1 |
What is the primary advantage of using cup lump rubber (CLR) in cold mix asphalt (CMA)?
|
Improves functional properties of the asphalt |
|
การยึดเกาะ: ยางก้อนทำหน้าที่เหมือนตัวเชื่อม ทำให้วัสดุต่างๆ ยึดเกาะกันได้ดีขึ้น
ความยืดหยุ่น: ยางก้อนช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของยางมะตอย ทำให้ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
การลดเสียงดัง: ยางก้อนช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือน ทำให้ลดเสียงดังจากการสัญจร
อายุการใช้งาน: ด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่า ทำให้ผิวทางที่มีส่วนผสมของยางก้อนมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น |
วิศวกรรมโยธา: การใช้ยางก้อนในยางมะตอยเป็นเทคนิคที่ได้รับการยอมรับและนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายในงานก่อสร้างทาง
วัสดุศาสตร์: คุณสมบัติของวัสดุ เช่น ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และความทนทาน สามารถปรับปรุงได้ด้วยการผสมวัสดุอื่นเข้าไป
เสียงวิทยา: การใช้วัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูงสามารถช่วยลดเสียงดังได้ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
2 |
Which property of CMA is significantly improved by the addition of CLR?
|
Tensile strength |
|
การเติม CLR ลงใน CMA จะช่วย เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่น ของยางมะตอยผสม ทำให้ผิวทางมีความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
|
ยางก้อน (CLR): มีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง ทำให้เมื่อนำไปผสมกับยางมะตอย จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความสามารถในการรับแรงดึงของยางมะตอยผสม
ยางมะตอยผสมเย็น (CMA): เมื่อเติม CLR เข้าไป จะทำให้ CMA มีความแข็งแรงมากขึ้น ทนทานต่อการแตกร้าว และสามารถยืดตัวได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับวัสดุก่อสร้างทาง |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
3 |
If the tensile strength of CMA increases by 26% due to the addition of CLR and the original tensile strength was 5 MPa, what is the new tensile strength?
|
6.3 MPa |
|
เมื่อเติม CLR เข้าไปใน CMA ความต้านทานแรงดึงของ CMA จะเพิ่มขึ้น 1.3 MPa ทำให้ค่าความต้านทานแรงดึงใหม่กลายเป็น 6.3 MPa |
หาค่าที่เพิ่มขึ้นของความต้านทานแรงดึง:
26% ของ 5 MPa เท่ากับ (26/100) * 5 MPa = 1.3 MPa
บวกค่าที่เพิ่มเข้าไปกับค่าเดิม:
5 MPa + 1.3 MPa = 6.3 MPa |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
4 |
Given that the rut depth decreases by 70% when CLR is added to CMA and the original rut depth was 10 mm, what is the new rut depth?
|
3 mm |
|
การคำนวณเปอร์เซ็นต์: เราใช้หลักการคำนวณเปอร์เซ็นต์เพื่อหาค่าที่ลดลงของความลึกของร่องรอย
ความลึกของร่องรอย: หมายถึงความลึกของรอยที่เกิดจากการที่ยานพาหนะวิ่งผ่านบนผิวทาง |
หาค่าที่ลดลงของความลึกของร่องรอย:
70% ของ 10 มม. เท่ากับ (70/100) * 10 มม. = 7 มม.
ลบค่าที่ลดลงออกจากค่าเดิม:
10 มม. - 7 มม. = 3 มม. |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
5 |
If the CMA with CLR has a TSR (Tensile Strength Ratio) value of 104% and the minimum requirement is 80%, by what percentage does the TSR exceed the requirement?
|
30% |
|
เราต้องการทราบว่าค่าที่ได้จริง (104%) นั้น เกินกว่าค่าที่กำหนด (80%) ไปเท่าไหร่เมื่อเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าที่กำหนด ดังนั้นเราจึงนำค่าที่เกินมา (24%) มาหารด้วยค่าต่ำสุดที่กำหนด (80%) แล้วคูณด้วย 100 เพื่อแปลงเป็นเปอร์เซ็นต์ |
หาค่าที่เกินมา:
ค่าที่เกินมา = ค่าที่ได้จริง - ค่าต่ำสุดที่กำหนด = 104% - 80% = 24%
หาว่าเกินมาเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของค่าต่ำสุดที่กำหนด:
เปอร์เซ็นต์ที่เกินมา = (ค่าที่เกินมา / ค่าต่ำสุดที่กำหนด) x 100%
เปอร์เซ็นต์ที่เกินมา = (24% / 80%) x 100% = 30% |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
6 |
What is the potential increase in moisture damage resistance for CMA-CR compared to conventional CMA if the improvement is 12%?
