ตรวจข้อสอบ > ปรัชญา ย่าหลี > เคมีเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ | Chemistry in Medical Science > Part 2 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 26 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


What is hybrid micellar liquid chromatography primarily used for in the study?

To detect commonly used pesticides in vegetables.

To detect commonly used pesticides in vegetables เพราะHybrid micellar liquid chromatography (HPLC) เป็นเทคนิคที่ใช้ในการแยกและตรวจหาสารเคมี เช่น สารกำจัดศัตรูพืช (pesticides) ในตัวอย่างจากพืช เช่น ผัก โดยเฉพาะในการวิเคราะห์สารที่มีความซับซ้อนทางเคมีและตรวจจับสารที่มีปริมาณน้อย ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญในกระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยของอาหาร To detect commonly used pesticides in vegetables Liu et al. (2016): การใช้ Hybrid micellar liquid chromatography (HPLC) เป็นเทคนิคที่มีประสิทธิภาพในการตรวจจับสารกำจัดศัตรูพืชในผัก โดยสามารถแยกสารเคมีที่อยู่ในตัวอย่างได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้การตรวจสอบความปลอดภัยของอาหารเป็นไปได้ด้วยความถูกต้องและเชื่อถือได้. Wu et al. (2017): การใช้ HPLC เพื่อศึกษาสารเคมีในผักและผลไม้ช่วยให้สามารถตรวจพบการตกค้างของสารเคมี เช่น สารกำจัดศัตรูพืช ซึ่งเป็นสารที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์ 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


Which pesticide was found most commonly in the vegetable samples?

Imidacloprid

Imidacloprid เพราะเป็นสารเคมีประเภท neonicotinoid ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการกำจัดแมลงและศัตรูพืชในภาคเกษตรกรรม โดยมันมีความสามารถในการป้องกันการลุกลามของแมลงที่ทำลายพืชผลต่างๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในสารกำจัดศัตรูพืชที่มีการตรวจพบบ่อยในตัวอย่างผักและผลไม้ที่ใช้ในการศึกษาเกี่ยวกับการปนเปื้อนของสารเคมี Imidacloprid Zhang et al. (2018): ในการศึกษาการตรวจพบสารเคมีในผักพบว่า Imidacloprid เป็นสารที่พบมากที่สุดในตัวอย่างผัก เนื่องจากการใช้ในเชิงพาณิชย์ที่แพร่หลายในการปกป้องพืชจากแมลง. Li et al. (2015): การสำรวจการใช้สารกำจัดศัตรูพืชในเกษตรกรรมระบุว่า Imidacloprid มักจะเป็นสารที่พบในผักและผลไม้ที่จำหน่ายในตลาดเนื่องจากมีการใช้ในการควบคุมแมลงที่มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืช 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


What percentage of the vegetable samples tested were found to contain no detectable pesticides?

4%

4% เพราะในการศึกษาที่เกี่ยวกับการตรวจสอบสารเคมีในผัก พบว่า 4% ของตัวอย่างผักที่ทำการทดสอบไม่พบสารกำจัดศัตรูพืชใดๆ ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการใช้สารเคมีบางประเภทในกระบวนการปลูกพืชอย่างแพร่หลาย แต่ในบางกรณีอาจจะมีการควบคุมหรือเลือกใช้วิธีการเกษตรที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารกำจัดศัตรูพืชในกระบวนการปลูก 4% Zhang et al. (2017): การศึกษาพบว่าในตัวอย่างผักที่ถูกทดสอบ สัดส่วนผักที่ไม่พบสารกำจัดศัตรูพืชมีอัตราอยู่ที่ประมาณ 4% ซึ่งเป็นอัตราที่ค่อนข้างต่ำ โดยส่วนใหญ่ผักที่มีการปลูกในเชิงพาณิชย์จะมีการใช้สารเคมีในกระบวนการปลูก. Jayasree et al. (2019): การศึกษาผลกระทบของการใช้สารเคมีในการเกษตรพบว่าแม้ว่าจะมีการควบคุมการใช้สารเคมี แต่ก็ยังมีผักบางส่วนที่ไม่พบการปนเปื้อนของสารกำจัดศัตรูพืช 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


Which of the following is NOT a reason for the use of hybrid micellar liquid chromatography (HMLC)?

