ตรวจข้อสอบ > ฉัตรธิดา เพิ่มพูล > ความถนัดคณิตศาสตร์เชิงวิศวกรรมศาสตร์ | Engineering Mathematics Aptitude > Part 2 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 26 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


Which factor is considered a major driver of land cover change contributing to landslides in the Chattogram District?

Hill cutting and unplanned urbanization

การตัดภูเขาและการพัฒนาเมืองที่ไม่ได้วางแผนเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินซึ่งส่งผลให้เกิดการเกิดดินถล่มในเขต Chattogram การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ความเสถียรของดินลดลงและเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดดินถล่ม 1. *Hill Cutting And Unplanned Urbanization*: - *Concept*: การตัดภูเขาและการพัฒนาเมืองที่ไม่ได้วางแผนจะทำให้โครงสร้างดินถูกทำลายและความเสถียรของพื้นที่ลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดดินถล่มได้ - *Impact*: การตัดภูเขาส่งผลให้ดินเสื่อมสภาพและลดความเสถียร ขณะที่การพัฒนาเมืองที่ไม่ได้วางแผนสามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดดินถล่มได้ โดยการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินและการสร้างโครงสร้างที่ไม่มั่นคง ### การเปรียบเทียบกับปัจจัยอื่น - *Heavy Snowfall*: ไม่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินในเขต Chattogram ซึ่งมีภูมิอากาศที่อบอุ่น - *Volcanic Activity*: ไม่มีการปะทุของภูเขาไฟในเขต Chattogram - *Coastal Erosion*: เป็นปัจจัยที่สำคัญในพื้นที่ชายฝั่ง แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลักในเขต Chattogram ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดดินถล่ม - *Large-Scale Deforestation For Agriculture Only*: การตัดไม้ทำลายป่าเพื่อการเกษตรมีผลกระทบ แต่การตัดภูเขาและการพัฒนาเมืองที่ไม่ได้วางแผนเป็นปัจจัยหลักในเขตนี้ ### ทำไมต้องเลือก Hill Cutting And Unplanned Urbanization - *Primary Driver*: เป็นปัจจัยหลักที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินและความเสี่ยงของการเกิดดินถล่มในเขต Chattogram - *Local Context*: ความเสี่ยงของการเกิดดินถล่มในเขตนี้มีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินที่เกี่ยวข้องกับการตัดภูเขาและการพัฒนาเมือง ดังนั้น "Hill Cutting And Unplanned Urbanization" เป็นปัจจัยที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินที่ส่งผลให้เกิดการเกิดดินถล่มในเขต Chattogram. 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


What does the ROC value for a model indicate in the context of this study?

The accuracy of the model in predicting landslide susceptibility

ค่า ROC (Receiver Operating Characteristic) ในการศึกษาเกี่ยวกับความเสี่ยงดินถล่มใช้เพื่อวัดความแม่นยำของโมเดลในการคาดการณ์ความเสี่ยงของการเกิดดินถล่ม ค่านี้บ่งบอกถึงความสามารถของโมเดลในการแยกแยะระหว่างพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงและต่ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1. *ROC Curve*: - *Concept*: ROC Curve เป็นกราฟที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง True Positive Rate (TPR) และ False Positive Rate (FPR) ของโมเดล การวัดนี้ช่วยในการประเมินความสามารถของโมเดลในการจำแนกประเภท - *Application*: ค่า ROC และ AUC (Area Under the Curve) ช่วยในการประเมินความแม่นยำของโมเดลในการทำนายความเสี่ยงของการเกิดดินถล่ม - *Benefit*: ค่า ROC ที่สูงหมายถึงโมเดลสามารถจำแนกพื้นที่ที่มีความเสี่ยงได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการวิเคราะห์ความเสี่ยงและการจัดการ ### การเปรียบเทียบกับตัวเลือกอื่น - *The Cost-Effectiveness Of The Model*: ค่า ROC ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความคุ้มค่าในการใช้จ่ายของโมเดล - *The Correlation Between Different Models*: ค่า ROC ไม่ได้วัดความสัมพันธ์ระหว่างโมเดล แต่เป็นการวัดความแม่นยำของโมเดลเดียว - *The Environmental Impact Of Landslides*: ค่า ROC ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม - *The Geographic Spread Of Landslides*: ค่า ROC ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระจายทางภูมิศาสตร์ของดินถล่ม ### ทำไมต้องเลือก The Accuracy Of The Model In Predicting Landslide Susceptibility - *Primary Use*: ค่า ROC ถูกใช้เพื่อวัดความแม่นยำของโมเดลในการทำนายความเสี่ยงของการเกิดดินถล่ม โดยการแสดงถึงความสามารถในการแยกแยะระหว่างพื้นที่เสี่ยงสูงและต่ำ ดังนั้น "The Accuracy Of The Model In Predicting Landslide Susceptibility" เป็นสิ่งที่ค่า ROC บ่งบอกในบริบทของการศึกษา. 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


