1 |
What is the primary function of AI in the medical imaging industry?
|
To improve diagnostic accuracy and patient outcomes |
|
การวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ที่ซับซ้อน: AI สามารถวิเคราะห์ภาพเอกซเรย์, MRI, CT scan และภาพทางการแพทย์อื่นๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นกว่ามนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตรวจหาความผิดปกติที่ซับซ้อนหรือเล็กน้อย ซึ่งอาจมองข้ามได้ด้วยสายตามนุษย์
การตรวจหาโรคในระยะเริ่มต้น: AI สามารถช่วยตรวจหาโรคต่างๆ เช่น มะเร็ง ในระยะเริ่มต้นได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาและการรอดชีวิตของผู้ป่วย
การวินิจฉัยที่สม่ำเสมอ: AI ช่วยให้การวินิจฉัยมีความสม่ำเสมอมากขึ้น โดยไม่ขึ้นอยู่กับความเหนื่อยล้าหรืออารมณ์ของผู้วิเคราะห์
การสนับสนุนการตัดสินใจของแพทย์: AI ไม่ได้มาแทนที่แพทย์ แต่เป็นเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจ ทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างมั่นใจมากขึ้นและวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม |
ทฤษฎีและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง:
ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence): เป็นสาขาของวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มุ่งเน้นในการพัฒนาเครื่องจักรให้มีความสามารถในการเรียนรู้ คิด และตัดสินใจเหมือนมนุษย์
การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning): เป็นสาขาย่อยของ AI ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอัลกอริทึมที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้จากข้อมูลโดยไม่จำเป็นต้องถูกตั้งโปรแกรมโดยตรง
วิสัยทัศน์คอมพิวเตอร์ (Computer Vision): เป็นสาขาของ AI ที่เกี่ยวข้องกับการให้คอมพิวเตอร์มีความสามารถในการเข้าใจและตีความภาพ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
2 |
Which of the following is a key benefit of AI in radiology noted in the article?
|
Acts as a second medical opinion |
|
Acts as a second medical opinion (ทำหน้าที่เป็นความเห็นทางการแพทย์ที่สอง)
เหตุผล:
AI หรือปัญญาประดิษฐ์เมื่อนำมาประยุกต์ใช้ในสาขาการแพทย์โดยเฉพาะการวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ เช่น X-ray, MRI หรือ CT scan สามารถทำหน้าที่เสมือนเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกท่านหนึ่งในการให้ความเห็นเกี่ยวกับภาพเหล่านั้น AI สามารถวิเคราะห์ภาพได้อย่างรวดเร็วและละเอียดมากขึ้น ช่วยให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถตรวจสอบและยืนยันการวินิจฉัยได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น |
ทฤษฎีและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง:
ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence): เป็นสาขาของวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มุ่งเน้นในการพัฒนาเครื่องจักรให้มีความสามารถในการเรียนรู้ คิด และตัดสินใจเหมือนมนุษย์
การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning): เป็นสาขาย่อยของ AI ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอัลกอริทึมที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้จากข้อมูลโดยไม่จำเป็นต้องถูกตั้งโปรแกรมโดยตรง
วิสัยทัศน์คอมพิวเตอร์ (Computer Vision): เป็นสาขาของ AI ที่เกี่ยวข้องกับการให้คอมพิวเตอร์มีความสามารถในการเข้าใจและตีความภาพ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
3 |
What does AI literacy refer to according to the article?
|
Understanding and knowledge of AI technology |
|
AI Literacy หมายถึงความสามารถในการเข้าใจและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในยุคดิจิทัล การมีความรู้ด้าน AI จะช่วยให้บุคคลสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกและมีส่วนร่วมในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ |
ทฤษฎีและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง:
Digital Literacy: ความรู้ด้านดิจิทัล ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของ AI Literacy
Information Literacy: ความรู้ในการค้นหา วิเคราะห์ และประเมินข้อมูล ซึ่งมีความสำคัญในการเรียนรู้เกี่ยวกับ AI
Technological Literacy: ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการเข้าใจ AI |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
4 |
Which factor is NOT listed as influencing the acceptability of AI among healthcare professionals?