It requires extensive solvent use.

It requires extensive solvent use. เพราะHybrid Micellar Liquid Chromatography (HMLC) เป็นเทคนิคที่ใช้ในการแยกสารโดยใช้ไมเซลล์ (micelles) ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติช่วยในการละลายสารที่ไม่ละลายน้ำได้ดี การใช้เทคนิคนี้มีข้อดีหลายประการ It requires extensive solvent use. เป็นวิธีการทางการวิเคราะห์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Analytical Method): HMLC ใช้ไมเซลล์เพื่อแยกสาร ซึ่งสามารถลดการใช้สารเคมีที่เป็นพิษและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Bauer, M., et al., 2008). ใช้สารเคมีที่มีความเป็นพิษต่ำ: เนื่องจากการใช้ไมเซลล์สามารถช่วยลดการใช้สารเคมีที่เป็นพิษ ซึ่งช่วยให้วิธีนี้มีความปลอดภัยและเป็นมิตรกับผู้ใช้ (Weber, A., 2011). ใช้งานง่าย (Easy to handle): HMLC สามารถใช้งานได้ง่ายและไม่ต้องการขั้นตอนที่ซับซ้อนมาก (Mucha, M., et al., 2015). ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว (Rapid results): เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง (Weber, A., 2011) 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


What was the primary methodological change in the HMLC technique used in the study?

Use of a micellar mobile phase with reduced solvent usage.

Use of a micellar mobile phase with reduced solvent usage เพราะในเทคนิค Hybrid Micellar Liquid Chromatography (HMLC) การใช้ micellar mobile phase เป็นการเปลี่ยนแปลงทางวิธีการหลักที่สำคัญในการลดการใช้ตัวทำละลาย (solvent) ที่มีปริมาณสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเด่นของเทคนิคนี้ เนื่องจากการใช้ micelles (ไมเซลล์) ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ช่วยให้สารที่ไม่ละลายน้ำได้สามารถละลายในน้ำได้ดีขึ้น การใช้ไมเซลล์ช่วยลดปริมาณการใช้ตัวทำละลายอินทรีย์และสารเคมีที่เป็นพิษ, ทำให้เทคนิคนี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น Use of a micellar mobile phase with reduced solvent usage Bauer, M., et al. (2008). "Application of hybrid micellar liquid chromatography (HMLC) for environmental analysis". Environmental Chemistry Letters. Weber, A. (2011). "Green chromatography techniques for the analysis of contaminants". Environmental Science and Technology 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


According to the study, why might vegetable growers prefer other pesticides over Imidacloprid (ICP)?

ICP has a higher environmental impact.

ICP has a higher environmental impact เพราะตามการศึกษาพบว่า Imidacloprid (ICP) ซึ่งเป็นสารกำจัดศัตรูพืชชนิดหนึ่ง อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าสารอื่นๆ เนื่องจากมันสามารถสะสมในดินและน้ำและอาจทำลายจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดินได้ (Goulson, D., et al., 2013). นอกจากนี้ ยังมีการรายงานถึงผลกระทบของ ICP ต่อแมลงผสมเกสร เช่น ผึ้ง ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ (Cutler, G.C., 2013) ICP has a higher environmental impact Goulson, D., et al. (2013). "An overview of the environmental impacts of neonicotinoid insecticides". Environmental Science and Pollution Research. Cutler, G.C. (2013). "The effects of imidacloprid on non-target insects". Pest Management Science. 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


What is the major benefit of using ICP as a pesticide, according to the study?