According to the study, what percentage of the Chattogram District's area is highly susceptible to landslides?

25-30%

ตามการศึกษา, ประมาณ 25-30% ของพื้นที่ในเขต Chattogram มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดดินถล่ม ข้อมูลนี้บ่งชี้ว่าพื้นที่จำนวนมากในเขตนี้มีความเสี่ยงสูงและต้องการการจัดการความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด 1. *Landslide Susceptibility*: - *Concept*: การประเมินความเสี่ยงดินถล่มช่วยในการระบุพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงและการจัดการป้องกันเพื่อบรรเทาผลกระทบ - *Application*: การรู้เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงช่วยในการวางแผนและการตัดสินใจเพื่อการจัดการและป้องกัน - *Benefit*: การระบุพื้นที่เสี่ยงสูงทำให้สามารถเน้นการป้องกันในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงมากที่สุด ### ทำไมต้องเลือก 25-30% - *Prevalence*: ข้อมูลจากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงมีอยู่ในช่วง 25-30% ซึ่งบ่งบอกถึงความต้องการในการจัดการและการป้องกันที่มีประสิทธิภาพในเขตนี้ ดังนั้น "25-30%" เป็นเปอร์เซ็นต์ที่ถูกต้องของพื้นที่ในเขต Chattogram ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดดินถล่มตามข้อมูลจากการศึกษา. 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


How are the logistic regression model's coefficients used in landslide susceptibility mapping?

To reflect the contributions of each factor affecting landslides

ในโมเดลการถดถอยเชิงลอจิสติก (Logistic Regression) สำหรับการจัดทำแผนที่ความเสี่ยงดินถล่ม, ค่าสัมประสิทธิ์ของโมเดลจะสะท้อนถึงการมีส่วนร่วมของแต่ละปัจจัยที่มีผลต่อความเสี่ยงของการเกิดดินถล่ม ค่าสัมประสิทธิ์เหล่านี้ช่วยในการประเมินว่าปัจจัยแต่ละตัวมีผลอย่างไรต่อความน่าจะเป็นของการเกิดดินถล่ม 1. *Logistic Regression Coefficients*: - *Concept*: ในโมเดลการถดถอยเชิงลอจิสติก, ค่าสัมประสิทธิ์ (coefficients) ของแต่ละปัจจัยจะบ่งบอกถึงอิทธิพลของปัจจัยนั้นๆ ต่อความน่าจะเป็นของการเกิดเหตุการณ์ (ในกรณีนี้คือการเกิดดินถล่ม) - *Application*: ค่าสัมประสิทธิ์จะช่วยให้ทราบว่าปัจจัยใดมีความสำคัญมากที่สุดและปัจจัยใดมีผลน้อยที่สุดต่อความเสี่ยงของการเกิดดินถล่ม - *Benefit*: การเข้าใจว่าปัจจัยไหนมีผลมากหรือน้อยช่วยในการจัดการและการวางแผนเพื่อป้องกันการเกิดดินถล่ม ### การเปรียบเทียบกับตัวเลือกอื่น - *To Determine The Cost Of Land*: ค่าสัมประสิทธิ์ของโมเดลการถดถอยเชิงลอจิสติกไม่ได้ใช้ในการคำนวณต้นทุนที่ดิน - *To Assess The Environmental Impact*: โมเดลการถดถอยเชิงลอจิสติกไม่ได้ใช้ในการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม - *To Calculate The Exact Time Of Landslide Occurrence*: โมเดลนี้ไม่ได้ใช้ในการคำนวณเวลาที่แน่นอนของการเกิดดินถล่ม - *To Measure The Depth Of Landslides*: โมเดลการถดถอยเชิงลอจิสติกไม่ได้ใช้ในการวัดความลึกของดินถล่ม ### ทำไมต้องเลือก To Reflect The Contributions Of Each Factor Affecting Landslides - *Primary Use*: การใช้ค่าสัมประสิทธิ์ในโมเดลการถดถอยเชิงลอจิสติกเพื่อสะท้อนการมีส่วนร่วมของแต่ละปัจจัยในการคาดการณ์ความเสี่ยงดินถล่มเป็นวิธีที่สำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูลและประเมินความเสี่ยง ดังนั้น "To Reflect The Contributions Of Each Factor Affecting Landslides" เป็นวิธีการที่ถูกต้องในการใช้ค่าสัมประสิทธิ์ของโมเดลการถดถอยเชิงลอจิสติกในการจัดทำแผนที่ความเสี่ยงดินถล่ม. 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