|
12% |
|
คำตอบหาได้จากการอ่านบทความ 12 % |
จากบทความ This finding indicated that the resistance of CMA-CR to moisture damage significantly improved by 11.8% with CLR modification. However, the TSR values of CMA-CR were almost similar to those of CMA-6, confirming the upgrading of the penetration grade with CLR modification ใกล้เคียง กับ 12 % |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
7 |
If the shear resistance of CLR-modified CMA increases due to the membrane effect, which physical property is most directly influenced?
|
Elasticity |
|
เมื่อเพิ่ม CLR ลงใน CMA และเกิดผลของเมมเบรนขึ้น คุณสมบัติทางกายภาพที่ได้รับผลกระทบโดยตรงมากที่สุดคือ ความยืดหยุ่น เนื่องจากชั้นบางๆ ของยางที่เกิดขึ้นจะช่วยเพิ่มความสามารถของวัสดุในการเปลี่ยนรูปและกลับคืนสู่สภาพเดิมภายใต้แรงเฉือน ทำให้ความต้านทานแรงเฉือนของ CMA เพิ่มขึ้น |
ผลของเมมเบรน: เมื่อเติม CLR ลงใน CMA จะเกิดชั้นบางๆ ของยางขึ้นมา ซึ่งชั้นนี้จะทำหน้าที่เหมือนเป็นสปริงเล็กๆ ที่ช่วยให้วัสดุมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
ความยืดหยุ่นและความต้านทานแรงเฉือน: เมื่อวัสดุมีความยืดหยุ่นมากขึ้น มันจะสามารถเปลี่ยนรูปได้มากขึ้นภายใต้แรงเฉือน แต่จะกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ดี ทำให้ความต้านทานแรงเฉือนเพิ่มขึ้น
ตัวเลือกอื่นๆ: ตัวเลือกอื่นๆ ไม่ได้อธิบายถึงกลไกที่ทำให้ความต้านทานแรงเฉือนเพิ่มขึ้นได้ดีเท่ากับความยืดหยุ่น |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
8 |
The viscosity of CLR-modified bitumen at 135°C is 1.16 Pa·s. If the shear rate is 50 s^-1, what is the shear stress?
|
58 Pa |
|
จากการคำนวณตามสูตรความหนืด เราพบว่าความเค้นเฉือนของยางมะตอยที่ปรับปรุงด้วย CLR ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดคือ 58 Pa |
ในการหาความเค้นเฉือน เราจะใช้สูตรของความหนืด ซึ่งสัมพันธ์กับความเค้นเฉือนและอัตราการเฉือน ดังนี้
ความเค้นเฉือน (Shear stress) = ความหนืด (Viscosity) × อัตราการเฉือน (Shear rate)
วิธีทำ
กำหนดค่า:
ความหนืด (Viscosity) = 1.16 Pa·s
อัตราการเฉือน (Shear rate) = 50 s⁻¹
แทนค่าลงในสูตร:
ความเค้นเฉือน = 1.16 Pa·s × 50 s⁻¹ = 58 Pa |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
9 |
If the mass loss in the Cantabro test for CMA-CR is 14.6% and the maximum accepted limit is 20%, by how much does CMA-CR fall below the limit?
|
5.4% |
|
จากการคำนวณพบว่าค่าการสูญเสียมวลของ CMA-CR นั้นยังต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ซึ่งหมายความว่าวัสดุชนิดนี้ยังคงมีคุณสมบัติที่ดีเพียงพอตามมาตรฐาน |
หาค่าส่วนต่าง: นำค่าสูงสุดที่ยอมรับได้ (20%) ลบด้วยค่าการสูญเสียมวลจริง (14.6%)
20% - 14.6% = 5.4% |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
10 |
What is the significance of using cup lump rubber in the context of environmental sustainability?
|
It helps in lowering carbon emissions during production. |
|
การรีไซเคิล: การนำยางก้อนมาใช้เป็นการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของการรีไซเคิล ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและลดปริมาณขยะ
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: กระบวนการผลิตยางใหม่ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งการลดปริมาณยางที่ผลิตใหม่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน
ลดมลพิษ: การทิ้งยางก้อนที่ใช้แล้วอาจก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมได้ การนำยางก้อนมาใช้รีไซเคิลจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการจัดการขยะและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม |
หลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน: การนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและลดปริมาณขยะ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นวิธีการหนึ่งในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
11 |
What is one of the emerging trends affecting China's oil and gas pipeline development strategies?
|
Digitization |
|
ดิจิทัลไลเซชัน เป็นแนวโน้มใหม่ที่สำคัญและมีผลกระทบต่อกลยุทธ์การพัฒนาท่อส่งน้ำมันและก๊าซของจีน เนื่องจากเทคโนโลยีดิจิทัลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และปรับปรุงความปลอดภัยในการดำเนินงาน |
เทคโนโลยีใหม่: ดิจิทัลไลเซชันเป็นเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตและถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ
เพิ่มประสิทธิภาพ: การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของท่อส่งน้ำมันและก๊าซ เช่น การตรวจสอบสภาพท่อแบบเรียลไทม์ การควบคุมการไหลของน้ำมันและก๊าซ การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น
ลดต้นทุน: ในระยะยาว การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสามารถช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
12 |
What is the proportion of natural gas pipelines in the total length of long-distance oil and gas pipelines in China as of 2022?
|
60% |
|
จากบทความสรุปได้ว่าข้อนี้ตอบ 60 % |
จากบทความ the length of long-distance oil and gas pipelines built in China will reach 180,000 km, of which natural gas pipelines account for more than 60%. ได้คำตอบเป็น 60% |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
13 |
If the total length of long-distance oil and gas pipelines in China is 180,000 km, how many kilometers are dedicated to natural gas pipelines?
|
126,000 km |
|
60% ของ 210000 km คือคำตอบ |
0.60*210000=126000 km |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
14 |
According to the article, if the target length for oil and gas pipelines is 210,000 km by 2025, how many kilometers need to be constructed from the 2022 total?
|
30,000 km |
|
ต้องสร้างเพิ่มจาก 180000 อีก 30000 km |
จากโจทย์ length for oil and gas pipelines is 210,000 km แล้วตอนนี้ สร้างไปแล้ว 180000 km เพราะฉะนั้น จะต้องสร้างเพิ่มอีก 30000 km |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
15 |
If the failure rate of oil and gas pipelines in Europe is 0.29 per year per hundred kilometers, what is the failure rate per year for a pipeline network of 1,000 kilometers?
|
2.9 failures |
|
เราใช้หลักการของสัดส่วนในการแก้ปัญหา โดยเปรียบเทียบอัตราการเกิดความเสียหายต่อระยะทางที่แตกต่างกัน เนื่องจากอัตราการเกิดความเสียหายต่อหน่วยระยะทางเป็นค่าคงที่ เราจึงสามารถคำนวณหาอัตราการเกิดความเสียหายสำหรับระยะทางที่ยาวขึ้นได้ |
วิธีคิด:
หาอัตราส่วน: เราทราบว่าทุกๆ 100 กิโลเมตร จะเกิดความเสียหายเฉลี่ย 0.29 ครั้งต่อปี
ปรับขนาด: เนื่องจากเราต้องการหาค่าสำหรับท่อส่งยาว 1,000 กิโลเมตร ซึ่งยาวกว่า 100 กิโลเมตร อยู่ 10 เท่า ดังนั้นเราจึงคูณอัตราการเกิดความเสียหายเดิมด้วย 10
คำนวณ: 0.29 ครั้ง/100 กม. × 10 = 2.9 ครั้ง/1,000 กม.
คำตอบ: ดังนั้น ท่อส่งยาว 1,000 กิโลเมตร จะมีอัตราการเกิดความเสียหายเฉลี่ยต่อปีเท่ากับ 2.9 ครั้ง |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
16 |
What is one of the main causes of oil and gas pipeline failures in China according to the article?
|
Oil theft through drilling |
|
จากตัวเลือกที่ให้มา สาเหตุหลักของการเกิดความเสียหายของท่อส่งน้ำมันและก๊าซในประเทศจีนตามที่บทความระบุ คือ การขโมยน้ำมันโดยการเจาะ |
จากบทความ oil theft through drilling are the leading causes of China's oil and gas pipeline failures. ทำให้ทราบถึงคำตอบ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
17 |
Assuming the failure rate in the United States is 0.14 per year per hundred kilometers, calculate the expected number of failures per year for a 1,500 kilometers pipeline network.
|
2.1 failures |
|
เราใช้หลักการของสัดส่วนในการแก้ปัญหา โดยเปรียบเทียบอัตราการเสียหายต่อระยะทางที่แตกต่างกัน เนื่องจากอัตราการเสียหายต่อหน่วยระยะทางเป็นค่าคงที่ เราจึงสามารถคำนวณหาอัตราการเสียหายสำหรับระยะทางที่ยาวขึ้นได้ |
หาอัตราส่วน: เราทราบว่าทุกๆ 100 กิโลเมตร จะเสียหายเฉลี่ย 0.14 ครั้งต่อปี
ปรับขนาด: เนื่องจากเราต้องการหาค่าสำหรับท่อส่งยาว 1,500 กิโลเมตร ซึ่งยาวกว่า 100 กิโลเมตร อยู่ 15 เท่า ดังนั้นเราจึงคูณอัตราการเสียหายเดิมด้วย 15
คำนวณ: 0.14 ครั้ง/100 กม. × 15 = 2.1 ครั้ง/1,500 กม.
คำตอบ: ดังนั้น ท่อส่งยาว 1,500 กิโลเมตร จะเสียหายเฉลี่ยปีละ 2.1 ครั้ง |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
18 |
If a pipeline defect inspection technology improves detection efficiency by 25% and the current detection efficiency is 80%, what will be the new detection efficiency?
|
100% |
|
เราคำนวณหาค่าเพิ่มของประสิทธิภาพก่อน แล้วนำไปบวกกับประสิทธิภาพเดิม เพื่อหาค่าประสิทธิภาพใหม่ |
หาค่าเพิ่มของประสิทธิภาพ: 25% ของ 80% คือ (25/100) * 80 = 20
บวกค่าเพิ่มเข้าไป: 80% + 20% = 100% |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
19 |
If a vibration signal monitoring system faces a 15% reduction in noise levels due to a new technology and the original noise level was 200 units, what is the new noise level?
|
170 units |
|
เราคำนวณหาค่าที่ลดลงของระดับเสียงรบกวนก่อน แล้วนำไปลบออกจากค่าเดิม เพื่อหาค่าระดับเสียงรบกวนใหม่ |
หาค่าที่ลดลง: 15% ของ 200 หน่วย คือ (15/100) * 200 = 30 หน่วย
ลบค่าที่ลดลงออกจากค่าเดิม: 200 หน่วย - 30 หน่วย = 170 หน่วย |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
20 |
For a hydrogen pipeline with an embrittlement rate of 0.05% per year, calculate the total embrittlement after 10 years.
|
0.5% |
|
เนื่องจากอัตราการเกิดความเปราะเพิ่มขึ้นในอัตราที่คงที่ทุกปี เราจึงคูณอัตราการเกิดความเปราะต่อปีด้วยจำนวนปีที่ต้องการทราบ ซึ่งในกรณีนี้คือ 10 ปี |
ความหมายของ Embrittlement: คือ สภาวะที่วัสดุสูญเสียความเหนียวและมีความเปราะมากขึ้น ทำให้แตกหักได้ง่าย
การคำนวณ: เนื่องจากอัตราการเกิดความเปราะเพิ่มขึ้นในอัตราที่คงที่ทุกปี เราสามารถคูณอัตราการเกิดความเปราะต่อปีด้วยจำนวนปีที่ต้องการทราบ
0.05% ต่อปี × 10 ปี = 0.5% |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|