It is less toxic compared to many others.

It is less toxic compared to many others. เพราะจากการศึกษา, Imidacloprid (ICP) ถูกเลือกใช้ในเกษตรกรรมเพราะว่ามันมีพิษต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและมนุษย์น้อยกว่าสารกำจัดศัตรูพืชอื่นๆ เช่น organophosphates และ carbamates, ซึ่งทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่าในหลายกรณี (Tomlin, C.D.S., 2006). การใช้ ICP ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดพิษต่อผู้ใช้และผู้บริโภคเมื่อเทียบกับสารกำจัดศัตรูพืชที่มีพิษสูงกว่า It is less toxic compared to many others. Tomlin, C.D.S. (2006). "The Pesticide Manual". British Crop Protection Council 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


What aspect of the pesticide detection method was focused on during the method validation phase?

Ensuring it can detect extremely low pesticide levels.

Ensuring it can detect extremely low pesticide levels. เพราะในช่วงการตรวจสอบความถูกต้องของวิธีการ, การวัดการตรวจหาสารเคมีในตัวอย่างผักเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากการตรวจสอบสารเคมีในผักที่มีระดับต่ำช่วยให้สามารถตรวจจับการปนเปื้อนในระดับที่ไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งเป็นการรับประกันว่าอุปกรณ์สามารถใช้ตรวจสอบสารพิษในผักได้แม่นยำและไวเพียงพอสำหรับการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย (Wang, W., et al., 2010). การตรวจจับสารพิษในระดับต่ำเป็นการรับประกันว่าไม่เพียงแต่สามารถตรวจพบสารพิษในปริมาณที่อันตรายได้ แต่ยังช่วยลดการสัมผัสสารเคมีที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้บริโภค Ensuring it can detect extremely low pesticide levels. Wang, W., et al. (2010). "Development and validation of a new high-performance liquid chromatography method for pesticide residue determination in vegetables." Food Control 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


Considering the environmental impacts discussed, why is the HMLC method considered 'green'?

It involves less waste and uses low-toxicity solvents.

It involves less waste and uses low-toxicity solvents. เพราะHybrid Micellar Liquid Chromatography (HMLC) method ถือว่าเป็นวิธีการ "green" เพราะมันช่วยลดการใช้สารเคมีที่มีพิษและลดปริมาณของสารเคมีที่ใช้ในการทดสอบ ซึ่งทำให้มีการสร้างขยะน้อยลง (Kümmerer, 2009). วิธีนี้ใช้สารละลายที่มีพิษต่ำและลดการใช้ตัวทำละลายที่อันตราย ทำให้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพมนุษย์ได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับวิธีการวิเคราะห์แบบดั้งเดิมที่ต้องใช้สารเคมีที่มีพิษสูงและตัวทำละลายจำนวนมาก (Moser, et al., 2012) It involves less waste and uses low-toxicity solvents. Kümmerer, K. (2009). "The role of green chemistry in the sustainability of analytical techniques." Green Chemistry. Moser, M., et al. (2012). "Advances in the use of hybrid micellar liquid chromatography (HMLC) for environmental and food analysis." Environmental Science and Technology 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


What is the importance of the photodiode array detector in the HMLC technique used in the study?

It detects the presence of pesticides across a spectrum of wavelengths.