What is the importance of the Stream Density factor according to the Random Forest model in the document?

One of the top five most important factors

ตามเอกสาร, ปัจจัยความหนาแน่นของลำธาร (Stream Density) ถือเป็นหนึ่งในห้าปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการคาดการณ์การเกิดดินถล่มตามโมเดล Random Forest ปัจจัยนี้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดความเสี่ยงของการเกิดดินถล่มในพื้นที่ที่ศึกษา 1. *Stream Density in Random Forest*: - *Concept*: ความหนาแน่นของลำธารหมายถึงจำนวนลำธารที่มีอยู่ในพื้นที่ต่อหน่วยพื้นที่ ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อความเสี่ยงของการเกิดดินถล่มได้ - *Importance*: โมเดล Random Forest ใช้การวิเคราะห์ความสำคัญของปัจจัยเพื่อประเมินว่าปัจจัยไหนมีผลกระทบมากที่สุดต่อการเกิดดินถล่ม และความหนาแน่นของลำธารถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลัก 2. *Model Analysis*: - *Application*: การวิเคราะห์ด้วย Random Forest ช่วยในการระบุปัจจัยที่สำคัญในการคาดการณ์ความเสี่ยงดินถล่ม - *Benefit*: การเข้าใจความสำคัญของแต่ละปัจจัยช่วยในการจัดการและการวางแผนการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ ### การเปรียบเทียบกับตัวเลือกอื่น - *Negligible Impact On Landslide Occurrences*: ความหนาแน่นของลำธารมีความสำคัญในระดับสูง ไม่ใช่ผลกระทบที่ไม่สำคัญ - *Moderate Importance Compared To Other Factors*: ความหนาแน่นของลำธารถือเป็นหนึ่งในห้าปัจจัยที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่ความสำคัญระดับกลาง - *The Least Important Among The Listed Factors*: ความหนาแน่นของลำธารมีความสำคัญมากกว่าการเป็นปัจจัยที่น้อยที่สุด - *Not Mentioned As A Factor*: ปัจจัยนี้มีการกล่าวถึงในเอกสารและได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ### ทำไมต้องเลือก One Of The Top Five Most Important Factors - *Significance*: ปัจจัยความหนาแน่นของลำธารถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในห้าปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการคาดการณ์การเกิดดินถล่มตามโมเดล Random Forest ดังนั้น "One Of The Top Five Most Important Factors" เป็นคำตอบที่ถูกต้องสำหรับความสำคัญของปัจจัยความหนาแน่นของลำธารตามโมเดล Random Forest ในเอกสาร. 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


According to the document, which machine learning model showed the highest success rate in training data?

Random Forest

ตามเอกสาร, โมเดล Random Forest แสดงอัตราความสำเร็จที่สูงที่สุดในข้อมูลการฝึกอบรม (training data) เมื่อเปรียบเทียบกับโมเดลอื่น ๆ เช่น Logistic Regression และ Decision and Regression Tree 1. *Random Forest Model*: - *Concept*: Random Forest เป็นโมเดลการเรียนรู้ของเครื่องที่ใช้การสร้างหลายต้นไม้การตัดสินใจและการรวมผลลัพธ์เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดการเกิด overfitting - *Performance*: โมเดลนี้มักจะมีความแม่นยำสูงในการจัดการกับข้อมูลที่มีความซับซ้อนและหลายมิติ ซึ่งช่วยให้ได้อัตราความสำเร็จที่สูงในข้อมูลการฝึกอบรม 2. *Comparison with Other Models*: - *Logistic Regression*: อาจมีความแม่นยำน้อยกว่าในกรณีที่มีความซับซ้อนสูง - *Decision and Regression Tree*: แม้จะมีความแม่นยำดี แต่การเรียนรู้ของเครื่องแบบต้นไม้การตัดสินใจอาจมีปัญหาเรื่อง overfitting มากกว่าการใช้ Random Forest ### ทำไมต้องเลือก Random Forest - *Highest Success Rate*: โมเดล Random Forest แสดงผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในแง่ของอัตราความสำเร็จในการฝึกอบรมข้อมูลตามข้อมูลจากเอกสาร ดังนั้น "Random Forest" เป็นโมเดลที่แสดงอัตราความสำเร็จสูงสุดในข้อมูลการฝึกอบรมตามข้อมูลในเอกสาร. 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


What is the primary geological characteristic of the Chattogram District that contributes to landslide susceptibility?

Folded anticlines and synclines with unconsolidated sedimentary rocks

เขต Chattogram ของบังคลาเทศมีลักษณะธรณีวิทยาที่สำคัญคือการมีแนวภูเขาที่เป็นคลื่น (anticlines และ synclines) และมีหินตะกอนที่ไม่ได้ถูกบีบอัดอย่างแน่นหนา ซึ่งลักษณะธรณีวิทยานี้ทำให้พื้นที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดดินถล่ม เนื่องจากหินตะกอนที่ไม่แข็งแรงมีแนวโน้มที่จะเลื่อนไหลได้ง่ายเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม เช่น ฝนตกหนัก การเลื่อนไหลของดินมักเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีการสะสมของหินตะกอนที่ไม่มั่นคงและมีโครงสร้างธรณีวิทยาที่อ่อนไหวต่อการเคลื่อนตัว เมื่อพื้นที่นี้มีการเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อม เช่น ฝนตกหนัก ดินและหินที่ไม่มั่นคงจะเลื่อนไหลได้ง่าย ลักษณะธรณีวิทยาที่มีแนวภูเขาคลื่น (anticlines และ synclines) จะเพิ่มความซับซ้อนและความเสี่ยงในการเกิดดินถล่ม 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


How do land use and land cover (LULC) changes influence landslide occurrences in the Chattogram District?

They increase landslide risk due to deforestation and construction

ในเขต Chattogram การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินและการปกคลุมพื้นที่ (LULC) มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความเสี่ยงในการเกิดดินถล่ม เนื่องจากการตัดไม้ทำลายป่าและการก่อสร้างทำให้ดินสูญเสียความมั่นคงและเสถียรภาพ การตัดต้นไม้ทำให้ไม่มีระบบรากที่ช่วยยึดดินให้มั่นคง การก่อสร้างโดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นเนินเขายังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดดินถล่มเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างพื้นผิวดิน การเปลี่ยนแปลง LULC ที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่าและการก่อสร้างเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดดินถล่ม พืชพันธุ์ธรรมชาติ เช่น ต้นไม้และพืชคลุมดิน มีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของดิน โดยรากของพืชช่วยยึดดินและลดการกัดเซาะ การตัดไม้ทำลายป่าทำให้ดินสูญเสียการปกคลุมจากพืช ทำให้ดินอ่อนตัวและเสี่ยงต่อการถล่มมากขึ้น นอกจากนี้การก่อสร้างที่ไม่มีการวางแผนหรือควบคุมที่ดีจะทำให้โครงสร้างดินเปลี่ยนแปลงและเสถียรภาพลดลง ส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดดินถล่มเพิ่มขึ้น 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


What percentage of total variance is explained by the first factor in the factor analysis discussed in the document?

51.29%

ในการวิเคราะห์ปัจจัย (Factor Analysis) ที่กล่าวถึงในเอกสาร, ปัจจัยแรกอธิบายความแปรผันทั้งหมดได้ 51.29% ซึ่งหมายถึงว่าปัจจัยแรกมีบทบาทสำคัญในการอธิบายความแปรผันในข้อมูลที่ศึกษา 1. *Factor Analysis*: - *Concept*: การวิเคราะห์ปัจจัยใช้เพื่อระบุและลดความซับซ้อนของข้อมูลโดยการค้นหาปัจจัยที่สำคัญซึ่งสามารถอธิบายความแปรผันในข้อมูล - *Importance*: ปัจจัยแรกมักจะอธิบายความแปรผันที่มากที่สุดในข้อมูล ซึ่งช่วยในการระบุปัจจัยที่สำคัญที่สุด 2. *Variance Explained*: - *Concept*: เปอร์เซ็นต์ของความแปรผันที่อธิบายโดยปัจจัยแรกเป็นตัวบ่งบอกว่าปัจจัยนั้นมีความสำคัญมากเพียงใดในข้อมูล - *Benefit*: การรู้เปอร์เซ็นต์ของความแปรผันที่อธิบายโดยปัจจัยแรกช่วยในการทำความเข้าใจว่าปัจจัยนั้นมีบทบาทสำคัญในการอธิบายข้อมูลอย่างไร ### การเปรียบเทียบกับตัวเลือกอื่น - *9.05%*: น้อยเกินไปสำหรับปัจจัยแรกที่จะอธิบายความแปรผัน - *13.44%*: ยังน้อยเกินไปสำหรับปัจจัยแรก - *19.06%*: ยังไม่เพียงพอที่จะเป็นปัจจัยแรก - *32.496%*: มีความสำคัญ แต่ไม่สูงพอสำหรับปัจจัยแรก ### ทำไมต้องเลือก 51.29% - *Significance*: ค่า 51.29% แสดงถึงความสำคัญของปัจจัยแรกในการอธิบายความแปรผันในข้อมูล ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้องตามการศึกษา ดังนั้น "51.29%" เป็นเปอร์เซ็นต์ของความแปรผันที่อธิบายโดยปัจจัยแรกในการวิเคราะห์ปัจจัยตามข้อมูลในเอกสาร. 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


According to the factor analysis, which factor is related to the cost and sufficiency of manure?

Factor 3: Correlation between manure sufficiency and expenses (cost)

Factor 3 ระบุถึงความสัมพันธ์ระหว่างความเพียงพอของปุ๋ยคอกและค่าใช้จ่าย ซึ่งตรงกับคำถามที่ถามถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนและความเพียงพอของปุ๋ยคอก การวิเคราะห์ปัจจัย (factor analysis) เป็นวิธีการทางสถิติที่ใช้เพื่อระบุความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรหลายตัว โดยจัดกลุ่มตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กันให้อยู่ในปัจจัยเดียวกัน ในกรณีนี้ Factor 3 ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับความเพียงพอของปุ๋ยคอกและค่าใช้จ่าย ดังนั้นคำตอบที่ถูกต้องคือ Factor 3 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


According to the factor analysis, which factor is related to the cost and sufficiency of manure?

Factor 3: Correlation between manure sufficiency and expenses (cost)

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนและความเพียงพอของปุ๋ยคอกคือปัจจัยที่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับความเพียงพอของปุ๋ยคอกและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง Factor 3 กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างความเพียงพอของปุ๋ยคอกและค่าใช้จ่าย ดังนั้นจึงเป็นปัจจัยที่ตรงตามคำถามที่เกี่ยวกับต้นทุนและความเพียงพอของปุ๋ยคอก ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องคือทฤษฎีการวิเคราะห์ปัจจัย (Factor Analysis) ซึ่งใช้ในการระบุความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ และการสรุปกลุ่มของตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กัน ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายและความเพียงพอของปุ๋ยคอกนั้นจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยเหล่านี้อย่างชัดเจน 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


What is the Kaiser-Meyer-Olkin (KMO) measure of sampling adequacy reported in the document?

None of the above

เนื่องจากไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนในคำถามที่ให้มา ดังนั้นการเลือก "None of the above" จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเมื่อเราไม่สามารถยืนยันค่าที่ถูกต้องได้ เมื่อไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะยืนยันคำตอบที่ถูกต้องจากตัวเลือกที่ให้มา เราควรเลือกคำตอบที่แสดงถึงการขาดข้อมูลที่เพียงพอ เพื่อหลีกเลี่ยงการคาดเดาหรือการให้ข้อมูลที่อาจไม่ถูกต้อง 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


Which of the following statements best describes the contribution of Factor 2 in the factor analysis?

It is related to soil analysis and plant nutrient utilization.

Factor 2 เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ดินและการใช้ประโยชน์จากสารอาหารของพืช ซึ่งตรงตามคำบรรยายของปัจจัยนี้ในข้อที่ระบุ นี่คือปัจจัยที่เน้นการวิเคราะห์ดินและการจัดการสารอาหารของพืช ซึ่งเป็นสิ่งที่ Factor 2 อธิบายอยู่ การวิเคราะห์ปัจจัย (Factor Analysis) เป็นเทคนิคที่ใช้ในการลดมิติของข้อมูลและระบุความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ โดยจัดกลุ่มตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กัน ปัจจัยแต่ละตัวแปรจะมีความสำคัญแตกต่างกันในการอธิบายความแปรผันของข้อมูลทั้งหมด ในกรณีนี้ Factor 2 ช่วยอธิบายความแปรผันที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ดินและสารอาหารของพืช โดยแยกจากแง่มุมอื่นๆ เช่น การจัดการปุ๋ยคอกหรือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


Which factor is primarily associated with limitations in the utilization of chemical fertilizer and manure according to the document?

Factor 4

Factor 4 ถูกระบุว่าเกี่ยวข้องกับข้อจำกัดในการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยคอก ซึ่งหมายความว่าปัจจัยนี้จะอธิบายถึงปัญหาและอุปสรรคในการใช้งานปุ๋ยเคมีและปุ๋ยคอกในกระบวนการเกษตร การวิเคราะห์ปัจจัย (Factor Analysis) ใช้ในการระบุและกลุ่มตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กันเพื่อให้เข้าใจความซับซ้อนของข้อมูล ปัจจัยที่ได้จะช่วยให้เข้าใจองค์ประกอบหลักที่ส่งผลต่อการแปรผันของข้อมูล โดยในกรณีนี้ Factor 4 อธิบายข้อจำกัดหรืออุปสรรคในการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยคอก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการวิเคราะห์ปัญหาและการจัดการในการใช้ปุ๋ยในภาคการเกษตร 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


What is the percentage of variance explained by all four factors together?

60%

เปอร์เซ็นต์ของความแปรผันที่อธิบายโดยปัจจัยทั้งหมดรวมกัน (หรือที่เรียกว่าการอธิบายความแปรผันรวม) คือค่ารวมของการแปรผันที่แต่ละปัจจัยอธิบายร่วมกัน เมื่อรวมกันแล้ว ปัจจัยทั้งหมดจะต้องอธิบายความแปรผันในข้อมูลทั้งหมดที่นำมาวิเคราะห์ การเลือกคำตอบ 60% หมายความว่าเมื่อรวมปัจจัยทั้งหมดเข้าด้วยกัน สามารถอธิบายความแปรผันของข้อมูลได้ 60% การวิเคราะห์ปัจจัย (Factor Analysis) ใช้เพื่อค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรและลดมิติของข้อมูล ปัจจัยแต่ละตัวอธิบายเปอร์เซ็นต์ของความแปรผันในข้อมูลรวมกัน โดยปัจจัยทั้งหมดควรรวมกันเพื่ออธิบายความแปรผันรวมของข้อมูล เปอร์เซ็นต์นี้จะบอกว่าองค์ประกอบของปัจจัยทั้งหมดสามารถอธิบายความแปรผันของข้อมูลได้มากน้อยเพียงใด การที่ปัจจัยทั้งหมดอธิบายความแปรผันได้ 60% หมายความว่าปัจจัยที่ได้ครอบคลุมความแปรผันหลักของข้อมูล ซึ่งช่วยให้เข้าใจข้อมูลได้ดีขึ้น 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


What is the highest mean value for the propositions used in the factor analysis, according to the document?

3.000

ค่าเฉลี่ย (mean) ที่สูงที่สุดในตัวเลือกที่ให้มาคือ 3.000 ซึ่งเป็นค่าที่มากที่สุดในชุดข้อมูลนี้ ในการวิเคราะห์ปัจจัย (Factor Analysis) การตรวจสอบค่าเฉลี่ยของข้อเสนอที่ใช้ในการวิเคราะห์ช่วยให้เข้าใจข้อมูลได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของแต่ละข้อเสนอเพื่อหาแนวโน้มที่มีความสำคัญที่สุด ค่าที่สูงที่สุดในชุดตัวเลือกบ่งบอกถึงค่าเฉลี่ยสูงสุดของข้อเสนอที่ได้รับการวัดและวิเคราะห์ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


What was the minimum magnitude for the factor loads considered for interpreting the analysis results in the factor analysis?

0.30

ในการวิเคราะห์ปัจจัย (Factor Analysis) ขอบเขตของมูลค่าการโหลดปัจจัย (factor loadings) ที่ใช้ในการตีความผลลัพธ์มักจะถูกกำหนดเพื่อให้มีความสำคัญพอสมควรและสามารถแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างตัวแปรและปัจจัย ค่าโหลดปัจจัยขั้นต่ำที่ใช้ในการตีความมักจะอยู่ที่ประมาณ 0.30 เพื่อให้แน่ใจว่ามีความสัมพันธ์ที่มีนัยสำคัญระหว่างตัวแปรและปัจจัย การโหลดปัจจัย (factor loading) เป็นการวัดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรและปัจจัยที่ได้จากการวิเคราะห์ ปัจจัยที่มีค่าการโหลดปัจจัยต่ำกว่าขอบเขตที่กำหนดมักจะถูกมองข้ามในการตีความเพื่อหลีกเลี่ยงการตีความที่ไม่ชัดเจนหรือไม่สำคัญ ค่าโหลดปัจจัยที่ต่ำเกินไปอาจหมายความว่าตัวแปรนั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่สำคัญกับปัจจัยที่ศึกษา 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


According to the document, how many factors were initially considered before deciding on the final number?

5

ตามเอกสารที่กล่าวถึง จำนวนปัจจัยที่พิจารณาในเบื้องต้นก่อนที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับจำนวนปัจจัยสุดท้ายคือ 5 ปัจจัย ในการวิเคราะห์ปัจจัย (Factor Analysis) ขั้นตอนเริ่มต้นมักจะรวมถึงการพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อวิเคราะห์และประเมินว่าแต่ละปัจจัยมีความสัมพันธ์อย่างไรกับข้อมูล หลังจากนั้นจะมีการตัดสินใจเลือกจำนวนปัจจัยสุดท้ายที่เหมาะสมที่สุดตามหลักการและผลลัพธ์ที่ได้รับ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


Which method was used for rotation in the factor analysis described in the document?

Varimax

Varimax เป็นวิธีการหมุนปัจจัยที่ใช้ในวิเคราะห์ปัจจัยเพื่อให้ได้การหมุนที่ทำให้ปัจจัยมีความชัดเจนที่สุด โดยการหมุนนี้จะช่วยให้ปัจจัยที่ได้มีความแตกต่างกันชัดเจนมากขึ้นและสะดวกในการตีความ การหมุนปัจจัย (factor rotation) เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการวิเคราะห์ปัจจัยเพื่อปรับปรุงความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างของปัจจัยที่ได้ Varimax เป็นวิธีการหมุนที่นิยมใช้เพื่อให้ปัจจัยแต่ละตัวมีโหลดปัจจัยสูงในตัวแปรบางตัวและโหลดต่ำในตัวแปรอื่น ๆ ซึ่งช่วยให้การตีความปัจจัยง่ายขึ้น 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


Based on the factor analysis, how is Factor 1 defined in the document?

7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 85.75 เต็ม 140

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา