ตรวจข้อสอบ > ณพงศ์ภพ เอ็งอุทัยวัฒน์ > เคมีเชิงวิทยาศาสตร์การแพทย์ | Chemistry in Medical Science > Part 2 > ตรวจ

ใช้เวลาสอบ 36 นาที

Back

# คำถาม คำตอบ ถูก / ผิด สาเหตุ/ขยายความ ทฤษฎีหลักคิด/อ้างอิงในการตอบ คะแนนเต็ม ให้คะแนน
1


What is hybrid micellar liquid chromatography primarily used for in the study?

To detect commonly used pesticides in vegetables.

ในการศึกษานี้ Hybrid Micellar Liquid Chromatography (HMLC) ถูกใช้เพื่อตรวจสอบและวิเคราะห์สารตกค้างของยาฆ่าแมลงที่ใช้บ่อยในผักใบเขียว โดยเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง ลดการใช้สารเคมีอันตราย และเหมาะสำหรับการตรวจสอบสารตกค้างในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร Detection of most commonly used pesticides in green leafy vegetables from sagar, india using direct injection hybrid micellar liquid chromatography 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

2


Which pesticide was found most commonly in the vegetable samples?

Chlorpyrifos

พบว่า Chlorpyrifos เป็นสารกำจัดศัตรูพืชที่พบมากที่สุดในตัวอย่างผักใบเขียว โดยตรวจพบใน 76% ของตัวอย่างที่วิเคราะห์ รองลงมาคือ Profenofos (51%) และ Imidacloprid (8%) Detection of most commonly used pesticides in green leafy vegetables from sagar, india using direct injection hybrid micellar liquid chromatography 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

3


What percentage of the vegetable samples tested were found to contain no detectable pesticides?

16%

พบว่า 16% ของตัวอย่างผักใบเขียวที่ทดสอบ ไม่มีสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างในระดับที่ตรวจพบได้ ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่ได้ใช้สารกำจัดศัตรูพืชหรือปริมาณที่ใช้ต่ำกว่าขีดจำกัดการตรวจจับของวิธีการวิเคราะห์ Detection of most commonly used pesticides in green leafy vegetables from sagar, india using direct injection hybrid micellar liquid chromatography 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

4


Which of the following is NOT a reason for the use of hybrid micellar liquid chromatography (HMLC)?

It requires extensive solvent use.

Hybrid Micellar Liquid Chromatography (HMLC) ลดการใช้ตัวทำละลายที่เป็นพิษ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเด่นของเทคนิคนี้ ตรงกันข้ามกับตัวเลือกนี้ ข้อดีของ HMLC ที่ระบุในงานวิจัยคือเป็น วิธีการวิเคราะห์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Analytical Method), ใช้สารเคมีอันตรายในปริมาณต่ำ, ใช้งานง่าย และให้ผลลัพธ์รวดเร็ว Detection of most commonly used pesticides in green leafy vegetables from sagar, india using direct injection hybrid micellar liquid chromatography 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

5


What was the primary methodological change in the HMLC technique used in the study?

Use of a micellar mobile phase with reduced solvent usage.

การศึกษานี้ใช้ Hybrid Micellar Liquid Chromatography (HMLC) ซึ่งเป็นการปรับปรุงจาก HPLC แบบดั้งเดิม โดย ใช้เฟสเคลื่อนที่ที่มีไมเซลล์ (micellar mobile phase) ซึ่งลดการใช้ตัวทำละลายอินทรีย์ที่เป็นพิษ ทำให้วิธีนี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ลดต้นทุน และลดมลพิษจากของเสียทางเคมี Detection of most commonly used pesticides in green leafy vegetables from sagar, india using direct injection hybrid micellar liquid chromatography 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

6


According to the study, why might vegetable growers prefer other pesticides over Imidacloprid (ICP)?

ICP is more expensive.

ในการศึกษาพบว่า Imidacloprid (ICP) มีราคาสูงกว่าสารกำจัดศัตรูพืชแบบดั้งเดิมถึง 10 เท่า และมีความเข้มข้นต่ำกว่ายาฆ่าแมลงประเภท Organophosphates (OPs) ทำให้ต้องใช้ในปริมาณมากกว่าเพื่อให้ได้ผลที่ต้องการ ส่งผลให้เกษตรกรนิยมใช้สารกำจัดศัตรูพืชชนิดอื่นที่มีราคาถูกกว่าแทน Detection of most commonly used pesticides in green leafy vegetables from sagar, india using direct injection hybrid micellar liquid chromatography 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

7


What is the major benefit of using ICP as a pesticide, according to the study?

It is less toxic compared to many others.

การศึกษาระบุว่า Imidacloprid (ICP) มีความเป็นพิษต่ำกว่ายาฆ่าแมลงแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะกลุ่ม Organophosphates (OPs) ซึ่งมีความเป็นพิษสูงและอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพรุนแรง นอกจากนี้ ICP ยังถูกพิจารณาว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าสำหรับทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค แม้ว่าจะไม่เป็นที่นิยมมากนักเนื่องจากราคาสูงกว่า Detection of most commonly used pesticides in green leafy vegetables from sagar, india using direct injection hybrid micellar liquid chromatography 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

8


What aspect of the pesticide detection method was focused on during the method validation phase?

Ensuring it can detect extremely low pesticide levels.

ในขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้องของวิธี (method validation) การศึกษามุ่งเน้นไปที่ การตรวจจับสารกำจัดศัตรูพืชในระดับความเข้มข้นต่ำมาก โดยประเมินค่าขีดจำกัดการตรวจจับ (LOD) และขีดจำกัดการหาปริมาณ (LOQ) ซึ่งอยู่ในช่วง 0.04 - 0.12 mg/Kg และ 0.09 - 0.25 mg/Kg ตามลำดับ เพื่อให้มั่นใจว่าวิธีนี้สามารถตรวจสอบสารตกค้างในปริมาณน้อยได้อย่างแม่นยำและเชื่อถือได้ Detection of most commonly used pesticides in green leafy vegetables from sagar, india using direct injection hybrid micellar liquid chromatography 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

9


Considering the environmental impacts discussed, why is the HMLC method considered 'green'?

It involves less waste and uses low-toxicity solvents.

วิธี Hybrid Micellar Liquid Chromatography (HMLC) ถูกพิจารณาว่าเป็น “green analytical method” เนื่องจาก ลดการใช้ตัวทำละลายอินทรีย์ที่เป็นพิษ ลดของเสีย และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้เฟสเคลื่อนที่ที่ประกอบด้วยไมเซลล์ (micellar mobile phase) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าวิธีโครมาโตกราฟีแบบดั้งเดิม Detection of most commonly used pesticides in green leafy vegetables from sagar, india using direct injection hybrid micellar liquid chromatography 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

10


What is the importance of the photodiode array detector in the HMLC technique used in the study?

It detects the presence of pesticides across a spectrum of wavelengths.

Photodiode Array Detector (PDA) ในเทคนิค HMLC มีบทบาทสำคัญในการตรวจจับสารกำจัดศัตรูพืช โดยสามารถวิเคราะห์การดูดกลืนแสงของสารตัวอย่างในช่วงความยาวคลื่นที่หลากหลาย ซึ่งช่วยให้สามารถระบุและแยกแยะสารประกอบต่างๆ ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ Detection of most commonly used pesticides in green leafy vegetables from sagar, india using direct injection hybrid micellar liquid chromatography 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

11


What is hyperthermia commonly used to treat?

Cancer

ไฮเปอร์เทอร์เมีย (Hyperthermia) เป็นวิธีการรักษาที่ใช้ความร้อนเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งหรือทำให้เซลล์มะเร็งไวต่อรังสีรักษาและเคมีบำบัดมากขึ้น การใช้ไฮเปอร์เทอร์เมียในการรักษามะเร็งมีการศึกษาทางคลินิกอย่างกว้างขวาง และแสดงให้เห็นว่าสามารถช่วยลดขนาดของเนื้องอกหรือเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษามะเร็งประเภทอื่น ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม ไฮเปอร์เทอร์เมียไม่ได้ใช้รักษาโรคติดเชื้อ ปวดเรื้อรัง ไมเกรน หรือไข้หวัดใหญ่เป็นหลัก Hyperthermia: Role and Risk Factor for Cancer Treatment 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

12


Which method is used to apply heat directly to a tumor in local hyperthermia?

Microwaves

ในไฮเปอร์เทอร์เมียเฉพาะที่ (Local Hyperthermia) ความร้อนจะถูกนำไปใช้โดยตรงกับเนื้องอกโดยใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น คลื่นไมโครเวฟ (Microwaves), คลื่นอัลตราซาวนด์ (Ultrasound), หรือคลื่นวิทยุ (Radiofrequency) วิธีเหล่านี้สามารถเจาะลึกเข้าไปในร่างกายและให้ความร้อนเฉพาะจุดได้อย่างแม่นยำ แตกต่างจากการใช้แสงอินฟราเรดหรือการสัมผัสกับแหล่งความร้อนทั่วไป เช่น การอาบน้ำร้อนหรือการโดนแสงแดด ซึ่งไม่สามารถให้ความร้อนเฉพาะเจาะจงกับเนื้องอกได้ Hyperthermia: Role and Risk Factor for Cancer Treatment 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

13


What is the primary benefit of using hyperthermia in cancer treatment?

It kills cancer cells with minimal damage to normal cells.

ไฮเปอร์เทอร์เมียช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งโดยการทำลายโปรตีนและโครงสร้างภายในเซลล์มะเร็ง โดยมีผลกระทบต่อเซลล์ปกติน้อยกว่าการรักษาแบบอื่น ๆ เช่น เคมีบำบัดหรือรังสีรักษา นอกจากนี้ ยังช่วยให้เซลล์มะเร็งไวต่อรังสีและยาเคมีบำบัดมากขึ้น ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น ไฮเปอร์เทอร์เมียไม่ได้ทำให้เซลล์มะเร็งแข็งแรงขึ้น และไม่สามารถใช้เป็นวิธีรักษาเดี่ยวได้ นอกจากนี้ ยังอาจมีผลข้างเคียง เช่น แสบร้อนหรืออาการคลื่นไส้ และไม่ได้ถูกมองว่าเป็นวิธีรักษาที่ต้นทุนต่ำเสมอไป Hyperthermia: Role and Risk Factor for Cancer Treatment 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

14


Hyperthermia is often used in combination with which of the following treatments?

Radiotherapy and chemotherapy

ไฮเปอร์เทอร์เมียมักใช้ร่วมกับ รังสีรักษา (Radiotherapy) และเคมีบำบัด (Chemotherapy) เนื่องจากความร้อนสามารถช่วยเพิ่มความไวของเซลล์มะเร็งต่อรังสีและยาต้านมะเร็งได้ โดยการรบกวนกระบวนการซ่อมแซม DNA ของเซลล์มะเร็ง และเพิ่มการดูดซึมยาเข้าสู่เซลล์มะเร็ง ทำให้ประสิทธิภาพของการรักษาเพิ่มขึ้น ในขณะที่การใช้ร่วมกับวัคซีน ยาปฏิชีวนะ หรือกายภาพบำบัดไม่ใช่วิธีการที่ใช้กันทั่วไปสำหรับการรักษามะเร็ง Hyperthermia: Role and Risk Factor for Cancer Treatment 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

15


What is the main challenge of using hyperthermia in cancer treatment?

Reaching and maintaining the required temperature in the target area.

ความท้าทายหลักของไฮเปอร์เทอร์เมียในการรักษามะเร็งคือ การควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมและสม่ำเสมอในบริเวณที่ต้องการ อุณหภูมิที่สูงเกินไปอาจทำลายเนื้อเยื่อปกติ ในขณะที่อุณหภูมิที่ต่ำเกินไปอาจไม่มีผลในการทำลายเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้ การไหลเวียนของเลือดและลักษณะของเนื้องอกยังส่งผลต่อการกระจายความร้อน ทำให้การควบคุมอุณหภูมิเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ไฮเปอร์เทอร์เมียไม่ได้จำกัดเฉพาะเนื้องอกในสมอง ไม่ต้องใช้เวลาหลายปีในการรักษา และมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนถึงประสิทธิภาพของมันเมื่อใช้ร่วมกับรังสีรักษาและเคมีบำบัด Hyperthermia: Role and Risk Factor for Cancer Treatment 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

16


Which type of hyperthermia involves heating a larger region or the whole body?

Whole-body hyperthermia

Whole-Body Hyperthermia (ไฮเปอร์เทอร์เมียทั้งร่างกาย) เป็นเทคนิคที่ใช้ เพิ่มอุณหภูมิของร่างกายทั้งหมด เพื่อต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งที่แพร่กระจาย (metastatic cancer) วิธีนี้สามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและทำให้เซลล์มะเร็งไวต่อการรักษาอื่น ๆ เช่น เคมีบำบัด ในขณะที่ Local Hyperthermia และ Regional Hyperthermia จะเน้นความร้อนเฉพาะจุดหรือบริเวณกว้างกว่าเล็กน้อย Interstitial และ Intracavitary Hyperthermia เป็นวิธีที่ใช้สำหรับเนื้องอกที่อยู่ลึกหรือภายในโพรงร่างกาย Hyperthermia: Role and Risk Factor for Cancer Treatment 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

17


What type of hyperthermia uses applicators inserted into or near a body cavity to deliver heat?

Endocavitary hyperthermia

Endocavitary Hyperthermia (ไฮเปอร์เทอร์เมียในโพรงร่างกาย) เป็นเทคนิคที่ใช้ อุปกรณ์ให้ความร้อน (applicators) ใส่เข้าไปในโพรงร่างกาย เช่น หลอดอาหาร ทวารหนัก หรือช่องคลอด เพื่อนำพลังงานความร้อนไปทำลายเซลล์มะเร็ง วิธีนี้เหมาะสำหรับมะเร็งที่อยู่ใกล้กับโพรงอวัยวะ เช่น มะเร็งหลอดอาหารหรือมะเร็งทวารหนัก แตกต่างจาก Interstitial Hyperthermia ซึ่งใช้สำหรับก้อนเนื้องอกลึกโดยการใส่หัวจ่ายพลังงานเข้าไปโดยตรงในเนื้อเยื่อ และไม่เหมือน Local หรือ Regional Hyperthermia ที่ให้ความร้อนบนพื้นผิวหรือลึกเข้าไปเฉพาะบริเวณหนึ่งของร่างกาย Hyperthermia: Role and Risk Factor for Cancer Treatment 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

18


What is a significant potential side effect of whole-body hyperthermia?

Systemic stress affecting major organs

Whole-Body Hyperthermia (ไฮเปอร์เทอร์เมียทั้งร่างกาย) อาจทำให้เกิด ภาวะเครียดต่อระบบร่างกาย (Systemic Stress) ซึ่งอาจส่งผลต่ออวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ ปอด และไต เนื่องจากอุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มขึ้นสามารถกระตุ้นการตอบสนองทางสรีรวิทยา เช่น ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น และการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตได้รับผลกระทบ ผลข้างเคียงนี้สำคัญกว่าการอยากอาหารเพิ่มขึ้นหรือการเคลื่อนไหวดีขึ้น และถึงแม้ไฮเปอร์เทอร์เมียอาจช่วยลดขนาดของเนื้องอกเมื่อใช้ร่วมกับการรักษาอื่น ๆ แต่จะไม่ทำให้ก้อนเนื้อหดตัวทันที นอกจากนี้ ไม่มีหลักฐานว่าการรักษานี้กระตุ้นให้เส้นผมงอกขึ้น Hyperthermia: Role and Risk Factor for Cancer Treatment 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

19


Considering the physics of heat transfer, why is controlling hyperthermia challenging during treatment?

Human tissue has varying thermal conductivities which affect heat distribution.

ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยเนื้อเยื่อหลายประเภท ซึ่งแต่ละชนิดมี ค่าการนำความร้อน (thermal conductivity) และการไหลเวียนของเลือด (perfusion) ที่แตกต่างกัน ทำให้การกระจายความร้อนภายในร่างกายไม่สม่ำเสมอ ตัวอย่างเช่น เนื้อเยื่อไขมันนำความร้อนน้อยกว่าเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ และ เลือดสามารถช่วยระบายความร้อนออกจากบริเวณที่ได้รับการรักษา ส่งผลให้บางจุดได้รับความร้อนมากเกินไป ในขณะที่บางจุดอาจไม่ได้รับความร้อนเพียงพอ นี่เป็นความท้าทายสำคัญของไฮเปอร์เทอร์เมียในการรักษามะเร็ง Hyperthermia: Role and Risk Factor for Cancer Treatment 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

20


Why is hyperthermia considered a beneficial adjunct to radiotherapy and chemotherapy?

It makes cancer cells more susceptible to other treatments.

Hyperthermia: Role and Risk Factor for Cancer Treatment 7

-.50 -.25 +.25 เต็ม 0 -35% +30% +35%

ผลคะแนน 96.5 เต็ม 140

แท๊ก หลักคิด
แท๊ก อธิบาย
แท๊ก ภาษา