยกได้จากตัวอ่อน และเซลล์ต้นกำเนิดที่แยกได้จากสิ่งมีชีวิตโตเต็มวัย หรือจากเนื้อเยื่อ คุณสมบัติของเซลล์ทั้ง 2 ชนิดมีความแตกต่างกัน เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนสามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ได้เกือบทุกชนิดในร่างกาย ยกเว้นเซลล์จากรก ส่วนเซลล์ต้นกำเนิดจากตัวเต็มวัยสามารถเปลี่ยนไปเป็นเซลล์เฉพาะในเนื้อเยื่อนั้นๆ เช่น สเต็มเซลล์ของเลือด สามารถเปลี่ยนเป็นเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือด |
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
4 |
จากบทความเรื่อง Metrology ใช้ใน Environment measurementในเรื่องใด
|
2. Nutrition |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
5 |
จากบทความเรื่อง Stem cell ที่ให้ไป DMD progress กระทบเรื่องใดน้อยที่สุด
|
2. Reactive oxygen species |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
6 |
จากบทความที่ให้ไปเรื่อง Biological process อยากทราบว่างานตีพิมพ์ของ Hung et al. (2020) เกี่ยวข้องกับสายงานใด
|
1. Chemistry and physics |
|
|
|
5 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
7 |
Collision theory สามารถนำมาใช้ในทางการแพทย์ได้อย่างไร
|
ทฤษฎีการปะทะ |
|
1. ทิศทางของการชน (orientation of collision)
2. พลังงานของการชน (energy of collision)
1. ทิศทางของการชน
ตัวอย่าง ปฏิกิริยาระหว่างโพแทสเซียมอะตอม (K) กับเมทิลไอโอไดด์ (CH3I) ได้เป็นโพแทสเซียมไอโอไดด์ (KI) และอนุมูลเมทิล (CH3)
2. พลังงานของการชน
อนุภาคชนกันในทิศทางที่เหมาะสมแล้วก็ยังไม่เพียงพอ สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือ พลังงาน เพราะถึงแม้ว่าอนุภาคจะชนกันในทิศทางที่ถูกต้องแต่พลังงานของอนุภาคมีไม่มากเพียงพอ ก็ไม่อาจที่จะเกิดปฏิกิริยาได้
เราได้ทราบมาแล้วว่าการเกิดปฏิกิริยาเคมีย่อมเกี่ยวข้องกับการสลายพันธะเดิมและสร้างพันธะใหม่ ซึ่งการสลายพันธะเดิมต้องใช้พลังงานอย่างแน่นอน พลังงานในที่นี้ก็คือพลังงานที่เราเรียกว่า พลังงานก่อกัมมันต์ (activation energy) นั่นเอง |
พลังงานก่อกัมมันต์เป็นพลังงานรวมเมื่อโมเลกุลชนกัน ไม่ใช่พลังงานของแต่ละโมเลกุล ดังนั้น โมเลกุลที่มีพลังงานต่ำกว่า Ea อาจชนกันแล้วมีพลังงานถึง Ea ได้
อนุภาคในพื้นที่ใต้กราฟทางด้านขวาของพลังงานก่อกัมมันต์เท่านั้นที่มีโอกาสชนกันแล้วเกิดปฏิกิริยาเพราะเป็นอนุภาคที่มีพลังงานสูง ส่วนอนุภาคในพื้นที่ใต้กราฟทางด้านซ้ายของพลังงานก่อกัมมันต์ซึ่งเป็นอนุภาคส่วนใหญ่จะมีโอกาสชนกันได้แต่ไม่มีพลังงานมากพอที่จะเกิดปฏิกิริยา |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
8 |
จากบทความเรื่อง Metrology ใช้ใน Chemical measurement เรื่องใด
|
การวัดที่ไม่ได้มาตรฐาน ค่าที่ได้ก็ไร้ความหมาย” ย้อนกลับไปในปี 2900 ก่อนคริสตศักราช บันทึกแรกของมาตรฐานการวัดเกิดขึ้นในราชวงศ์อียิปต์ เมื่อมีการสลักสร้างหินแกรนิตสีดำให้มีความยาวหนึ่งศอก (Cubit) โดยใช้ความยาวของแขนจากศอกไปจนถึงปลายนิ้วกลางของฟาโรห์เป็นเกณฑ์ ซึ่งภายหลังคนงานก่อสร้างนำไปใช้ก็ประสบความสำเร็จในการสร้างพีระมิดที่มีความยาวฐานผิดเพี้ยนน้อยกว่า 0.05 เปอร์เซ็นต์ยิ่งเมื่อยุคสมัยมีการพัฒนา มาตรฐานการวัดอื่นๆ ก็ยิ่งเกิดขึ้นด้วยวิธีการที่แตกต่างกันไป อย่างในโรมันและกรีกที่มีมาตรฐานการวัดเกิดขึ้นมากมายตามแต่ละท้องที่ แต่ด้วยความยากลำบากในการเทียบกัน และภายหลังการล่มสลายของจักรวรรดิและเข้าสู่ยุคมืดก็ทำให้มาตรฐานเหล่านั้นเลือนหายไปตามกาลเวลา ในคริสตศักราช 1996 อังกฤษได้จัดตั้งคณะศาลเพื่อกำหนดมาตรฐานการวัดความยาว และได้ออกกฎหมายเกี่ยวกับการวัดซึ่งประกอบไปด้วยการตวงสุราจำพวกไวน์และเบียร์ในปี 1215 |
|
สำหรับมาตรฐานการวัดในปัจจุบันมีรากฐานมาจากแรงกระตุ้นทางการเมืองในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ที่ต้องการให้หน่วยวัดทั่วทั้งประเทศสอดคล้องกัน ดังนั้นมาตรฐานการวัดความยาวจากวัสดุธรรมชาติจึงถือกำเนิดขึ้น และในเดือนมีนาคม คริสตศักราช 1791 นั้นเองที่หน่วยวัด “เมตร” ถือกำเนิดและนำไปสู่การสร้างระบบเมตริกด้วยเลขฐานสิบในปี 1795 ซึ่งหลายประเทศก็ได้นำเอาระบบเมตริกนี้ไปใช้ในช่วงระหว่างปี 1795 ถึง 1875 ด้วยเหตุนี้เองเพื่อให้แน่ใจได้ว่าทุกประเทศทั่วโลกจะมีมาตรฐานการวัดที่ตรงกันจึงได้มีการจัดตั้งสำนักงานชั่งตวงวัดระหว่างประเทศ (BIPM) ตามสนธิสัญญาเมตริกขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าสำนักงานดังกล่าวเดิมทีแล้ว ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อกำหนดหน่วยวัดและมาตรฐานการวัดให้เป็นสากล แต่ขอบเขตการทำงานในภายหลังก็ขยายไปจนถึงมาตรฐานการวัดค่ากระแสไฟฟ้า ความเข้มของแสง และปริมาณการแผ่รังสีไอออไนซ์ และในปีคริสตศักราชที่ 1960 ระบบเมตริกก็ถูกพัฒนาไปเป็นระบบหน่วยวัดระหว่างประเทศ (SI) ด้วยมติที่ประชุมใหญ่ว่าด้วยการชั่งตวงวัดครั้งที่ 11 |
มาตรวิทยาเชิงอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้การวัดกับอุตสาหกรรมกระบวนการผลิต สร้างความมั่นใจว่าเครื่องมือวัดที่ใช้นั้นมีความเหมาะสม มีการควบคุมคุณภาพและการสอบเทียบเครื่องมือวัดอย่างถูกต้อง เนื่องจากประสิทธิภาพและความถูกต้องของการวัดนั้นจะส่งผลโดยตรงต่อมูลค่าและคุณภาพของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงต้นทุนการผลิต อีกทั้งมาตรวิทยาสาขานี้ยังนับเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจและอุตสาหกกรรม และยังเป็นตัวบ่งชี้ถึงสภาพเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆอีกด้วย ทั้งนี้การยอมรับความสามารถทางมาตรวิทยาในอุตสาหกรรมนั้น สามารถเกิดขึ้นได้จากสามวิธีหลัก อันได้แก่ การปฎิบัติตามข้อตกลงต่างๆ ที่มีการยอมรับร่วมกัน การได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือการตรวจประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ (Peer review) |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
9 |
Hydrogen bonds and other non-covalent interaction สามารถนำมาใช้ในเรื่องการทำยาอย่างไร
|
เกิดจากอะตอม 2 อะตอมมีการใช้อิเลกตรอนวงนอกสุดหรือ valence electron ร่วมกันเพื่อ เพื่อให้valence electron ครบ 8 ตามกฎ octet (ยกเว้นไฮโดรเจนที่ครบ 2)
อะตอมที่เกิดพันธะดังกล่าวจะมีวาเลนซ์อิเล็กตรอนอยู่มากเช่น ธาตุหมู่ VI และหมู่ VII
พันธะโควาเลนต์แข็งแรงกว่าพันธะไฮโดรเจน และมีความแข็งแรงพอๆ กับพันธะไอออนิก
มักเกิดขึ้นระหว่างอะตอมที่มีค่าอิเล็กโทรเนกาติวิตีใกล้เคียงกัน
ธาตุอโลหะมีแนวโน้มที่จะสร้างพันธะโควาเลนต์มากกว่าธาตุโลหะซึ่งมักสร้างพันธะโลหะ
อิเล็กตรอนของธาตุโลหะสามารถเคลื่อนอย่างอิสระส่วนอิเล็กตรอนของธาตุอโลหะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระนัก การใช้อิเล็กตรอนร่วมกันจึงเป็นทางเลือกเดียวในการสร้างพันธะกับธาตุที่มีสมบัติคล้ายๆ กัน |
|
ovalent bond เป็นพันธะที่เกิดจากการใช้ electron ร่วมกันของ 2 อะตอม เช่น ก๊าซไฮโดรเจน (H2) ออกซิเจน (O2) น้ำ (H2O) และมีเทน (CH4) เป็นต้น โดยการเเชร์อิเลกตรอนรวมกัน 1 คู่จะเเสดงแขนพันธะ 1 เเขน
พันธะโควาเลนต์เเบ่งออกได้เป็น 2 แบบ |
|
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
10 |
จากบทความที่ให้ไปเรื่อง Biological process อยากทราบว่างานตีพิมพ์ของ Baverstock (2013) เกี่ยวกับเรื่องใด
|
ค่าดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์โดยใช้ชุดกิจกรรมปฏิบัติการทดลองกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่องสมบัติของธาตุและสารประกอบชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 มีค่าเท่ากับ0.7411 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0. 7411หรือคิดเป็นร้อยละ 74.11
ความพึงพอใจต่อชุดกิจกรรมปฏิบัติการทดลองกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่องสมบัติของธาตุและสารประกอบชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (X = 4.55, S.D. = 0.60) |
|
|
|
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
11 |
จงสร้างการทดลองที่ใช้ทดสอบอาหารเพื่อดูสารพิษที่เจือปน โดยต้องใช้ทั้ง Physics, Chemistry, Biology, Math ในการทดลอง
|
|
|
|
|
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
12 |
ให้นักเรียนบอกถึงข้อดีของการมี Interdisciplinary aspects ในเชิงการแพทย์
|
การส่งเสริมวิถีชีวิตผู้สูงอายุ |
|
งานวิจัยนี้สำเร็จได้ด้วยการได้รับความร่วมมือจากนักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่โรงเรียนผู้สูงอายุ
อบต. และเจ้าหน้าที่รพ.สต.ทุกแห่งที่ให้ความอนุเคราะห์เป็นกลุ่มตัวอย่าง ผู้วิจัยขอขอบพระคุณมา ณ
โอกาสนี้ นอกจากนี้ขอกราบขอบพระคุณ ผศ.ดร.ภก.เมธิน ผดุงกิจ ผศ.ดร.ภญ.ภัทรินทร์ กิตติบุญญาคุณ
ผศ.ดร.นงเยาว์ มีเทียน ผศ.ดร.อุไร จำปาวะดี และผศ.ดร.ภญ.สายทิพย์ สุทธิรักษาที่เป็นผู้ช่วยชาญ
ตรวจสอบเครื่องมือ ขอบขอบพระคุณผู้ร่วมพัฒนาโปแกรมเสริมสร้างความรอบรู้ฯ คณะกรรมการ
พิจารณาจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามที่ให้คำแนะนำ วิธีการ และข้อเสนอแนะ
การดำเนินงานวิจัยในครั้งนี้
งานวิจัยฉบับนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากมูลนิธีอาจารย์เกษม ปังศรีวงศ์ประจําปงบประมาณ
2566 ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี |
|
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
13 |
จากบทความที่ให้ไปเรื่อง Biological process อยากทราบว่างานตีพิมพ์ของ Blundell (2020) เกี่ยวกับเรื่องใด
|
|
|
|
|
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
14 |
จากบทความเรื่อง Stem cell จงอธิบาย AI Facilitates High- Dimensional Analysis of Large DMD Datasets
|
|
|
|
|
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
15 |
X-ray กับ Metrology เกี่ยวข้องกันอย่างไร
|
ปัจจุบัน มีการนำ รังสีเอกซ์มาใช้ประโยชน์ในการวินิจฉัยโรคให้แก่ผู้ป่วยอย่างกว้างขวาง เนื่องจากภาพถ่ายทาง
รังสีช่วยให้แพทย์มองเห็นพยาธิสภาพที่เห็นด้วยตาเปล่าไม่ได้ แต่การได้รับรังสีอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้น เพื่อ
ป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยได้รับปริมาณรังสีมากเกินความจำ เป็น อันเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากรังสี จึงต้องมี
มาตรฐานเพื่อดูแลให้ผู้ป่วยได้รับรังสีน้อยที่สุด โดยที่ภาพถ่ายทางรังสียังมีคุณภาพให้แพทย์สามารถทำการวินิจฉัยโรคได้
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานที่ดำ เนินการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย
จากการใช้เครื่องเอกซเรย์ในสถานพยาบาลต่างๆ มาตั้งแต่ปี 2509 จนถึงปัจจุบัน ได้ตระหนักถึงประโยชน์และโทษของ
การใช้รังสีทางการแพทย์ ดังนั้น เพื่อให้การตรวจสอบคุณภาพเครื่องเอกซเรย์วินิจฉัยเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ
เหมาะสมกับสภาพของเครื่องเอกซเรย์ที่มีอยู่ในประเทศไทย และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล จึงขอประกาศข้อกำ หนด
มาตรฐานคุณภาพเครื่องเอกซเรย์วินิจฉัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข โดยให้หน่วยงานในสังกัด
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ถือปฏิบัติตามรายละเอียดเอกสารที่แนบท้ายประกาศฉบับนี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป |
|
|
|
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
16 |
ให้นักเรียนคิดค้นการทดลองเชิงโมเลกุลที่ใช้ AI เป็นส่วนประกอบในการทดลอง
|
|
|
|
|
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
17 |
จากบทความที่ให้ไปเรื่อง Biological process อยากทราบว่างานตีพิมพ์ของ Dunker (2002) เกี่ยวกับเรื่องใด
|
|
|
|
|
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
18 |
จงอธิบายว่าการทำ CRISPR/Cas9 และ การทำ Single cell RNA จะช่วยพัฒนาการรักษาโรค DMD อย่างไร
|
งานวิจัยสำหรับการรักษาในปัจจุบันเริ่มให้ความสำคัญที่เฉพาะเจาะจงและลงรายละเอียดลึกลงไปในระดับเซลล์ (Cell) และสารพันธุกรรมมากขึ้น หนึ่งในความพยายามที่จะรักษาโรคได้แก่ การดัดแปลงสารพันธุกรรมในร่างกาย ซึ่งก็คือสายของกรดดีออกซีไรโบนิวคลีอิก หรือสายดีเอ็นเอ (Deoxyribonucleic acid; DNA) ที่เราคุ้นเคยกันว่าเป็นต้นแบบในการแสดงซึ่งลักษณะต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตนั่นเอง ให้มีความเหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของผู้ป่วยมากขึ้น โดยในผู้ป่วยบางรายมีลำดับของสายดีเอ็นเอที่แตกต่างจากคนปกติทั่วไป โดยอาจจะเป็นตั้งแต่กำเนิด หรือ เกิดการเปลี่ยนแปลงลำดับของสายดีเอ็นเอภายหลัง ได้แก่ โดนรังสีอัลตร้าไวโอเลต (Ultraviolet; UV) ที่เข้มข้นติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน หรือติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น เชื้อไวรัสเอชไอวี (Human immunodeficiency virus; HIV) ซึ่งในกระบวนการเพิ่มจำนวนของเชื้อจะมีการแทรกสายดีเอ็นเอของเชื้อลงไปในสายดีเอ็นเอภายในเซลล์ที่เกี่ยวข้องในระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย เป็นต้น |
|
Barrangou, Rodolphe, and Jennifer A Doudna. 2016. "Applications of CRISPR Technologies in Research and beyond." Nature Biotechnology 34(9): 933–41. http://www.nature.com/doifinder/10.1038/nbt.3659
"CRISPR-Cas9 Based Therapeutics: Not So Fast." 2015. EBioMedicine 2(5): 365.
Lander, Eric S. 2016. “The Heroes of CRISPR.” Cell 164(1–2): 18–28. http://dx.doi.org/10.1016/j.cell.2015.12.04 |
งานวิจัยที่เกี่ยวข้องแสดงผลลัพธ์ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการดัดแปลงสายดีเอ็นเอให้มีลำดับเบสที่ถูกต้องในระดับเซลล์ของผู้ป่วยหรือสัตว์ทดลอง ซึ่งหมายความว่าโรคที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมจะสามารถรักษาให้หายขาดเป็นปกติได้โดยอาจมีการประยุกต์ใช้ร่วมกับเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell) และมีแนวโน้มว่าอาจจะประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง หรือโรคเรื้อรังอื่นๆ ได้ด้วย รวมไปถึงต้านการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสต่างๆ
อย่างไรก็ตามการทดลองเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นวิจัย ปรับปรุงและพัฒนา ในปี พ.ศ. 2558 กลุ่มนักวิจัยในประเทศจีนได้ทำการทดลองประยุกต์ระบบ CRISPR/Cas9 กับตัวอ่อนของคนสำหรับรักษาโรคทางพันธุกรรม ซึ่งสะเทือนวงการวิทยาศาสตร์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นผลการทดลองที่มีการคลาดเคลื่อนในกลุ่มตัวอย่าง คือ มีตัวอย่างที่มีการแก้ไขแต่ยังไม่เหมาะสมในจำนวนเพียงเล็กน้อย และผลที่นอกเหนือความคาดหมายอีกจำนวนมาก รวมไปถึงความกังวลด้านจริยธรรมสำหรับการทดลองในมนุษย์
ในอนาคตอันใกล้ หากระบบ CRISPR/Cas9 ถูกศึกษาเพิ่มเติมและควบคุมคุณภาพได้อย่างเหมาะสม อาจจะมียาชีววัตถุในกลุ่มนี้เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งกลุ่มซึ่งสามารถประยุกต์ใช้รักษาได้อีกหลายๆ โรคในเร็ววันนี้
แหล่งอ้างอิง/ที่มา
Barrangou, Rodolphe, and Jennifer A Doudna. 2016. "Applications of CRISPR Technologies in Research and beyond." Nature Biotechnology 34(9): 933–41. http://www.nature.com/doifinder/10.1038/nbt.3659
"CRISPR-Cas9 Based Therapeutics: Not So Fast." 2015. EBioMedicine 2(5): 365.
Lander, Eric S. 2016. “The Heroes of CRISPR.” Cell 164(1–2): 18–28. http://dx.doi.org/10.1016/j.cell.2015.12.041
เปิดอ่านด้วย Google Doc Viewer
ดาวน์โหลดบทความ (pdf)
ดูบทความอื่นๆ
งานประชุมวิชาการที่กำลังเปิดรับสมัคร
Clinical Pharmacy Conference: Spotlight on Special Populations (SSP) 6-8 มีนาคม พ.ศ. 2567
หลักสูตรการฝึกอบรมระยะสั้นการบริบาลทางเภสัชกรรม ปีงบประมาณ 2567 รายละเอียดการรับสมัครของแต่ละสาขาอาจมีความแตกต่างกัน โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ดูตารางการประชุมประจำปี
บทความที่ถูกอ่านล่าสุด
CRISPR/Cas9 ความหวังใหม่สำหรับการรักษาโรคต่างๆ ในระดับสารพันธุกรรม 1 วินาทีที่แล้วอันตรายของครีมหน้าขาว ที่ผสมไฮโดรควิโนน 4 วินาทีที่แล้วโปรดนำยาที่ใช้เป็นประจำไปโรงพยาบาลด้วย 13 วินาทีที่แล้วยาบ้า 13 วินาทีที่แล้วยาที่ไม่ควรกินร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 17 วินาทีที่แล้วกินยาพร้อมนม ได้ผลหรือไม่ ? 20 วินาทีที่แล้วยาหอม กับคนวัยทำงาน 1 นาทีที่แล้วไมเกรน .. กินยาไม่ถูกต้องอันตรายมากกว่าที่คิด 1 นาทีที่แล้วยาคุมกำเนิดชนิดฉีด 1 นาทีที่แล้วกระเทียมดำ 1 นาทีที่แล้ว
อ่านบทความทั้งหมด
ข้อจำกัดด้านลิขสิทธิ์บทความ:
บทความในหน้าที่ปรากฎนี้สามารถนำไปทำซ้ำเพื่อเผยแพร่ในเว็บไซต์ หรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ โดยไม่มีวัตถุประสงค์ในเชิงพาณิชย์ได้ ทั้งนี้การนำไปทำซ้ำนั้นยังคงต้องปรากฎชื่อผู้แต่งบทความ และห้ามตัดต่อหรือเรียบเรียงเนื้อหาในบทความนี้ใหม่โดยเด็ดขาด และกรณีที่ท่านได้นำบทความนี้ไปใช้ในเว็บเพจของท่าน ให้สร้าง Hyperlink เพื่อสร้าง link อ้างอิงบทความนี้มายังหน้านี้ด้วย
-
|
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
19 |
จงยกตัวอย่างการใช้ Metabolic measurement ในโรคมะเร็ง
|
การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า การบริโภคอาหารมีผลต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง แต่การศึกษาการบริโภคอาหารกับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ด้วยวิธีการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ (Fecal Immunochemical Test: FIT) ให้ผลบวกในปัจจุบันนั้นยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคอาหารและปัจจัยอื่นๆ กับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ด้วยวิธีการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ (FIT) ให้ผลบวก ในประชาชน 50-70 ปี ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาแบบ case-control study ทำการเก็บข้อมูลในช่วงเดือน มีนาคม 2563 โดยใช้แบบสัมภาษณ์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ จำนวน 216 คน กลุ่มศึกษาและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 108 คน วิเคราะห์หาความสัมพันธ์โดยใช้สถิติการถดถอยพหุลอจิสติก นำเสนอขนาดความสัมพันธ์ด้วยค่า Adjusted odds ratio (ORadj) และช่วงเชื่อมั่นที่ 95% |
|
ผลการศึกษาพบว่า การบริโภคอาหารมีความสัมพันธ์กับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ด้วยวิธีการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ (FIT) ให้ผลบวก อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ (ORadj=1.39, 95%CI; 0.65-3.00, p=0.398) แต่พบว่า ผู้ที่มีการศึกษาระดับประถมศึกษาหรือต่ำกว่า (ORadj=2.38 , 95%CI; 1.15-4.90, p=0.019) ผู้ที่มีโรคประจำตัวด้วยโรคกลุ่ม Metabolic syndrome (ORadj=2.62 , 95%CI; 1.35-5.10 , p=0.005) และผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ (ORadj=2.08 , 95%CI: 1.15-3.75, p=0.015) มีความสัมพันธ์กับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ด้วยวิธีการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ (FIT) ให้ผลบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p value< 0.05) เมื่อควบคุมผลกระทบจากตัวแปรอื่นๆ ในสมการสุดท้าย
ดังนั้น เพื่อเป็นการลดปัจจัยเสี่ยง ควรมีการให้ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพทั้งในชุมชนและหน่วยบริการสุขภาพ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่และการใช้ยาที่เหมาะสมในผู้ป่วยโรค Metabolic syndrome เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงในอนาคต |
สมาคมแพทย์ส่องกล้องทางเดินอาหารไทย. (2557). แนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนต้นในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: สมาคมแพทย์ระบบทางเดินอาหารไทย. |
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
20 |
ให้นักเรียนคิดค้นวิธีการทำ Vaccine โดยใช้หลักการทาง Physic, Math, Biochemistry
|
การรับเข้าศึกษา
รับทั้งนักศึกษาไทยและนักศึกษาต่างชาติ(โดยนักศึกษาต่างชาติจะต้องได้เรียน
ภาษาไทยมาก่อนอย่างน้อย 4 เดือน หรือ สามารถสื่อสารภาษาไทยได้)
5.5 ความร่วมมือกับสถาบันอื่น
ไม่มี
5.6 การให้ปริญญาแก่ผู้ส าเร็จการศึกษา
ให้ปริญญาเพียงสาขาวิชาเดียว
6. สถานภาพของหลักสูตรและการพิจารณาอนุมัติ/เห็นด้วย |
|
|
|
10 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|