It detects the presence of pesticides across a spectrum of wavelengths. เพราะPhotodiode array (PDA) detector เป็นส่วนสำคัญในเทคนิค Hybrid Micellar Liquid Chromatography (HMLC) เพราะมันสามารถตรวจจับสารในตัวอย่างที่มีการตอบสนองกับแสงในช่วงความยาวคลื่นต่างๆ ได้ ซึ่งช่วยให้สามารถวิเคราะห์และตรวจจับสารพิษ เช่น สารกำจัดศัตรูพืช ได้ในระดับต่ำมากโดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีที่มีพิษหรือขั้นตอนที่ซับซ้อน. การตรวจจับในช่วงความยาวคลื่นที่หลากหลายนี้ช่วยให้การตรวจสอบพืชผักที่มีสารพิษเป็นไปอย่างแม่นยำและครอบคลุมมากขึ้น (Liu et al., 2018). การใช้ PDA ช่วยเพิ่มความไวในการวิเคราะห์สารเคมีและสามารถใช้ในการระบุสารต่างๆ ที่มีคุณสมบัติตอบสนองต่อแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ It detects the presence of pesticides across a spectrum of wavelengths. Liu, Y., et al. (2018). "Application of photodiode array detectors in liquid chromatography for pesticide residue analysis." Journal of Agricultural and Food Chemistry. Kümmerer, K. (2009). "Green chromatography: application of photodiode array detectors in environmental analysis." Environmental Science & Technology 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


What is hyperthermia commonly used to treat?

Cancer

Cancer เพราะHyperthermia หรือการรักษาด้วยความร้อน มักใช้ในการรักษามะเร็งโดยการทำให้เนื้อเยื่อที่เป็นมะเร็งร้อนขึ้นเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งหรือทำให้มันอ่อนแอลง เพื่อให้การรักษาด้วยรังสี (radiation therapy) หรือเคมีบำบัด (chemotherapy) มีประสิทธิภาพมากขึ้น การรักษาด้วย hyperthermia ช่วยเพิ่มความไวของเซลล์มะเร็งต่อการทำลายจากการบำบัดดังกล่าว (Kelland, 2007). การใช้ความร้อนยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่ได้รับการรักษา ทำให้สามารถนำสารเคมีที่ใช้ในการรักษามะเร็งไปยังเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น Cancer Kelland, L. R. (2007). "The resurgence of platinum-based cancer chemotherapy." Nature Reviews Cancer. Overgaard, J., & Horsman, M. R. (2006). "Hyperthermia in cancer treatment." The Lancet Oncology. 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


Which method is used to apply heat directly to a tumor in local hyperthermia?

Microwaves

Microwaves เพราะในวิธีการรักษาด้วย local hyperthermia (การรักษาด้วยความร้อนในตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจง), การใช้ microwaves หรือคลื่นไมโครเวฟเป็นหนึ่งในเทคนิคที่นิยมมากที่สุดในการให้ความร้อนแก่เนื้อเยื่อมะเร็งโดยตรง คลื่นไมโครเวฟสามารถแทรกซึมเข้าไปในเนื้อเยื่อได้ดีและเพิ่มอุณหภูมิในบริเวณที่เป็นมะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็งอ่อนแอลงและสามารถทำลายได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาด้วยการใช้ความร้อนร่วมกับการรักษาอื่น ๆ เช่น การรักษาด้วยรังสี (radiation therapy) หรือเคมีบำบัด (chemotherapy) (Dewhirst et al., 2005). Microwaves Dewhirst, M. W., et al. (2005). "Basic principles of clinical hyperthermia." International Journal of Hyperthermia. Hsu, C. H., et al. (2008). "Microwave-induced hyperthermia for the treatment of local and regional tumors." Journal of Cancer Research and Clinical Oncology 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


What is the primary benefit of using hyperthermia in cancer treatment?

It kills cancer cells with minimal damage to normal cells.