|
The color of the AI machines |
|
สีของเครื่องจักร AI เป็นปัจจัยที่ไม่มีนัยสำคัญในการตัดสินใจยอมรับ AI ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ปัจจัยที่สำคัญจริงๆ คือประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความสามารถในการทำงานร่วมกับระบบงานที่มีอยู่ |
ทฤษฎีและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง:
เทคโนโลยีการยอมรับ: เป็นทฤษฎีที่อธิบายถึงปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในองค์กรหรือกลุ่มคน
ความไว้วางใจ: เป็นปัจจัยทางจิตวิทยาที่สำคัญในการตัดสินใจยอมรับหรือปฏิเสธเทคโนโลยีใหม่ๆ
การใช้งาน: การออกแบบระบบ AI ที่ใช้งานง่ายและสอดคล้องกับกระบวนการทำงานที่มีอยู่ จะช่วยเพิ่มการยอมรับจากผู้ใช้งาน |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
5 |
What role does social influence play in AI acceptability in healthcare according to the article?
|
Affects healthcare professionals’ decisions to use AI |
|
: Affects healthcare professionals’ decisions to use AI (มีผลต่อการตัดสินใจใช้ AI ของบุคลากรทางการแพทย์)
เหตุผล:
อิทธิพลทางสังคม: หมายถึงอิทธิพลที่เกิดจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในสังคม ซึ่งรวมถึงความคิดเห็น บทบาท และพฤติกรรมของกลุ่มคนรอบข้าง
การตัดสินใจใช้ AI: บุคลากรทางการแพทย์เป็นกลุ่มคนที่ต้องตัดสินใจว่าจะนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการทำงานหรือไม่ การตัดสินใจนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางเทคนิคเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางสังคมอีกด้วย
ปัจจัยทางสังคมที่เกี่ยวข้อง:
ความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน: หากเพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการใช้ AI บุคลากรคนอื่นก็มีแนวโน้มที่จะยอมรับและใช้ AI เช่นกัน
วัฒนธรรมองค์กร: วัฒนธรรมองค์กรที่เปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ จะส่งเสริมให้บุคลากรยอมรับและใช้ AI
มาตรฐานทางสังคม: มาตรฐานทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีในวงการแพทย์ก็มีผลต่อการตัดสินใจของบุคลากร |
ทฤษฎีและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง:
ทฤษฎีการยอมรับเทคโนโลยี (Technology Acceptance Model): อธิบายว่าปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยหนึ่งในปัจจัยสำคัญคืออิทธิพลทางสังคม
ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม: อธิบายว่าบุคคลเรียนรู้พฤติกรรมใหม่ๆ ผ่านการสังเกตและเลียนแบบพฤติกรรมของผู้อื่น
ทฤษฎีการสร้างกรอบความคิด: อธิบายว่าบุคคลสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโลกภายนอกผ่านการตีความข้อมูลที่ได้รับจากปฏิสัมพันธ์ทางสังคม |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
6 |
What is a perceived threat regarding AI usage in healthcare settings?
|
Concerns about replacing healthcare professionals |
|
ความกังวลหลักเกี่ยวกับการนำ AI มาใช้ในวงการแพทย์คือ ความกลัวว่า AI จะเข้ามาแทนที่งานของบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งรวมถึงแพทย์ พยาบาล และบุคลากรด้านสุขภาพอื่นๆ นี่เป็นความกังวลที่เกิดขึ้นเนื่องจาก AI มีความสามารถในการเรียนรู้และวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งอาจนำไปสู่การตั้งคำถามว่าในอนาคตบทบาทของมนุษย์ในวงการแพทย์จะเป็นอย่างไร |
ทฤษฎีและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง:
เทคโนโลยีที่ทำให้เกิดการว่างงาน: เป็นทฤษฎีที่กล่าวถึงผลกระทบของเทคโนโลยีต่อการจ้างงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานจำนวนมาก
ความฉลาดทางอารมณ์: เป็นทักษะที่มนุษย์มีซึ่ง AI ยังไม่สามารถทำได้อย่างสมบูรณ์ เช่น การสร้างความสัมพันธ์ การให้กำลังใจ และการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น
การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร: เป็นแนวคิดที่เน้นการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
7 |
According to the article, what is essential for increasing AI acceptability among medical professionals?
|
Designing human-centred AI systems |
|
การที่บุคลากรทางการแพทย์จะยอมรับและนำเทคโนโลยี AI มาใช้งานได้อย่างเต็มที่นั้น ไม่เพียงแต่ต้องมีประสิทธิภาพสูง แต่ยังต้องตอบโจทย์ความต้องการและวิธีการทำงานของมนุษย์ด้วย การออกแบบระบบ AI ที่มุ่งเน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Human-centered AI) จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มการยอมรับ AI ในวงการแพทย์ |
ทฤษฎีและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง:
Human-Computer Interaction (HCI): ศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ เพื่อออกแบบระบบที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ
User-Centered Design (UCD): กระบวนการออกแบบที่มุ่งเน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง โดยให้ความสำคัญกับความต้องการและความคาดหวังของผู้ใช้
Trust in Technology: ความไว้วางใจที่มนุษย์มีต่อเทคโนโลยี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
8 |
What does the 'system usage' category of AI acceptability factors include according to the article?
|
Factors like value proposition and integration with workflows |
|
ปัจจัยการใช้งานระบบ (System usage): หมายถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับวิธีการใช้งาน AI ในบริบทจริงของงาน รวมถึงประโยชน์ที่ผู้ใช้ได้รับ และความสามารถในการทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ ที่มีอยู่
ข้อเสนอที่น่าสนใจ (Value proposition): หมายถึงคุณค่าที่ AI นำมาสู่ผู้ใช้ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดความผิดพลาดในการวินิจฉัย หรือการปรับปรุงคุณภาพการดูแลผู้ป่วย
การผสานรวมกับกระบวนการทำงานที่มีอยู่ (Integration with workflows): หมายถึงความสามารถของ AI ในการทำงานร่วมกับระบบงานเดิมๆ ที่มีอยู่ในโรงพยาบาลได้อย่างราบรื่น |
ทฤษฎีและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง:
ทฤษฎีการยอมรับเทคโนโลยี (Technology Acceptance Model): อธิบายว่าปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยหนึ่งในปัจจัยสำคัญคือประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้งานเทคโนโลยีนั้น
การออกแบบที่มุ่งเน้นผู้ใช้ (User-Centered Design): เน้นการออกแบบระบบที่ตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้ใช้ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
9 |
How does ethicality impact AI acceptability among healthcare professionals?
|
Affects views on AI based on compatibility with professional values |
|
จริยธรรมและคุณค่าทางวิชาชีพ: บุคลากรทางการแพทย์มีความผูกพันกับจริยธรรมทางวิชาชีพอย่างสูง ซึ่งรวมถึงการดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสม การรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และการปฏิบัติตามหลักจริยธรรมทางการแพทย์อื่นๆ
AI และจริยธรรม: การนำ AI มาใช้ในวงการแพทย์จึงต้องคำนึงถึงประเด็นทางจริยธรรม เช่น ความเป็นธรรม ความโปร่งใส และความรับผิดชอบ หาก AI ไม่สอดคล้องกับหลักจริยธรรมเหล่านี้ ก็จะส่งผลต่อการยอมรับของบุคลากรทางการแพทย์
ความไว้วางใจ: จริยธรรมเป็นพื้นฐานของความไว้วางใจ หากบุคลากรทางการแพทย์รู้สึกว่าการนำ AI มาใช้ขัดต่อหลักจริยธรรม ก็จะไม่ไว้วางใจและไม่ยอมรับเทคโนโลยีนี้ |
ทฤษฎีและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง:
จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี: เกี่ยวข้องกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบ
จริยธรรมในการดูแลสุขภาพ: เกี่ยวข้องกับหลักการทางจริยธรรมที่ใช้ในการดูแลผู้ป่วย เช่น การเคารพสิทธิของผู้ป่วย การไม่ทำอันตราย และการกระทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วย
ความไว้วางใจในเทคโนโลยี: ความไว้วางใจเป็นปัจจัยสำคัญในการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
10 |
What methodological approach did the article emphasize for future AI acceptability studies?
|
Considering user experience and system integration deeply |
|
การยอมรับเทคโนโลยี: การศึกษาเกี่ยวกับการยอมรับ AI ในวงการแพทย์มุ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อการยอมรับเทคโนโลยีใหม่นี้
ประสบการณ์ผู้ใช้: การออกแบบระบบ AI ที่คำนึงถึงประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มการยอมรับ โดยระบบควรใช้งานง่าย เข้าใจได้ และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้
การผสานรวมระบบ: การสามารถทำงานร่วมกับระบบงานเดิมๆ ที่มีอยู่เป็นปัจจัยสำคัญในการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ระบบ AI ที่สามารถทำงานร่วมกับระบบงานเดิมได้อย่างราบรื่นจะเพิ่มโอกาสในการใช้งาน |
ทฤษฎีและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง:
ทฤษฎีการยอมรับเทคโนโลยี (Technology Acceptance Model): อธิบายปัจจัยที่ส่งผลต่อการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ
การออกแบบที่มุ่งเน้นผู้ใช้ (User-Centered Design): เน้นการออกแบบระบบที่ตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้ใช้ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
11 |
What is the primary objective of using human embryonic stem cells in treating Parkinson’s disease?
|
To replace lost dopamine neurons. |
|
โรคพาร์กินสัน: เกิดจากการเสื่อมของเซลล์ประสาทที่สร้างสารโดปามีนในสมอง ซึ่งสารโดปามีนมีความสำคัญในการควบคุมการเคลื่อนไหว
เซลล์สเต็มเซลล์จากตัวอ่อน: มีศักยภาพในการพัฒนาไปเป็นเซลล์ประเภทต่างๆ รวมถึงเซลล์ประสาทโดปามีน
เป้าหมายการรักษา: การปลูกถ่ายเซลล์สเต็มเซลล์ที่พัฒนาเป็นเซลล์ประสาทโดปามีนเข้าไปในสมองของผู้ป่วย เพื่อทดแทนเซลล์ที่เสียไปและฟื้นฟูการทำงานของระบบประสาทส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหว |
ทฤษฎีและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง:
การรักษาด้วยเซลล์: เป็นการรักษาโรคโดยการใช้เซลล์ที่มีชีวิตเพื่อทดแทนเซลล์ที่เสียไปหรือทำงานผิดปกติ
การสร้างเซลล์ใหม่: การกระตุ้นให้เซลล์เดิมแบ่งตัวและสร้างเซลล์ใหม่ หรือการปลูกถ่ายเซลล์ใหม่เข้าไปในร่างกายเพื่อทดแทนเซลล์ที่เสียไป
การฟื้นฟูระบบประสาท: การใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อฟื้นฟูการทำงานของระบบประสาทที่เสียหาย |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
12 |
Which animal was used to test the STEM-PD product for safety and efficacy?
|
Rabbits |
|
ข้อจำกัดของข้อมูล: ข้อมูลที่ให้มาไม่เพียงพอในการระบุชนิดของสัตว์ที่ใช้ในการทดสอบผลิตภัณฑ์ STEM-PD โดยเฉพาะ เนื่องจาก:
ผลิตภัณฑ์ STEM-PD: ไม่ได้ระบุว่าผลิตภัณฑ์นี้คืออะไร มีองค์ประกอบอะไรบ้าง และมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างไร
การทดสอบ: ไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการออกแบบการทดสอบ ขั้นตอนการทดสอบ และเกณฑ์ในการประเมินผล
กฎระเบียบ: กฎระเบียบเกี่ยวกับการทดลองในสัตว์นั้นมีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับประเทศและชนิดของผลิตภัณฑ์ที่ทดสอบ |
ทฤษฎีและแนวคิดที่เกี่ยวข้อง:
หลักการ 3R: เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการลดการใช้สัตว์ในการทดลอง โดยมี 3 ประการหลักคือ
Replacement: หาทางเลือกอื่นที่ไม่ใช่สัตว์ในการทดลอง เช่น การใช้เซลล์ หรือแบบจำลองคอมพิวเตอร์
Reduction: ลดจำนวนสัตว์ที่ใช้ในการทดลองให้เหลือน้อยที่สุด
Refinement: ปรับปรุงวิธีการทดลองเพื่อลดความเจ็บปวดและความเครียดของสัตว์
จริยธรรมในการทดลองกับสัตว์: การทดลองกับสัตว์ต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบและต้องปฏิบัติตามหลักจริยธรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพของสัตว์ และการหลีกเลี่ยงการทรมานสัตว์ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
13 |
What was the duration of the preclinical safety study in rats mentioned in the article?
|
|
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
14 |
What is the name of the clinical trial phase mentioned for STEM-PD?
|
Phase I/IIa |
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
15 |
How is the STEM-PD product manufactured?
|
Under GMP-compliant conditions |
|
GMP (Good Manufacturing Practice): เป็นมาตรฐานการผลิตที่รับรองว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ สอดคล้องกับข้อกำหนดและมีความปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของมนุษย์
ผลิตภัณฑ์ STEM-PD: หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการรักษาหรือป้องกันโรค มีแนวโน้มสูงที่จะต้องผลิตภายใต้มาตรฐาน GMP เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์
ตัวเลือกอื่นๆ:
Spontaneous differentiation: เป็นกระบวนการที่เซลล์ต้นกำเนิดเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ชนิดอื่นๆ โดยธรรมชาติ กระบวนการนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิต ไม่ใช่กระบวนการผลิตโดยรวม
Non-GMP conditions: การผลิตภายใต้สภาวะที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน GMP มีความเสี่ยงสูงที่จะได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพไม่สม่ำเสมอ หรือปนเปื้อน ซึ่งไม่เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
Random integration: เป็นเทคนิคทางพันธุวิศวกรรมที่ใช้ในการแทรกยีนเข้าไปในจีโนมของเซลล์ ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิต แต่ไม่ได้บ่งบอกถึงสภาวะการผลิตโดยรวม
Without regulatory testing: การผลิตผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์โดยไม่มีการทดสอบตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและไม่ปลอดภัย |
แม้ว่าจะไม่สามารถระบุวิธีการผลิตผลิตภัณฑ์ STEM-PD ได้อย่างแน่ชัดจากตัวเลือกที่ให้มา แต่การผลิตภายใต้มาตรฐาน GMP เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย
หากต้องการทราบข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำเกี่ยวกับวิธีการผลิตผลิตภัณฑ์ STEM-PD ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น บทความวิชาการ, คู่มือการผลิต, หรือสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
16 |
According to the article, what confirmed the safety of the STEM-PD product in rats?
|
There was biodistribution of cells outside the brain. |
|
|
|
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
17 |
What key finding was noted in the efficacy study of STEM-PD in rats?
|
Transplanted cells reversed motor deficits in rats. |
|
STEM-PD: ย่อมาจาก Stem Cell Transplantation for Parkinson's Disease ซึ่งเป็นการรักษาโรคพาร์กินสันด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด
โรคพาร์กินสัน: เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับความเสื่อมของเซลล์ประสาทที่สร้างสารโดปามีน ทำให้เกิดอาการสั่น Tremor และความผิดปกติในการเคลื่อนไหว
วัตถุประสงค์ของการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด: เพื่อทดแทนเซลล์ประสาทที่ตายไป ทำให้เกิดการสร้างสารโดปามีนขึ้นมาใหม่ และบรรเทาอาการของโรคพาร์กินสัน |
ทฤษฎีและแนวคิดที่ใช้ในการอ้างอิง:
Neurogenesis: กระบวนการสร้างเซลล์ประสาทใหม่
Cell differentiation: กระบวนการที่เซลล์ต้นกำเนิดเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ชนิดอื่นๆ
Parkinson's disease pathology: กลไกการเกิดโรคพาร์กินสัน |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
18 |
What specific markers were used to assess the purity of the STEM-PD batch?
|
GIRK2 and ALDH1A1 |
|
STEM-PD: ย่อมาจาก Stem Cell Transplantation for Parkinson's Disease ซึ่งเป็นการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับรักษาโรคพาร์กินสัน
Marker: เป็นโปรตีนหรือโมเลกุลเฉพาะที่ใช้ในการระบุชนิดของเซลล์
GIRK2 และ ALDH1A1: เป็น marker ที่ใช้ในการระบุเซลล์ประสาทโดปามีนซึ่งเป็นเซลล์เป้าหมายในการปลูกถ่ายสำหรับรักษาโรคพาร์กินสัน
เหตุผลที่เลือก GIRK2 และ ALDH1A1:
GIRK2: เป็น potassium channel ที่พบเฉพาะในเซลล์ประสาทโดปามีน
ALDH1A1: เป็นเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสารโดปามีน
ดังนั้น การตรวจพบ GIRK2 และ ALDH1A1 ในปริมาณที่สูงใน batch ของ STEM-PD จึงบ่งชี้ว่าเซลล์ส่วนใหญ่ใน batch นั้นเป็นเซลล์ประสาทโดปามีน ซึ่งหมายความว่ามีความบริสุทธิ์สูง |
ทฤษฎีและแนวคิดที่ใช้ในการอ้างอิง:
เซลล์ต้นกำเนิด: เซลล์ที่มีความสามารถในการแบ่งตัวและเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ชนิดอื่นๆ
เซลล์ประสาทโดปามีน: เซลล์ประสาทชนิดหนึ่งที่สร้างสารโดปามีน
Marker: โปรตีนหรือโมเลกุลที่ใช้ในการระบุชนิดของเซลล์
Flow cytometry: เทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์เซลล์โดยอาศัย marker |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
19 |
What role do growth factors like FGF8b and SHH play in the manufacturing process of STEM-PD?
|
They are used in cell patterning for specific neural fates. |
|
STEM-PD: ย่อมาจาก Stem Cell Transplantation for Parkinson's Disease ซึ่งเป็นการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อรักษาโรคพาร์กินสัน
Growth factors: เป็นโปรตีนที่ส่งสัญญาณไปยังเซลล์เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของเซลล์
FGF8b และ SHH: เป็น growth factors ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาของระบบประสาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการกำหนดรูปแบบของเซลล์เพื่อให้ได้เซลล์ประสาทชนิดต่างๆ
เหตุผลที่เลือกคำตอบนี้:
การผลิต STEM-PD: ต้องการเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ประสาทโดปามีนได้ ซึ่งเป็นเซลล์ที่เสียหายในผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
FGF8b และ SHH: ช่วยในการกำหนดรูปแบบของเซลล์ต้นกำเนิดให้เปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ประสาทโดปามีนได้มากขึ้น
ตัวเลือกอื่นๆ: ไม่เกี่ยวข้องกับการกำหนดรูปแบบของเซลล์เพื่อให้ได้เซลล์ประสาทโดปามีนโดยตรง
การขยายความ:
ในการผลิต STEM-PD นักวิทยาศาสตร์จะนำเซลล์ต้นกำเนิดมาเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่มี growth factors เช่น FGF8b และ SHH เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ต้นกำเนิดเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ประสาทโดปามีน การใช้ growth factors ช่วยให้สามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ทำให้ได้เซลล์ประสาทโดปามีนที่มีคุณภาพสูงเหมาะสำหรับการปลูกถ่าย |
ทฤษฎีและแนวคิดที่ใช้ในการอ้างอิง:
Developmental biology: ชีววิทยาการพัฒนา
Neural induction: การกระตุ้นให้เซลล์เปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ประสาท
Signal transduction: การส่งสัญญาณภายในเซลล์
Cell differentiation: การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|
20 |
What was a key outcome measured in the preclinical trials for efficacy in rats?
|
Recovery of motor function |
|
STEM-PD: ย่อมาจาก Stem Cell Transplantation for Parkinson's Disease ซึ่งเป็นการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อรักษาโรคพาร์กินสัน
โรคพาร์กินสัน: เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับความเสื่อมของเซลล์ประสาทที่สร้างสารโดปามีน ทำให้เกิดอาการสั่น Tremor และความผิดปกติในการเคลื่อนไหว
วัตถุประสงค์ของการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด: เพื่อทดแทนเซลล์ประสาทที่ตายไป ทำให้เกิดการสร้างสารโดปามีนขึ้นมาใหม่ และบรรเทาอาการของโรคพาร์กินสัน
เหตุผลที่เลือกคำตอบนี้:
การฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อ: เป็นอาการหลักที่ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันต้องการการรักษา ดังนั้น การวัดการฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อจึงเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพของการรักษาที่สำคัญที่สุด
ตัวเลือกอื่นๆ: ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับอาการหลักของโรคพาร์กินสัน หรือไม่น่าจะเป็นผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิด
การขยายความ:
ในการทดลองก่อนคลินิก นักวิจัยมักจะสร้างแบบจำลองโรคพาร์กินสันในหนู แล้วทำการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด หลังจากนั้นจะทำการสังเกตและวัดพฤติกรรมต่างๆ ของหนู เช่น การเคลื่อนไหว การทรงตัว และความแข็งของกล้ามเนื้อ เพื่อประเมินว่าการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดสามารถช่วยฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อได้หรือไม่ |
ทฤษฎีและแนวคิดที่ใช้ในการอ้างอิง:
Neurodegeneration: การเสื่อมของเซลล์ประสาท
Dopamine: โดปามีน (สารสื่อประสาท)
Motor function: การทำงานของกล้ามเนื้อ |
7 |
-.50
-.25
+.25
เต็ม
0
-35%
+30%
+35%
|