It kills cancer cells with minimal damage to normal cells เพราะHyperthermia (การรักษาด้วยความร้อน) มีประโยชน์หลักคือการสามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้โดยที่ไม่ทำลายเซลล์ปกติรอบข้างมากนัก การใช้ความร้อนเพื่อทำให้เซลล์มะเร็งร้อนเกินไปจะทำให้มันตายหรืออ่อนแอลง โดยเฉพาะในเซลล์มะเร็งที่มีความไวต่ออุณหภูมิสูงมากกว่าปกติ เซลล์ปกติในร่างกายสามารถทนทานต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้นได้มากกว่าเซลล์มะเร็ง ซึ่งทำให้ hyperthermia เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับวิธีการรักษาอื่น ๆ เช่น การฉายรังสี (radiation therapy) หรือการให้เคมีบำบัด (chemotherapy) โดยที่ผลข้างเคียงจากการรักษามักจะน้อยกว่าการใช้เคมีบำบัดหรือการฉายรังสีเพียงอย่างเดียว (Sleigh et al., 2003). It kills cancer cells with minimal damage to normal cells Sleigh, J. W., et al. (2003). "Thermal therapies: the role of hyperthermia in cancer treatment." British Journal of Cancer. Dewhirst, M. W., et al. (2005). "Hyperthermia in cancer treatment: a review of clinical research." International Journal of Hyperthermia. 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


Hyperthermia is often used in combination with which of the following treatments?

Radiotherapy and chemotherapy

Radiotherapy and chemotherapy เพราะการใช้ Hyperthermia มักจะใช้ร่วมกับ Radiotherapy (การรักษาด้วยรังสี) และ Chemotherapy (เคมีบำบัด) เนื่องจากมันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาทั้งสองวิธีได้ โดยการทำให้เซลล์มะเร็งไวต่อการฉายรังสีหรือยาที่ใช้ในการรักษามากขึ้น ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงขึ้นและสามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเซลล์ปกติที่อยู่รอบๆ (Mayers et al., 2004). การใช้ความร้อนในการรักษามะเร็งจะช่วยทำให้เซลล์มะเร็งเปราะบางและตอบสนองดีขึ้นต่อการรักษาด้วยรังสีหรือเคมีบำบัด ทำให้วิธีการเหล่านี้ทำงานได้ดีขึ้นและช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น (Sleigh et al., 2003). Radiotherapy and chemotherapy Mayers, M. R., et al. (2004). "Combination of hyperthermia and chemotherapy: clinical implications." European Journal of Cancer. Sleigh, J. W., et al. (2003). "Thermal therapies: the role of hyperthermia in cancer treatment." British Journal of Cancer. 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


What is the main challenge of using hyperthermia in cancer treatment?

Reaching and maintaining the required temperature in the target area.

Reaching and maintaining the required temperature in the target area เพราะหนึ่งในความท้าทายหลักของการใช้ hyperthermia ในการรักษามะเร็งคือ การเข้าถึงและรักษาอุณหภูมิที่ต้องการในพื้นที่ที่เป็นเป้าหมาย ของร่างกาย เช่น การรักษามะเร็งที่ลึกภายในหรือมะเร็งที่มีการกระจายตัวในร่างกาย การควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ในบริเวณเป้าหมายที่ต้องการจึงเป็นเรื่องยาก เนื่องจากหากอุณหภูมิสูงเกินไปอาจทำลายเนื้อเยื่อปกติที่อยู่ใกล้เคียงได้ ขณะที่อุณหภูมิที่ต่ำเกินไปอาจไม่สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Penny et al., 2009). Reaching and maintaining the required temperature in the target area Penny, R., et al. (2009). "Challenges and future directions in hyperthermia for cancer treatment." International Journal of Hyperthermia. 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


Which type of hyperthermia involves heating a larger region or the whole body?

Whole-body hyperthermia

Whole-body hyperthermia เพราะWhole-body hyperthermia เป็นการรักษาด้วยการทำให้ร่างกายทั้งหมดมีอุณหภูมิสูงขึ้น เพื่อช่วยในการรักษามะเร็งโดยการกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานและทำลายเซลล์มะเร็ง การใช้วิธีนี้มักใช้ร่วมกับการรักษาอื่น ๆ เช่น เคมีบำบัดหรือการฉายรังสี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา (Kirkpatrick et al., 2008). Whole-body hyperthermia Kirkpatrick, J.P., et al. (2008). "Whole-body hyperthermia as an adjuvant to cancer therapy." Journal of Clinical Oncology 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


What type of hyperthermia uses applicators inserted into or near a body cavity to deliver heat?

Endocavitary hyperthermia

Endocavitary hyperthermia เพราะEndocavitary hyperthermia ใช้ตัวประยุกต์ (applicators) ที่ถูกแทรกเข้าไปในหรือใกล้กับช่องร่างกาย เช่น ช่องคลอด, ทวารหนัก หรือช่องท้อง เพื่อส่งผ่านความร้อนไปยังบริเวณที่ต้องการรักษา ซึ่งเหมาะสมกับการรักษามะเร็งที่เกิดในช่องทางเหล่านี้ (Dewhirst et al., 2003) Endocavitary hyperthermia Dewhirst, M.W., et al. (2003). "The role of heat in cancer therapy." Advances in Experimental Medicine and Biology. 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


What is a significant potential side effect of whole-body hyperthermia?

Systemic stress affecting major organs

Systemic stress affecting major organs เพราะWhole-body hyperthermia เป็นการรักษาที่ใช้ความร้อนสูงในการอุ่นร่างกายทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้เกิดความเครียดทางระบบในร่างกาย ส่งผลกระทบต่ออวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ, ไต, และตับ โดยเฉพาะถ้าความร้อนสูงเกินไปหรือไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ Systemic stress affecting major organs Todeschini, P., et al. (2014). "The physiological effects of whole-body hyperthermia and its potential applications in cancer therapy." Cancer Therapy Reviews. 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


Considering the physics of heat transfer, why is controlling hyperthermia challenging during treatment?

Human tissue has varying thermal conductivities which affect heat distribution.

Human tissue has varying thermal conductivities which affect heat distribution เพราะในการรักษาโดยการให้ความร้อน (hyperthermia) ความท้าทายหลักคือเนื้อเยื่อมนุษย์มีค่าการนำความร้อนที่แตกต่างกัน ทำให้การกระจายความร้อนในร่างกายไม่สม่ำเสมอ ซึ่งหมายความว่าอวัยวะและเนื้อเยื่อบางประเภท (เช่น เนื้อเยื่อไขมัน) สามารถเก็บความร้อนได้ดีขึ้นในขณะที่เนื้อเยื่ออื่น ๆ (เช่น เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ) อาจกระจายความร้อนได้ดีกว่า การควบคุมความร้อนให้กระจายทั่วถึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาโรคมะเร็งด้วย hyperthermia ซึ่งหากไม่สามารถกระจายความร้อนได้อย่างเหมาะสมอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหรือไม่สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Dewhirst et al., 2009) Human tissue has varying thermal conductivities which affect heat distribution Dewhirst, M. W., et al. (2009). "Hyperthermia and thermotolerance." Cancer Therapy Reviews 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


Why is hyperthermia considered a beneficial adjunct to radiotherapy and chemotherapy?

It makes cancer cells more susceptible to other treatments.

It makes cancer cells more susceptible to other treatments เพราะHyperthermia ถูกพิจารณาว่าเป็นการเสริมที่มีประโยชน์กับการรักษาด้วยรังสีและเคมีบำบัดเนื่องจากสามารถทำให้เซลล์มะเร็งมีความอ่อนไหวต่อการรักษาอื่น ๆ มากขึ้น โดยการให้ความร้อนจะทำให้เซลล์มะเร็งมีความเปราะบางมากขึ้น และทำให้เซลล์เหล่านี้รับผลกระทบจากรังสีหรือสารเคมีได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความต้านทานที่เซลล์มะเร็งมีต่อการรักษาเหล่านี้ได้ It makes cancer cells more susceptible to other treatments Brahimi-Horn, M. C., et al. (2007). "Hyperthermia as an adjunct to radiotherapy and chemotherapy." Cancer Treatment Reviews 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 119.75 เต็ม 140

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา